"โค้ชเบ๊" มอง "ลำพูน" เป็นต่อ "ขอนแก่น"

ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก
ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก / KHON KAEN UNITED
facebooktwitterreddit

ความเคลื่อนไหวก่อนศึกไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 สัปดาห์ที่ 13 ที่ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ลำพูน วอริเออร์ ทีมอันดับ 16 เปิดบ้านพบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 13 ในวันเสาร์ที่ 12 พฤจิกายน 2565 เวลา 19.00 น. สำหรับ จงอางผยอง เสมอมาสามเกมติด และออกมานอกโซนแดงได้แล้วในตอนนี้ ส่วน ราชันโคขาวเพิ่งชนะแค่เกมเดียวจาก 12 เกมแรก

ก่อนการแข่งขัน ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก หัวหน้าผู้ฝึกสอน ขอนแก่น ยูไนเต็ด กล่าวถึงความพร้อมก่อนเกมว่า "มันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเรามารับทีมที่มีผลงานกำลังดาวน์ สิ่งที่เราเจอก็คือต้องค้นหาปัญหาว่าดาวน์ลงเพราะอะไร มันก็ต้องแก้ตรงจุดนั้น แก้เป็นจุดๆไป ตอนนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือ แค่ค่อยๆแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไป ตัวผู้เล่น ก็ไม่ถึงกับต้องลองนักเตะใหม่ แค่ดูใช้ผู้เล่นเก่าๆ ที่สภาพยังดี อยู่ ไม่มีอาการบาดเจ็บ และไปแก้เอาหน้างาน ที่ผมเน้นคือให้เขารู้จักเล่น ถ้าเขารู้จักเล่น เขาสบายใจ เขาก็มีช่องทางไปได้ประมาณนั้น"

"นักเตะในทีมตอนนี้ หลายคนมีอาการล้าและเจ็บ อย่าง จักรกริช พาละพล และ นฤพล อารมณ์สวะ รวมถึงอีก 2-3 ราย แต่เราจะไม่มองประเด็นนั้น จะไปรอเขากลับมาก็อีกนาน เราก็จะมองผู้เล่นชุดปัจจุบัน ที่มีอยู่ก็ 17-18 คน พวกนี้เขามีความพร้อมในระดับที่น่าพอใจ ต้องชมโค้ชเก่า เตรียมทีมมาค่อนข้างดี เพียงแต่ว่าปัญหาที่เขาเจอ อาจเป็นบางจุดที่เขามองข้าม พอเขามองข้ามไปแล้วมันสะสม และไม่แก้ไข ก็ตกหล่น ผมก็มาแก้ปัญหาตรงนี้ มันต้องดีขึ้นตามธรรมชาติ แต่จะดีขึ้นขนาดไหน มันตอบไม่ได้ มันอ่านยากกว่าหุ้น"

"เป้าหมายของบอร์ดบริหาร สั้นๆ คำเดียว คือ เล่นให้สนุก ไม่บอกเป้าหมายเลย เป้าหมายก็รู้กันอยู่ คุยกันแล้วเข้าใจ เป้าหมายไม่ได้คุยละเอียดว่าต้องแบบไหน ไม่มีตัวเลข ไม่มีอันดับ ขอแค่ให้เล่นดี เล่นให้สนุก เพราะว่า แฟนบอลเขาอยากดูบอลที่มันไม่เหยาะแหยะ ถ้ามันดี เดี๋ยวก็ดีเอง ถ้าเราทำได้ดี ทุกอย่างมาเอง ตัวเลขมันมาเอง"

"เกมที่แล้วที่เจอกัน ก็โรเตชั่นทั้งคู่ได้ลองผู้เล่น เพราะว่าสถานการณ์ทีมตอนนี้ ก็อ่านเหมือนกัน เป็นการลองระบบ ลองผู้เล่น และแมตช์ที่แล้วเป็นจังหวะฟุตบอล และก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเกม สู้ลำพูน ไม่ได้ แค่นิดเดียว สวิงนิดเดียว บอลก็เลยเป๋ไปอีกทาง มันมีปัจจัยแค่นั้น ถ้าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อยู่ในร่องในรอย มันก็สนุกกว่านั้น มันมีแค่นั้นเอง"

"ผมว่ามันไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่ผมเคยอยู่เชียงใหม่ เจ้าบ้านก็ได้เปรียบกว่า เดินทางก็ใกล้กว่า และตัวผมเองก็รู้จักสนาม แต่ไม่รู้จักนักฟตุบอล อาจจะเคยชินกับสภาพแวดล้อมเคยไปนั่ง รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย แต่นักบอลก็ลงไปในสนาม เจ้าบ้านก็ยังได้เปรียบกว่า แม้เขาจะมีความรู้สึกเป็นของเจ้าบ้าน แม้ไม่ใช่บ้านของเขา แต่เขาก็ได้เปรียบ"