เปิดใจ กาก้า ถึงยุคทองกับ เอซี มิลาน แรงบันดาลใจในอาชีพ และความพ่ายแพ้อย่างหน้าเจ็บปวดต่อ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2005

UEFA Champions League Semi Final: Manchester United v AC Milan
UEFA Champions League Semi Final: Manchester United v AC Milan / Alex Livesey/GettyImages
Presented by
OPPO
facebooktwitterreddit

ริคาร์โด้ กาก้า หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดแห่งยุคผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยได้สัมผัสถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ OPPO แบรนด์ที่เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ศึกฟุตบอลที่ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ณ เวลานี้

แข้งชาวบราซิลมีบทบาทสำคัญและประสบการณ์ที่น่าจดจำในฟุตบอลรายการนี้โดยเฉพาะการเข้าชิงชนะเลิศเมื่อปี 2005 และ 2007

และโอกาสนี้ที่ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กำลังจนกลับมาใช้สังเวียนชิงชนะเลิศที่ อาตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงอิสตันบูลอีกครั้ง ทาง OPPO ก็เตรียมที่จะร่วมสนุกและเฉลิมฉลองไปกับการชิงแชมป์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า !

และก่อนเกมดังกล่าวจะมาถึง 90MiN ได้จับเข่าคุยเพื่อเปิดใจเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต ทั้งกับทีม เอซี มิลาน การเล่นฟุตบอลยุโรป การร่วมงานกับบุคคลชั้นนำของวงการในช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้ง รวมถึงแรงบันดาลใจในการเป็นนักฟุตบอลของเขากัน...

ถึง เอซี มิลาน...

"ที่นั้นผมประสบความสำเร็จมากมายทั้งส่วนตัวและระดับสโมสร ผมอาจจะโดดเด่นในทีมแต่มันคือเรื่องของความสำเร็จส่วนรวมและทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยม ดังนั้นผมต้องขอบคุณเพื่อนรวมทีมทุกคนที่มีส่วนร่วมกับประสบการณ์เหล่านั้น ผมจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลยหากไม่มีพวกเขา ทุก ๆ คนคือสุดยอดทั้ง ดิด้า คาฟู เนสต้า แยนคูลอฟสกี้ อ็อดโด้ ปิร์โล กัตตูโซ อัมโบรซินี และ อินซากี้"

ถึง ลิเวอร์พูล...

"ในปี 2005 เราเกือบแล้วจริง ๆ ออกนำ ลิเวอร์พูล ก่อนถึง 3-0 ในครึ่งแรก การจ่ายบอลให้ เครสโป เกมนั้นคือหนึ่งในแอสซิสต์ที่ดีที่สุดในอาชีพของผม ส่วนตัวผมมองว่าเวลานั้นเรามีเกมรับที่แข็งแกร่งสุด ๆ แต่เรากลับมาเสีย 3 ประตูในเวลา 6 นาที แน่นอนมันคือนัดชิงชนะเลิศที่เหลือเชื่อ น่าเสียดายที่เราเป็นฝ่ายแพ้ แต่อย่างน้อยผมได้มีส่วนร่วมกับเกมที่น่าทึ่งมากที่สุดนัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล"

"มันคือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม เราแพ้ แต่ผมโชคดีที่ได้อยู่ที่นั่น ได้มีส่วนรวมกับช่วงเวลาปาฏิหาริย์อันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งสำหรับผมมันคือประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมได้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบทเรียนที่ได้จากเกมนั้น ผมไม่สามารถควบคุมผลการแข่งขันได้ สิ่งที่ทำได้คือกระบวนการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย มันสอนให้ผมมีความเป็นมืออาชีพ ใส่ใจถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากขึ้น และมีส่วนทำให้เวลาของเรามาถึงในอีก 2 ปีต่อมาที่เราคว้าชัยชนะบ้าง และผมเชื่อว่าปาฏิหาริย์สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณมีความเป็นมืออาชีพและทุ่มเทเพื่อบรรลุเป้าหมายมากพอ"

ถึง การบริหารภายในทีม...

"คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นผู้จัดการทีมที่มีอิทธิพลต่ออาชีพของผมมากที่สุด ผมร่วมงานกับเขา 6 ปีเต็มที่ มิลาน และเขาเป็นคนทำให้ผมมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่ง ผมมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา เขาสามารถบริหารจัดการนักเตะระดับซุเปอร์สตาร์ในทีมได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเพราะด้วยความธรรมดา ๆ ของเขาแต่กลับสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และสำหรับผมนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดของยอดกุนซือคนนี้"

แรงบันดาลใจในการเป็นนักฟุตบอล...

หากใครได้มีโอกาสรับชมฟุตบอลในยุค 90 น่าจะพอได้ยินชื่อของ "ไร" กองกลางเพลย์เมคเกอร์ชาวบราซิลมาบ้าง ซึ่งเขาคนนี้คือไอดอลและแรงบันดาลใจของ กาก้า ตั้งแต่ยังเด็ก

"ไร คือแบบอย่างของผม เขาเล่นให้กับ เซา เปาโล และทีมชาติบราซิล แน่นอนการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1994 คือความสำเร็จสูงสุด ตอนผมยังเด็กผมอยากเล่นให้ได้เหมือนเขา เพราะผมเติบโตที่ เซา เปาโล และได้ดูเขาเล่นที่นั่น"

นั่นทำให้ตอน 8 ขวบ กาก้า เองก็เริ่มต้นการค้าแข้งของเขาที่ เซา เปาโล เช่นกัน ก่อนจะพัฒนาและกลายมาเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของวงการ นอกจากนี้เจ้าตัวยังพูดถึงคุณลักษณะที่ทำให้เขาเหนือกว่าคนอื่น ๆ ว่า "ผมคิดว่าผมมีพลังงานเหลือเฟือในสนาม และผมรู้ว่าจะใช้มันยังไงเพื่อที่จะทำให้เกมมันง่ายขึ้น"

หลังจากประสบความสำเร็จกับ เอซี มิลาน กวาดรางวัลต่าง ๆ มากมาย ในที่สุดปี 2009 เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด เมื่อถูกถามว่านี่คือความทะเยอทะยานในอาชีพใช่หรือไม่ กาก้า ตอบว่า "ผมคิดมาตลอดว่าวันหนึ่งถ้าผมจะออกจาก มิลาน ผมอยากไปเล่นให้ เรอัล มาดริด และปีนั้นมันก็เกิดขึ้น"

"มันเป็นการเดินทางที่น่าเหลือเชื่อ 4 ปีที่นั่นผมคว้าแชมป์ลีก โคปา เดล เรย์ รวมถึง ซุเปอร์คัพ มันคือช่วงเวลาอันยอดเยี่ยม"

กาก้า คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในยุคของเขาทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ น้อยคนที่จะประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้ทั้งในฐานะทีมและระดับส่วนตัว จากการเล่นฟุตบอลข้างถนนที่ เซา เปาโล สู่การเป็นตำนานนักเตะ เบื้องหลังความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์นี้คือความพยายามมุมานะต่ออุปสรรครวมถึงความเชื่อว่าเราจะบรรลุกรอบเดิม ๆ และพร้อมเปิดรับความท้าทายต่าง ๆ ที่เข้ามา

ในฐานะที่เป็นบุคคลที่พบเจอกับเรื่องปาฏิหาริย์มากมายในอาชีพการค้าแข้ง กาก้า เชื่อว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการฝึกฝนจนชำนาญ บวกกับความมีประสิทธิภาพ ความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ จนเกิดเป็นความแม่นยำ ซึ่งหากคุณมีสิ่งนั้นไม่ว่าเรื่องใด ปาฏิหาริย์ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น !

ในฐานะที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ OPPO กาก้า ได้แบ่งปันความเข้าใจของเขาต่อแนวคิดแบรนด์ OPPO ที่ว่า Expertise Inspires Trust หรือความเชี่ยวชาญเป็นแรงบันดาลให้เกิดความไว้วางใจ ว่า "สิงนี้เกี่ยวข้องกับฟุตบอลอย่างมาก เพราะวงการนี้คุณจำเป็นต้องเก่งในที่สิ่งที่ทำจริง ๆ รวมถึงคอนเซ็ปในเรื่อง แรงบันดาลใจเพื่อก้าวไปข้างหน้า ก็อยู่ในสปิริตของนักกีฬาทุกคนที่ต้องการจะบรรลุเป้าหมายเมื่อต้องพบกับอุปสรรคต่าง ๆ"

และด้วยการร่วมมือกันของ กาก้า และ OPPO แบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำก็พร้อมจะส่งต่อแพชชั่นและแรงบันดาลใจรวมเข้ากับการเป็นพาร์ทเนอร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในการกระชับสัมพันธ์กับแฟนบอลทั่วทุกมุมโลก


เกี่ยวกับ OPPO

OPPO เป็นบริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก โดยเป็นแบรนด์จีนรายแรกที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยบริษัทจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ยูฟ่า ทั้งในฤดูกาล 2022/23 และ 2023/24 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจมาสู่กีฬามากขึ้นผ่านอุปกรณ์และเทคโนโลยีชั้นนำที่มี ในขณะเดียวกันยังช่วยให้แฟนฟุตบอลสามารถเป็นประจักษ์พยาน เก็บภาพความทรงจำ และแบ่งปันความมหัศจรรย์ของเกมฟุตบอลด้วย OPPO Find N2 Flip สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่างเป็นทางการของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะจัดแสดงในบูธของ OPPO ที่การแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2023 รอบชิงชนะเลิศ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย อีกด้วย

" แรงบันดาลใจเพื่อก้าวไปข้างหน้า"

การนำเสนอแบรนด์ของ OPPO - Inspiration Ahead แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่กำลังพยายามทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สื่อถึงแนวความคิดของ OPPO ต่อความเป็นไปของโลกในปัจจุบันที่พร้อมจะนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่ชีวิตของผู้คน ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมืออาชีพ เชื่อถือได้ ล้ำสมัย เพราะ OPPO เชื่อว่าความเชี่ยวชาญจะสร้างความไว้วางใจ และแบรนด์เทคโนโลยีที่มีความรู้ความชำนาญจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในอนาคตได้

ข้อมูลเพื่อเติม เกี่ยวกับ OPPO