แรทคลิฟฟ์ หวังขับเคลื่อน แมนยู แม้ซื้อหุ้นส่วนน้อย

แม้การลงทุนของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ที่มีต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นการซื้อหุ้นส่วนน้อยแค่ 25% แต่พวกเขาก็คาดหวังถึงการได้อำนาจบริหารงานด้านฟุตบอล แทนที่ตระกูลเกลเซอร์
FBL-FRA-LIGUE1-MONACO-NICE
FBL-FRA-LIGUE1-MONACO-NICE / VALERY HACHE/GettyImages
facebooktwitterreddit

สื่ออังกฤษเผย แม้การลงทุนของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เจ้าของกิจการพลังงานชั้นนำ อีนิออส ที่มีต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นการซื้อหุ้นส่วนน้อยแค่ 25% แต่พวกเขาก็คาดหวังถึงการได้อำนาจบริหารงานด้านฟุตบอลของสโมสร แทนที่ตระกูลเกลเซอร์ พร้อมทั้งยังจะสนับสนุนการทำงานของ เอริค เทน ฮาก ต่อไปด้วย

วานนี้ มีการยืนยันถึง 2 ประเด็นใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นคือ ชีค ยาสซิม ฮาหมัด อัล-ธานี แห่งราชวงศ์กาตาร์ ล้มเลิกแผนการเทกโอเวอร์ทีมปีศาจแดง จากครอบครัวเกลเซอร์ ลงแล้ว

เวลาเดียวกัน เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ก็ชะลอแผนการเทกโอเวอร์แบบเบ็ดเสร็จเอาไว้ โดยมีแผนจะยื่นซื้อหุ้นส่วนน้อยแค่ 25% เท่านั้น เพื่อเป็นก้าวแรกสู่การได้รับเสียงข้างมากในอนาคต

เดอะ มิเรอร์ เผยล่าสุดว่า แม้ แรทคลิฟฟ์ จะเข้ามายัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฐานะหุ้นส่วนรายเล็ก แต่พวกเขาก็คาดหวังว่า จะเปิดการเจรจากับตระกูลเกลเซอร์ เพื่อขออำนาจการบริหารงานด้านฟุตบอล มาดูแลเอง

เป็นที่ชัดเจนว่า แมนยู ภายใต้การบริหารงานของครอบครัวเกลเซอร์ ล้มเหลวมานานนับสิบปี แม้จะประสบความสำเร็จด้วยดีในแง่ของการตลาดก็ตาม

แรทคลิฟฟ์ ต้องการดูแลเรื่องนี้แทนที่ตระกูลเกลเซอร์ ด้วยประสบการณ์ที่มีจากการบริหารทีม นีซ ในฝรั่งเศส ส่วนในระยะยาวเมื่อสามารถเพิ่มจำนวนหุ้นในมือได้แล้ว จึงค่อยขยับแผนการเป็นการควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จจากทางเกลเซอร์ต่อไป

ทั้งนี้ หากได้รับความเห็นชอบให้เข้ามาดูแลงานฟุตบอลของสโมสร แรทคลิฟฟ์ ก็จะไม่สั่งเด้ง เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด เพื่อให้แผนการที่ทำกันมาสามารถไปต่อได้ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญกลางทาง