อองรี ยอมรับเคยเจออาการซึมเศร้าเล่นงานช่วงโควิด-19 ระบาด
• เขาเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2014 และเข้าสู่วงการโค้ชในปีต่อมา
• อองรี รับงานคุมทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี รวมถึงงานในวงการสื่อสารมวลชน

เธียร์รี่ อองรี อดีตยอดหัวหอกแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส และตำนานของอาร์เซนอล กล่าวผ่านทางพอดแคสท์ และยอมรับว่าเขาเคยเผชิญช่วงเวลาเกี่ยวกับภาวการณ์ซึมเศร้าในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปี 2020
อองรี ไม่ต่างจากนักเตะจำนวนมากที่ลงเล่นฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก พัฒนาตัวเองขึ้นมาสู่การเล่นฟุตบอลระดับอาชีพ แน่นอนเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในเส้นทางอาชีพ ที่เขาเลือกยุติมันไว้ในปี 2014 ก่อนจะเข้ามาเริ่มต้นสู่วงการโค้ช ที่เขาผ่านทางมาแล้วทั้งกับทีมเยาวชนอาร์เซนอล, ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติเบลเยี่ยม, อาแอส โมนาโก, มอนทรีอัล อิมแพคส์ และล่าสุดกับทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี รวมถึงยังคงรับงานในวงการสื่อสารมวลชน
อย่างไรก็ตาม อองรี ก็ยอมรับว่าเขาเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่ง กับอาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นจากการต้องแยกห่างจากครอบครัว และผู้คนในช่วงปี 2020 ปีที่โลกทั้งโลกแทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวแบบที่มันเคยเป็นมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
“ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นในข่วงการระบาดของ โควิด-19 เป็นเรื่องที่ผมต้องการหยุดยั้งมัน ผมเริ่มต้นการเป็นโค้ช และพยายามที่จะมองหาบางสิ่งเพื่อหยุดไม่ให้ตนเองคิดถึงเรื่องราวที่จะมาทำร้ายตัวผมได้ พยายามรับมือกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พยายามทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ และหลีกเลี่ยงมัน แต่พอมีการระบาดของ โควิด-19 ผมก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้”
“ผมถูกกักตัวอยู่ในมอนทรีอัล ไม่ได้เจอกับลูกนานเกือบปี มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมเข้าใจถึงความรู้สึกที่เปราะบาง การเอาใจใส่ และการร้องไห้ ได้เข้าใจว่าความอิจฉา หรือความโกรธ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปกติในชีวิตของเรา ผมเคยผ่านช่วงเวลาที่ร้องไห้แทบทุกวัน ร้องอย่างไม่มีเหตุผล ร้องไห้เยอะด้วยเหตุผลที่ไม่มีเหตุผลว่าทำไม แค่ร้องไห้ออกมา มันแปลกแต่มันก็เป็นเรื่องที่ได้ระบายมันออกมา”
“ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมันคือการต่อสู้กับความซึมเศร้า ผมคิดไปว่า ผมจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ผมไม่รู้มันไม่มีสัญญาณบ่งบอกอะไรมาก่อน ผมไม่สามารถไปบอกใครได้ว่าผมกำลังเผชิญกับอะไร เพราะผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร ผมคือมนุษย์คนหนึ่ง ผมมีความรู้สึก ตลอดเส้นทางอาชีพของผมตั้งแต่ผมเกิดมา ผมต้องอยู่กับความซึมเศร้า ผมรู้ไหม ไม่รู้ ผมทำอะไรกับมันหรือเปล่า แน่นนอว่าไม่ แต่สิ่งเดียวที่ผมทำคือการปรับตัว”
“ผมคงโกหกตัวเองแน่นอนว่าผมไม่รู้สึกอะไรกับการที่ตัวเองเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ ไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองต้องจัดการกับชีวิตอย่างไร ต้องปฏิบัติตัวกับผู้คนอย่างไร มันเป็นเรื่องน่ากลัวเลยล่ะ ตราบใดที่มีเรื่องในชีวิตเกิดขึ้นและเราไม่มีคำตอบให้กับมัน ปกติผมมีคำตอบให้กับตัวเองในทุกเรื่อง ผมเริ่มคิดมาก และการคิดมากเหล่านั้นมันไม่เคยส่งผลในแง่บวกเลย มันพาคุณดิ่งลงไปและ เมื่อมันมีอะไรที่ไม่ดีกับตัวเรา เรามักจะหาทางปกปิดมัน ผมไม่ได้เสียใจอะไร ผมแค่อยากหาคำอธิบายว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง ผมเป็นคนแบบนั้น ผมอยากรู้ว่าทำไม ถ้าผมหาคำตอบไม่ได้ ผมมักจะหงุดหงิด นี่คือตัวตนหนึ่งของผม”