เส้นทางที่รอการเลือกของ นิโกล่าส์ เปเป้ - FEATURES
นิโกล่าส์ เปเป้ กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงที่เหลือของอาร์เซนอล และอนาคตของตัวเองออกมาในช่วงที่เขากำลังจะมีเกมที่พบกับอังกฤษในเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติ ไอวอรีโคสต์ ซึ่งหากลงเล่นจะเป็นเกมที่ 29 ของเกมในนามทีมชาติ
เปเป้ วัย 26 ปีอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สามของเขากับอาร์เซนอล แม้จะมีส่วนร่วมกับทีม 18 เกม 3 ประตู 5 แอตซิสต์ ในทุกรายการ แต่ก็เป็นตัวจริงเพียง 10 เกม โดยหากนับเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก เขาลงเล่นตัวจริง 5 เกมเท่านั้น
“ผมมีสมาธิกับสิ่งที่ทำ และต้องการทำให้ดีที่สุดจนกว่าจะจบฤดูกาลนี้ และเป้าหมายของอาร์เซนอลคือการเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนั้นเราจะมารอดูกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สำหรับผมการได้มาลงเล่นกับทีมชาติเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และสิ่งสำคัญมากที่สุดคือการที่คุณต้องสนุกกับการเล่นฟุตบอล และมันเป็นบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อผมได้รับโอกาสในการลงเล่น และมันกำลังเกิดขึ้นกับทีมชาติ และมันเกิดขึ้นน้อยในการเล่นระดับสโมสร มันน่าหงุดหงิดที่ไม่ได้ลงเล่น ไม่มีใครชอบหรอกที่ไม่ได้ลงเล่น แต่ผมก็เคารพในการตัดสินใจของโค้ช”
“เมื่อการลงเล่นของทีมจบลงด้วยชัยชนะ มันก็ยากสำหรับโค้ชในการเปลี่ยนแปลงทีม มิเคล อธิบายเหตุผลของเขากพับผม และผมรู้ว่าตัวเองทำงานหนักในการซ้อมเพื่อเวลาในสนามที่มากขึ้นตามด้วย เขารู้ว่าผมกำลังคิดอะไร และผมทำงานหนักแค่ไหน มันเป็นเรื่องของการสื่อสาร บางครั้งมันไม่ง่ายเหมือนกันในบางครั้งที่การสื่อสารมีเรื่องของกำแพงภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องกัน และนี่คือฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับผม”
เปเป้ ย้ายทีมมาด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ ภายใต้เงื่อนไขการชำระเงินแบบผ่อนจ่ายเป็นงวด โดยข้อมูลเบื้องต้นจากฟุตบอลลอนดอนเคยระบุว่า งวดแรกสุดมีมูลค่า 10 ล้านปอนด์ด้วยกัน และคาดว่าถึงเวลานี้ ดีลการชำระเงินค่าตัวในส่วนนี้ก็ยังคงมีต่อไป และอาจจะถึงวันที่เขาหมดสัญญากับทีมเลยก็เป็นไปได้
ปัญหาของ เปเป้ คือเรื่องของการเล่นที่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเด่นได้สม่ำเสมอมากพอ หลายครั้งที่ มิเคล อาร์เตต้า กล่าวเกี่ยวกับผลงานของเขา และพูดถึงเรื่องของมาตรฐานความสม่ำเสมอในการเล่นเป็นเรื่องแรก ๆ และมันก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเล่นเป็นตัวจริงที่ โค้ช จะสามารถคาดหวังได้ในระดับสูงว่าเขาส่งใครลงสนามไปแล้วจะมีโอกาสมากที่สุดที่จะทำผลงานได้อย่างที่โค้ชต้องการ เช่นเดียวกับการกลับออกมาด้วยชัยชนะของทีม ซึ่ง เปเป้ ขาดในส่วนนี้ด้วยผลงานที่ผ่านมา
นับตั้งแต่วันที่เขาย้ายมาสู่ทีม “ป้ายราคา” ที่ติดตัวเขา ทำให้เขาถูกคาดหวังสูงลิ่วตั้งแต่ยังไม่ลงสนามว่าเขาจะกลายมาเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวาที่แข็งแกร่งให้กับทีม ในวินาทีซึ่งทีมมีทั้ง โอบาเมยอง - ลากาแซตต์ - เออซิล อยู่ในทีม นี่คือตัวต่อชิ้นสำคัญในสี่ประสานแนวรุกในฝันของทีมในยุคของ อูไน อเมรี่ (ผู้ซึ่งยอมรับว่าอยากได้ วิลฟรีด ซาฮา มากกว่าแต่สุดท้ายดีลกันไม่สำเร็จทีมจึงได้ตัวของ เปเป้ ซึ่งเป็นทางเลือกต่อมาแทน) อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับผลงานในสนามของเขา
“นักเตะทุกคน” ย่อมต้องการเรื่องของความเชื่อมั่น การปรับตัว ซึ่งทั้งหมดคือเรื่องของเวลา โดยมีปัจจัยเรื่องของสภาพทีมเป็นองค์ประกอบ ว่ากันตามจริง เปเป้ เข้ามาในทีมที่ อูไน อเมรี่ ซึ่งแม้จะไม่อยากได้ตัวมาร่วมทีมที่สุด แต่ก็ได้โอกาสมากพอสมควร เช่นเดียวกับในช่วงการเข้ามาของ มิเคล อาร์เตต้า ก็เช่นเดียวกัน มองจากจำนวนเกมไปจนถึงโอกาสในการลงเล่นตัวจริง เขาก็ได้รับอยู่ไม่น้อยในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่สุดท้ายผลที่ออกมากลับไม่อาจทำให้ แฟนบอล และโค้ช ประทับใจได้มากพอ ต่อเนื่องมากพอ และเมื่อมีการใช้งาน บูคาโย่ ซาก้า ในตำแหน่งริมเส้นด้านขวา ซาก้า กลับทำให้เกิดสิ่งนั้นในใจของ อาร์เตต้า ถึงขั้นเปลี่ยนเขามาเล่นทางขวาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ในขณะที่ เปเป้ ต้องนั่งสำรองไปในฤดูกาลนี้แบบเต็มตัว
ซาก้า อยู่กับทีมมายาวนานตั้งแต่เด็ก รู้ระบบการเล่นของทีมเป็นอย่างดี เมื่อมีโอกาสสามารถปรับตัว และคว้าโอกาสเอาไว้ได้อย่างอยู่มือ ไม่ว่าจะเล่นแบ็คซ้าย ปีกซ้าย หรือว่าขวาในปัจจุบัน ผลงานของเขาเด่นขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ เปเป้ เสียความเชื่อมั่นไปหลายส่วนจากการเสียตำแหน่งตัวจริง และผลงานที่ไม่ต่อเนื่องของเขาเองด้วยเมื่อได้โอกาส
ดังนั้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้กับตัวเขา มองย้อนกลับไป ผู้เขียนมองว่าไม่ใช่ นักเตะ ไม่มีความสามารถ ไม่ใช่ไม่พยายาม แต่ในสนามเขากลับไม่สามารถใช้มันได้สม่ำเสมอ และเกิดประโยชน์ได้มากพอ นานวันไปเมื่อมีคนที่ดีกว่า สม่ำเสมอกว่า โค้ชก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น และสิ่งที่ เปเป้ กล่าวออกมาก็ถูกต้องแล้ว นั่นคือไม่มีใครชอบนั่งสำรอง แต่เมื่อเป็นเช่นนั้น ต้องพยายามให้หนักขึ้น เมื่อโอกาสมาถึง ต้องทำให้เกิดความประทับใจกับผลงานที่ออกมา ซึ่งที่ผ่านมา เขาอาจมีเกมที่ดีสักหนึ่งเกม แต่ที่เหลืออาจจะไม่มีอะไรให้กล่าวถึงหรือจดจำได้เลยในช่วงเกมเหล่านั้น ว่าเขาลงเล่นแล้วฟอร์มเป็นอย่างไร ยิ่ง ซาก้า ผลงานดีต่อเนื่อง เปเป้ ก็ต้องยิ่งทำให้ได้ใกล้เคียงกันในเวลาที่น้อยกว่าเพื่อสร้างความประทับใจ
อีกไม่ถึงสองเดือนเต็มฤดูกาล 2021-2022 กำลังจะจบลง เปเป้ และ อาร์เซนอล จะได้มีเวลาอีกพอสมควรที่จะมาประเมินกันว่าสุดท้ายแล้ว นิโกล่าส์ เปเป้ จะยังสมควร “ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้”
ฟุตบอลอาชีพ ไม่ใช่เวทีที่จะสามารถ “เอาใจ” ใครได้ แต่ทีมจะเลือกคนที่ดีที่สุดในกลุ่ม คนเหล่านั้นจะได้รับการยอมรับในฐานะตัวจริง คนที่ดีน้อยกว่ามีหน้าที่ทำให้เหล่าตัวจริงต้องทำให้ดีที่สุดต่อไป เพื่อไม่ให้ถูกแทนที่ เพื่อเป้าหมายของทีม ไม่ใช่เพื่อใครสักคนหนึ่ง แม้คน ๆ นั้นจะเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรก็ตามที
หากอาร์เซนอล ต้องการที่จะปล่อย เปเป้ ออกจากทีม หรือว่านักเตะอยากจะต้องย้ายออก อาร์เซนอล จะต้องเตรียมใจเรื่องของการขาดทุนไว้เลย เพราะค่าตัวสูงแต่ผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ราคาดรอปแน่นอน การซื้อนักเตะราคาแพงมาพร้อมความเสี่ยงสูงตามไปด้วย นี่จะเป็นบทเรียนสำคัญของการซื้อขาย และเป็นหนึ่งในความล้มเหลวของทีมงานชุดที่แล้วที่หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้แน่ชัดก่อนการลงทุน เป็นเรื่องจริงในทุกธุรกิจจริง ๆ ครับ
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด