ทางแยกบนความปรารถนาของ “ซาลิบา-อาร์เซนอล” - FEATURE

France v Ivory Coast - International Friendly
France v Ivory Coast - International Friendly / John Berry/GettyImages
facebooktwitterreddit

วิลเลี่ยม ซาลิบา (21 ปี สัญญาถึงกลางปี 2024) แนวรับทีมชาติฝรั่งเศสของอาร์เซนอล ซึ่ง ณ เวลานี้ลงเล่นกับโอลิมปิก มาร์กเซย์ ยังคงออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของตนเองอีกครั้ง ว่าเขาพร้อมจะลงเล่นกับ โอแอม ต่อไป บนเงื่อนไขที่ว่าเขามีสัญญากับอาร์เซนอลอีกสองปีโดยมีการพูดผ่านทาง ไพร์ม วิดิโอ เกี่ยวกับสถานการณ์ของตนเองใน โอลิมปิก มาร์กเซย์ และอนาคตของตัวเขาเองที่อาร์เซนอล ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวแสดงออกอย่างชัดเจนว่า มาร์กเซย์ คือปลายทางในใจ อาร์เซนอล คือปลายทางในข้อสัญญา

“เป้าหมายของผมคือการจบฤดูกาลนี้กับมาร์กเซย์ให้ดีที่สุด จากไปอย่างมีเรื่องราวที่ดีในกรณีที่ผมไม่ได้กลับมาที่นี่ มันคงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการกลับมาที่นี่อีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ถ้าผมไม่ได้กลับมาที่นี่ มาร์กเซย์ ก็ยังคงเป็นสโมสรของผม”

ซาลิบา เซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปีกับอาร์เซนอลในปี 2019 จากสโมสรแซงต์-เอเตียนน์ โดยในปีแรกจะเป็นการยืมตัวกลับไปเล่นที่ แซงต์-เอเตียนน์ เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเป็นปรารถนาของนักเตะที่อยากลงเล่นใน ลีก เอิง ต่อไป เนื่องจาก ณ เวลานั้นเขาเพิ่งขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น และ อาร์เซนอล ก็มีกองหลังตัวกลางมากอยู่แล้วในยุคของ อูไน อเมรี่ มาถึงยุคของ มิเคล อาร์เตต้า ที่เข้ามารีบงานแทนในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2019 ปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดการทีมของอาร์เตต้าในแนวรับที่มีปัญหา ตลาดการซื้อขายมกราคม 2020 อาร์เซนอล ยืมตัว เซดริก โซอาเรส และ ปาโบล มารี มาร่วมงานด้วย ก่อนเซ็นสัญญาถาวรกันในเวลาต่อมา

ฤดูกาล 2019-2020 ฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เพราะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก บางลีกพักการแข่งขัน บางลีกตัดจบการแข่งขัน ลีก เอิง เป็นหนึ่งในลีกที่เลือกการตัดจบการแข่งขัน ขณะที่ ซาลิบา มีอาการบาดเจ็บหลายครั้งในปีนั้น เขาลงเล่นไปเพียง 17 เกมในฤดูกาลนั้น แต่ก็หวังว่าในฤดูกาลต่อมาเขาจะกลับมาที่อาร์เซนอล

2020-2021 ฤดูกาลที่มีผลต่อเนื่องจากโควิด-19 ทุกอย่างเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว เกมการแข่งขันถี่ยิบ ซาลิบากลับมาที่อาร์เซนอล และเริ่มต้นจากการลงซ้อมกับทีม แต่สุดท้ายแล้วสถานที่ของเขาคือทีมสำรองของทีม และมีข่าวว่า ซาลิบา ต้องการกลับไปเล่นกับ แซงต์-เอเตียนน์ อีกครั้ง แต่การเจรจาล้มเหลวด้วยปัญหาเกี่ยวกับการเงินที่ไม่สามารถตกลงกันได้ แม้จะยอมรับว่า ซาลิบา เข้ามาสู่ทีม แต่ก็ต้องการเวลาในการปรับตัว

William Saliba
AFC Wimbledon v Arsenal U21 - EFL Trophy / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

“ผมคิดว่าเราจะนำเขามาสู่ทีม แต่เราก็ต้องให้เวลาในการปรับตัวกับเขา ทั้งแนวทางการเล่น, เรื่องของภาษา, จังหวะในเกมการการแข่งขันที่ต่างกันออกไป และสภาพร่างกายที่จะต้องพร้อมสำหรับการเล่นลีกนี้ อย่าลืมว่าฤดูกาลที่แล้วกับ แซงต์-เอเตียนน์ ไม่ได้ลงเล่นมากนัก ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่เขามี ดังนั้นผมคิดว่ามันจำเป็นต้องมีขั้นตอนในการปรับตัว และเราต้องอดทนรอให้ทุกอย่างเหมาะสม เขาก็ต้องพยายามด้วย เพราะเขาเป็นคนที่มีศักยภาพที่ดีมาก”

ฤดูกาล 2020-2021 อาร์เซนอลอยู่ในช่วงของการผ่องถ่ายผู้เล่นจำนวนมากออกจากทีม “กองหลังตัวกลาง” เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูงมากที่สุดในทีมตั้งแต่ยุคของ อูไน อเมรี่ มาจนถึงช่วงต้นฤดูกาลอาร์เซนอล มีเซนเตอร์แบ็คมากถึง 6 คน ประกอบไปด้วย โซคราติส, สโคดราน มุสตาฟี่, กาเบรียล มากัญเยส, ร็อบ โฮลดิ้ง, ปาโบล มารี และ ดาวิด ลุยซ์ ยังไม่รวมถึง คาลัม แชมเบอร์ส ที่เล่นกองหลังตัวกลางได้ด้วย แน่นอนเขาไม่มีที่ว่างให้กับ ซาลิบา แม้กระทั่งชื่อติดทีมลงเล่นในยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนั้น

Mikel Arteta
Norwich City v Arsenal - Premier League / Harriet Lander/GettyImages

“ผมรู้สึกแย่มากเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องซาลิบา เพราะเรามีกองหลังตัวกลางจำนวนมาก และนั่นทำให้เราตัดสินใจเลือกตัดเขาออกจากทีมยูโรป้า ลีก มันทำให้ผมเจ็บปวดมาก” มิเคล อาร์เตต้า กล่าวในเดือนตุลาคม 2020

มกราคม 2021 อาร์เตต้าจัดการปัญหาเรื่องนักเตะครั้งสำคัญ โดยตัดสินใจร่วมกับสโมสรในการที่จะเคลียร์นักเตะหลายคนในตำแหน่งนี้ออกจากทีม ในตลาดรอบเดือนมกราคม 2021 โดยปล่อยตัวทั้ง โซคราติส และสโคดราน มุสตาฟี่ ออกจากทีม โดยเป็นการยกเลิกสัญญาด้วยกันทั้งสองคน และในช่วงปิดฤดูกาลพวกเขาปล่อย ดาวิด ลุยซ์ ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว ขณะที่ ซาลิบา ย้ายออกจากทีมไปร่วมงานกับ นีซ ด้วยสัญญายืมตัว และหลังการย้ายทีมเกิดขึ้น เขาก็ออกมาสัมภาษณ์สื่อถึงความผิดหวังในช่วง 6 เดือนแรกในอังกฤษของเขา

“หกเดือนแรกของผมมันยากมาก เพราะผมเข้ามาสู่ทีมในช่วงที่ 6 เดือนก่อนหน้านี้ที่ผมไม่ได้ลงซ้อมมากนัก ทำได้เพียงอยู่ในบ้าน ซ้อมส่วนตัวภายในบ้าน และไม่ได้ลงเล่น (ด้วยสถานการณ์ระบาดของโควิด-19) ผมกลับมาที่อาร์เซนอล หลังจากอาร์เซนอลจบฤดูกาลเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผมก็ยังคงทำได้แค่ซ้อมเดี่ยวต่อไป จนกระทั่งทีมกลับมาจากช่วงพัก ทีมก็มีการลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกันแล้ว ผมขาดทั้งจังหวะการเล่นรวมถึงในเรื่องของการปรับตัวในสภาพร่างกาย และโค้ช (อาร์เตต้า) ก็มาบอกกับผมว่าผมยังไม่พร้อม ซึ่งผมรู้สึกอย่างน้อยผมควรมีโอกาสในการปรับตัว ปรับจังหวะการเล่นของตัวเอง แต่นี่คือฟุตบอล มันก็เท่านั้น”

การย้ายทีมไปเล่นกับ นีซ ของซาลิบา เขาได้ลงเล่นแทบทุกเกมในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนั้นในฐานะตัวจริง ฟอร์มของเขาโดดเด่นเป็นอย่างมาก จนได้รับการยกย่องจากสื่อว่าเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจนน่าจับตามองว่าเขาจะได้รับโอกาสกับทีมชาติฝรั่งเศสหรือไม่ และแน่นอนกับอาร์เซนอล สโมสรที่ซื้อเขามาร่วมงานด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ใช้งานเขาในเกมอย่างเป็นทางการแม้แต่เกมเดียว

ว่ากันตามรูปการณ์แล้ว อาร์เซนอล ตลอดฤดูกาล 2020-2021 มีการเคลียร์กองหลังออกไปจำนวน 3 คน (โซคราติส, มุสตาฟี่ และ ดาวิด ลุยซ์) ซาลิบา ควรจะได้รับโอกาสเสียที หลังจากยืมตัวมาแล้วสองปีติดต่อกัน แต่สุดท้ายแล้ว อาร์เตต้า กลับตัดสินใจอีกแบบหนึ่งด้วยการร้องขอสโมสรลงทุนครั้งใหญ่จำนวน 50 ล้านปอนด์กับการซื้อ เบนจามิน ไวท์ มาร่วมทีม พร้อมได้เสื้อหมายเลข 4 ที่เคยเป็นของซาลิบาไปด้วย ขณะที่ซาลิบา ถูกปล่อยยืมอีกครั้งไปเล่นกับ โอลิมปิก มาร์กเซย์ ด้วยสัญญาที่ไม่มีการผูกออฟชั่นซื้อขาดแต่อย่างใด

Ben White
Arsenal v Chelsea: The Mind Series / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

อาร์เซนอล เริ่มต้นฤดูกาล 2021-2022 ด้วยการมีกองหลังตัวกลาง 4 คน ประกอบไปด้วย เบนจามิน ไวท์, กาเบรียล มากัญเยส, ร็อบ โฮลดิ้ง และ ปาโบล มารี หลังจากเสียเวลาเซตอัพอยู่พักหนึ่ง ไวท์-กาเบรียล คือคู่กลางตัวจริงของทีม โฮลดิ้ง คือสำรองทางเลือกแรก ขณะที่ ปาโบล มารี ผลงานไม่ดีหลุดออกจากทีมไป และสุดท้ายย้ายไปเล่นกับ อูดิเนเซ่ ในกัลโช่ เซเรีย อา ในเดือนมกราคม 2022 ซึ่งแนวรับสเปนก็ออกมายอมรับว่าอยากอยู่ต่อหลังหมดสัญญายืมตัว

ขณะที่ ซาลิบา ในฤดูกาลนี้โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขากลายเป็นตัวหลักของโอแอม ภายใต้การคุมทีมของ ฆอร์เก้ ซัมเปาลี และลงเล่นไปแล้วถึง 49 เกมในฤดูกาลนี้ แน่นอนทีมชาติฝรั่งเศสไม่พลาดเรียกตัวเขาติดธงอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน ทุกอย่างเป็นไปได้สวยสำหรับเขา ลงเล่นในบ้านเกิด เป็นตัวหลัก และเขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาเชื่อมั่นใน ซัมเปาลี เช่นเดียวกับที่กุนซืออาร์เจนไตน์ ชอบการเล่นของเขาเป็นอย่างมาก และนั่นนำมาซึ่งสัมภาษณ์มากมาย ในเรื่องเกี่ยวกับที่ว่า “เขารักในชีวิตที่มาร์กเซย์ และไม่ต้องการเป็นตัวสำรองที่อาร์เซนอล” และด้านล่างนี้คือบางส่วนของสัมภาษณ์ของเขา

“มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในวงการฟุตบอล มันมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่มันก็คือประสบการณ์ มันทำให้ผมมีจิตใจที่แกร่งขึ้น ก่อนผมย้ายไปที่อาร์เซนอล ผมบอกตัวเองว่าผมไปเพื่อที่จะลงเล่น ผมได้รับการโน้มน้าวว่าผมจะได้ลงเล่น ผมคิดเอาเองว่าผมจะได้จับคู่กับใครในการเล่นด้วยกัน แต่พอถึงผมไม่ได้ลงเล่นสักเกมชุดใหญ่ ผมไปเล่นในทีมสำหรับทีมอายุต่ำกว่า 23 ปี มันทำให้ผมเหมือนโดนตบหน้า ทุกวันนี้ผมมีสมาธิมากขึ้น สำหรับโค้ชอาร์เตต้า ผมยังไม่พร้อมสำหรับเขา และผมเคารพในการตัดสินใจนั้น”  ซาลิบา กล่าวกับ อาร์เอมซี สปอร์ต สื่อในบ้านเกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2022

“แน่อนผมคงไม่มีความสุขหรอกที่ข้างสนามของอาร์เซนอล ผมต้องการลงเล่นตัวจริง, ถ้าได้ลงเล่นในทีมในแบบนักเตะหมุนเวียนในทีม มันไม่เหมือนกับการลงเล่นในทีมอายุต่ำกว่า 23 ปี และไม่เคยได้ติดทีมชุดใหญ่ มันคนละเรื่องกันเลย ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าผมมีความสุขดีกับชีวิตที่มาร์กเซย์ แต่ผมก็บอกไม่ได้หรอกในอนาคตของผม” ซาลิบา กล่าวกับ เลอ กิ๊ป สื่อในบ้านเกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2022

ในห้วงเวลาเดียวกัน อาร์เซนอล และ มิเคล อาร์เตต้า ก็ยังคงถูกถามถึงเกี่ยวกับเรื่องของ ซาลิบา โดยเฉพาะเรื่องของการที่นักเตะก้าวไปถึงทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ได้สำเร็จ ขณะที่อาร์เซนอล ซึ่งในฤดูกาลนี้ วางแผนงานที่ชัดเจนในการเลือกเฟ้นนักเตะอายุน้อยที่มีประสบการณ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม และพัฒนาไปร่วมกัน ภายใต้แนวคิดในภาพรวม “Trust the Process” ซึ่ง วิลเลี่ยม ซาลิบา ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในแผนงานนั้น โดยมีข่าวออกมา อาร์เซนอล พร้อมยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ให้กับ บูคาโย่ ซาก้า (20 ปี), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (21 ปี) และ วิลเลี่ยม ซาลิบา (21 ปี) เพื่อเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต และทุกครั้งที่มีการยื่นซื้อซาลิบา อาร์เซนอล ปฏิเสธทุกข้อเสนอเสมอ

“เราติดตามผลงานของเขามาโดยตลอดกับสิ่งที่เขาทำ กับการพัฒนาของเขา เขาคือนักเตะของเรา และเรามีความสุขมากกับการตัดสินใจที่เราเลือกไปแล้ว เพราะมันคือการได้รับโอกาสลงสนาม ได้รับผิดชอบ และเติบโตด้วยอายุของเขา มีบางสิ่งที่เราไม่สามารถการันตีอะไรให้กับเขาได้ในฤดูกาลนี้ แน่นอนเรามีความยินดีที่เห็นเขาเติบโต และพัฒนาขึ้น” มิเคล อาร์เตต้า กล่าวถึงซาลิบา ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2022

Cyriel Dessers, William Saliba
Feyenoord v Olympique Marseille - Conference League / Soccrates Images/GettyImages

พฤษภาคม 2022 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ซาลิบา กำลังอยู่ในเส้นทางของลุ้นแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก กับโอแอม ที่พวกเขาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว ขณะที่ อาร์เซนอล กำลังลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก เต็มตัวกับ 4 เกมสุดท้ายในพรีเมียร์ ลีก และหลังจากนั้น ซาลิบา - อาร์เซนอล คงได้กลับมานั่งคุยกันอย่างเป็นจริงจังในสถานะ “เรา” จะยังคงเป็นเรา หรือกลาย “คนอื่น” ต่อกันในฤดูกาลหน้า เมื่อความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอยู่บนความต้องการที่ชัดเจนด้วยกันทั้งสองฝ่ายว่าต้องการอะไร  มันก็เหลือเพียงแค่ว่าจะหาจุดลงตัวร่วมกันได้หรือไม่ แน่นอนที่สุดการยืมตัวไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เช่นเดียวกับการเป็นตัวสำรองที่อาร์เซนอลก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ซาลิบาปรารถนาเช่นกัน ทำไมต้องสำรองในเมื่อทุกวันนี้ เขาเป็นตัวจริงได้สบายในอีกหลายสโมสรชั้นนำ

“ความรู้สึก” เป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แม้มันพร้อมเปลี่ยนได้ทุกเวลาก็ตาม แต่หากยังรู้สึกว่า “ใช่” ก็อย่าหวังจะบอกว่า “ไม่” กับสิ่งที่ตนเองต้องการให้เสียเวลา

อาร์เซนอลอาจมองว่า ซาลิบา เป็นหนึ่งในแผนงานเป็นอนาคตของสโมสร ขณะที่ ซาลิบา กลับเริ่มคิดว่าชีวิตที่เป็นอยู่มันคือสิ่งที่ใช่สำหรับเขา ฟังแล้วก็เหมือนกับละครหลังข่าว ที่ส่งตัวเอกไปเป็นสายลับในรังศัตรู แต่กลายเป็นว่าตัวเอกกับมีใจให้ศัตรูเสียอย่างนั้น ถ้าสุดท้ายแล้วมันต้องเป็นเช่นนั้น เรื่องแบบนี้จะโทษใคร

ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเองในทุกเรื่องราว เมื่อวันนี้ “ความต้องการไม่ตรงกัน การสนทนากันจึงต้องเกิด” และเมื่อมันเกิดขึ้น ก็รอลุ้นรับผลของมัน และจงยอมรับกับสิ่งที่ตามมาไม่ว่าจะจบลงแบบไหนก็ตาม


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด