มุดมุ้ง เชลซี : ก่อนจะซื้อใหม่ โปเช็ตติโน่ ต้องลงมือทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่และ 'เคลียร์ของเก่า' ออกก่อน - FEATURE

หากไม่มีพลิกโผผิดคาดสวรรค์ล่มเอาในตอนท้าย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็คงจะกลายเป็นกุนซือคนใหม่ของ เชลซี ในอีกไม่ช้า ตามกระแสข่าวที่ว่ากันว่า ทีมตราสิงห์อาจออกประกาศแต่งตั้งภายในสัปดาห์นี้เลย แม้การเริ่มงานจริงๆ จะเป็นในช่วงจบฤดูกาล หลังสัญญาชั่วคราวของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด หมดอายุลง ก็ตาม

พร้อมๆ กันกับการมาของ "พอช" สิ่งที่หลายคนกำลังจับตาคือ โค้ชอาร์เจนไตน์จะจิ้มเลือกใครให้มาเป็นลูกทีมคนใหม่ ที่เสียงของสื่อหลายเจ้าออกจะแตกๆ กันไป บ้างว่าจะเอาเน้นๆ แค่ 3 บ้างว่าต้องการถึง 5 ไม่นับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ทีมเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว (แม้ยังไม่คอนเฟิร์มดีลทางการ)

แต่อันที่จริง ก่อนจะมองไปยังนอกบ้าน หน้าที่แรกสุดของ โปเช็ตติโน่ ก็คือการ "จัดบ้าน" ตบแต่งทุกอย่างใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ให้เข้าที่เข้าทาง เคลียร์ให้ชัดว่าแข้งรายไหนใช้ไม่ใช้ ใครยังอยู่หรือใครไม่อยู่ในแผนการทำทีม จนถึง "ลดขนาด" ขุมกำลังนักเตะลงให้พอเหมาะพอดีกว่าที่เป็น

ที่ก็บอกได้เลยว่า "ไม่ใช่ง่ายๆ" สักนิดล่ะพี่จ๋า...

สัญญาหมดแค่สิ้นซีซั่น

• เอ็นโกโล่ ก็องเต้
  
  เดนิส ซากาเรีย (ยืมตัวจาก ยูเวนตุส)
  
  เจา เฟลิกซ์ (ยืมตัวจาก แอตเลติโก มาดริด)
  

นี่คือชุดแรกที่ โปเช็ตติโน่ ต้องเคลียร์ โดยเฉพาะในราย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ใครต่างก็รู้ถึงคุณภาพ ว่ามิดฟิลด์พลังเทอร์โบคนนี้มีดีขนาดไหน

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตำแหน่งการยืนจะให้ลงตรงไหนแน่ (หลังจากค่อนข้างสะเปะสะปะในหลายๆ กุนซือ รวมถึงตอนนี้กับ แลมพาร์ด) ทั้งที่ชัดเจนว่า ก็องเต้ แจ้งเกิดระเบิดเถิดเทิงได้จากการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการกล่อมให้ดาวเตะวัย 32 ต่อสัญญาเพิ่มให้ได้โดยเร็วที่สุด จากระยะสัญญาที่กำลังจะหมดอายุอยู่รอมร่อในวันที่ 30 มิ.ย. นี้แล้ว

ไม่เช่นนั้นถ้าปล่อยให้หมดสัญญาย้ายฟรีออกไปเสีย ก็จะถูกนับว่าเป็นความเสียหายโดยตรง อย่างน้อยๆ 20 ล้านปอนด์ ตามราคาประเมินในตลาด

ส่วนอีกสองคนที่กำลังจะหมดสัญญายืม ไม่น่าใช่อะไรที่ตัดสินใจได้ยากเย็น เดนิส ซากาเรีย ถูกส่งกลับ ยูเวนตุส แน่นอน หลังมีสถานะแค่เป็นอะไหล่ยามยาก ขณะที่ เจา เฟลิกซ์ แม้กระแสในช่วงแรกจะเทไปในทางชมเชย และเชียร์ให้ เชลซี ทุ่มเงินซื้อขาด

แต่หลังจาก 17 นัดผ่านไปมีแค่ 3 ประตู...ยังกล้าซื้อก็ต้องยอมใจ

สัญญาเข้าสู่ปีสุดท้าย (หมด 2024)

• เมสัน เมาท์
  
  ติอาโก้ ซิลวา
  
  มาเตโอ โควาซิช
  
  เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า
  
  ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง
  
  รูเบน ลอฟตัส-ชีค
  
  คริสเตียน พูลิซิช
  

เป็นอีกประเด็นใหญ่ที่ โปเช็ตติโน่ ต้องหารือกับ ลอว์เรนซ์ สจ๊วร์ต และ พอล วินสแตนลี่ย์ สองผู้อำนวยการ ให้ดี ว่าจะเปิดไฟเขียวขายใครออกไปบ้าง--ซึ่งต้องรีบลงมือตอนนี้ก่อนจะเสี่ยงเสียฟรีในปีหน้า หรือจะเสนอสัญญาใหม่ให้เพื่อเก็บเอาไว้อีกสักปีสองปี (ค่อยขายทีหลังยังทัน)

แต่หากว่ายึดตามผลงานซีซั่นนี้เป็นหลัก ก็อาจประเมินคร่าวๆ ได้ว่า...

รีบขาย : พูลิซิช, โอบาเมย็อง, ลอฟตัส-ชีค, อัซปิลิกวยต้า

เก็บก่อน : เมาท์, ซิลวา, โควาซิช

แต่ก็อีกนั่นแหละ โปเช็ตติโน่ จะมาพร้อมแนวทางของตัว หลักการของตัว และผลประเมินของตัว ว่าในกลุ่มนี้ ใครกันที่จะอยู่ในแผนการสร้างทีม

เช่นเดียวกัน ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาด้วย ว่าจะสามารถหาข้อสรุปลงตัว นำไปสู่สัญญาฉบับใหม่ได้หรือไม่

ขายทำเงินได้

• เคปา อาร์ริซาบาลาก้า
  
  เอดูอาร์ เมนดี้
  
  ฮาคิม ซีเย็ค
  
  ไค ฮาแวร์ตซ์
  
  คอนเนอร์ กัลลาเกอร์
  
  คาลิดู คูลิบาลี่
  
  เบน ชิลเวลล์
  
  ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
  
  รีซ เจมส์
  
  อาร์มันโด้ โบรย่า
  

สำหรับกลุ่มนี้ เป็นพวกที่ยังเหลือสัญญาอีกยาว ถึง 2025 เป็นต้นไป ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบปล่อยออก เพียงแต่ว่าถ้ายึดตามกระแสข่าวที่บอกว่า เชลซี จำเป็นต้องขายนักเตะสำคัญๆ บางรายหรือหลายรายออก เพื่อสร้างสมดุลการเงิน (ภายหลังอาเสี่ย ท็อดด์ โบห์ลี่ ทุ่มซื้อไป 500 กว่าล้านปอนด์) กลุ่มนี้ก็จะเป็นเซ็ตที่ โปเช็ตติโน่ สามารถขายเพื่อทำเงินเข้าสโมสรได้

ว่ากันว่า รีซ เจมส์ กำลังถูกจับตาจาก เรอัล มาดริด อยู่ ในการจะนำตัวไปเป็นแบ็กขวาเบอร์ 1 คนใหม่แห่ง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เช่นเดียวกับอีกฟาก เบน ชิลเวลล์ ก็ถูกลือจากบางแหล่งว่าถูกขีดเส้นใต้จาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สำหรับการแก้ปัญหาแบ็กซ้าย แมนฯ ซิตี้

สองคนนี้ หาก โปเช็ตติโน่ ยอมขายออกจริง ก็มีไม่ต่ำกว่าร้อยล้านปอนด์เข้ากระเป๋า

หรือพวกผลงานเฉยๆ ในซีซั่นนี้ อย่าง สเตอร์ลิ่ง, คูลิบาลี่, กัลลาเกอร์, เคปา ก็ขายทำเงินได้เช่นกันถ้า โปเช็ตติโน่ ต้องการ

นอกนั้น กลุ่มนี้ก็ยังมีตัวที่ "ควรขาย" เช่นกัน อาทิ ไค ฮาแวร์ตซ์, ฮาคิม ซีเย็ค, เอดูอาร์ เมนดี้ หรือ อาร์มันโด้ โบรย่า เมื่อเก็บไว้ต่อก็อาจเป็นแค่สำรองเท่านั้น

กลับจากการยืมตัว

• ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ (เอซี มิลาน)
  
  โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน)
  
  คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย (เลเวอร์คูเซ่น)
  
  ยาน มาตเซ่น (เบิร์นลี่ย์)
  
  เลวี่ คอลวิลล์ (ไบรท์ตัน)
  
  มาลัง ซาร์ (โมนาโก)
  
  บาบา ราห์มาน (เร้ดดิ้ง)
  
  อีธาน อัมปาดู (สเปเซีย)
  
  มาโล กุสโต้ (โอลิมปิก ลียง)
  
  เซซาเร่ คาซาเดอี (เร้ดดิ้ง)
  
  อันเดรย์ ซานโต๊ส (วาสโก ดา กาม่า)
  

ปิดท้าย กลุ่มนี้ก็จะเป็นอีกเซ็ตที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับ โปเช็ตติโน่ ได้ไม่น้อย ว่าจะจัดการอย่างไรกับนักเตะเหล่านี้ดี ภายใต้ทางออกที่มีอยู่ประมาณ 3 ทาง

1. เอากลับมาเล่น

2. ส่งยืมที่อื่นต่อ

3. ขายทิ้ง

ใหญ่สุดคือ โรเมลู ลูกากู กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ตอนนี้เล่นยืมตัวกับ อินเตอร์ มิลาน และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ตามลำดับ

ไม่นานเกินฟื้นความจำ ปีกวัย 22 ฮัดสัน-โอดอย เคยเปรี้ยงปร้างและถูกเชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น และ ดอร์ทมุนด์ ได้ไม่เว้นวัน แต่ทำไปทำมาก็หายเงียบตามกาลเวลา และการเล่นยืมตัวกับ เลเวอร์คูเซ่น ซีซั่นนี้ก็ไม่โดดเด่น มียิงแค่ลูกเดียวถ้วนจากยี่สิบเกมกว่าๆ

ในราย ลูกากู แม้จะเคยจบไม่สวยนักกับ เชลซี ซีซั่นก่อน แต่ก็คงไม่ถึงกับมองหน้ากันไม่ติด และจะว่าไป ผลงานซีซั่นนี้ก็ถือว่าไม่แย่ มาเร่งยิงเอาในช่วงเดือนหลังๆ จนกดแล้ว 10 ประตู และอยู่ในทีมงูใหญ่ชุด (น่าจะ) ชิง ชปล. ด้วยเช่นกัน

แม้ อินเตอร์ จะส่งสัญญาณว่าอยากซื้อขาด แต่ค่าตัวของสตาร์เบลเยียมก็จะไม่ใช่เบาๆ และยังขึ้นอยู่กับ โปเช็ตติโน่ ด้วยว่าจะจัดการอย่างไรกับ ลูกากู

ไม่แน่ ถ้าเลือกดึงกลับมาใช้ ลูกากู อาจกลับมาแจ้งเกิดกับสิงห์ได้อีกครั้งในยุค โปเช็ตติโน่ ก็มีสิทธิ์

เช่นกัน รายชื่ออื่นๆ ในกลุ่มแข้งที่จะกลับมาจากการยืมตัว ก็ล้วนแต่เข้าข่าย "ต้องพิจารณา" นับเป็นการบ้านกองโตที่รอให้ โปเช็ตติโน่ สะสางอยู่นั่นเอง