ไล่ดำดับเหตุการณ์สำคัญของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ กับแผนงานสร้าง (ความปั่นป่วน) เชลซี - FEATURE
- ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022
- เจ้าของทีมรายนี้ปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามความพอใจของตัวเอง
- “สิงโตน้ำเงินคราม” กลายเป็นทีมที่ไม่มีความแน่นอนนับตั้งแต่เขาเข้ามาบริหารสโมสร
โดย Navapun Munarsa
ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่วุ่นวายมาตลอดนับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์ “สิงโตน้ำเงินคราม” เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022 ซึ่งแฟน ๆ ส่วนใหญ่มองว่าความปั่นป่วนหลาย ๆ อย่างล้วนมาจากการตัดสินใจของเขาทั้งสิ้น
ปัจจุบัน มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ยังคงไม่หยุดที่จะทำตามใจตัวเองทั้งในเรื่องการเลือกทีมงานเบื้องหลัง ผู้จัดการทีม รวมถึงนักเตะใหม่ และนี่คือ “Timeline” แห่งความสับสนในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่ โบห์ลีย์ ก้าวเข้ามา...
1. พฤษภาคม 2022 : ยินดีต้อนรับสู่ เชลซี !
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ปี 2022 เชลซี ยืนยัน ยอมรับข้อเสนอที่ โบห์ลี่ย์ ที่จะเข้ามาควบคุมกิจการต่อจาก โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมคนเก่าด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 4.25 พันล้านปอนด์ และเป็นจุดเริ่มต้นๆที่ทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
2. ฤดูร้อนปี 2022: ลงทุนเสริมทัพแบบมือเติบ
ความตั้งใจแรกของ โบห์ลี่ย์ คือ การต่อยอดให้ทีมกลายเป็นมหาอำนาจทั้งในอังกฤษ และยุโรป ซึ่งทำให้เจ้าตัวคว้านักเตะใหม่อย่าง เวสลีย์ โฟฟาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิง, มาร์ค คูคูเรลลา, คาลิดู คูลิบาลี และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เข้ามาร่วมงานกับ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตโค้ชชาวเยอรมัน
3. โธมัส ทูเคิ่ล โดนไล่ออก
หลังจากคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชลซี ได้เพียงไม่กี่เดือน ทูเคิ่ล ก็โดน โบห์ลี่ย์ ปลดจากตำแหน่ง โดยมีรายงานอ้างว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน และ เกรแฮม พอตเตอร์ ก็ถูกดึงตัวเข้ามารับช่วงต่อ
4. มกราคม 2023: การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ พ็อตเตอร์ ผลงานไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ และต้องดิ้นรนกับฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมออย่างหนัก แม้จะมีนักเตะที่ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, มิไคโล มูดริก และ โนนี่ มาเดเค่ อยู่ในทีมก็ตาม และที่สำคัญ 2 ตลาดล่าสุด โบห์ลี่ย์ ใช้เงินไปแล้ว 630 ล้านปอนด์
5. เมษายน 2023: สถานการณ์ยังคงไม่สงบ
หลังจากผลงานไม่เข้าตา โบห์ลี่ย์ ก็จัดการปลด พ็อตเตอร์ ออกจากตำแหน่งทันที และแต่งตั้งตำนานสโมสรอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีมชั่วคราวไปจนจบซีซัน ซึ่งอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ พาทีมจบอันดับ 12 ซึ่งแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
6. ฤดูร้อน 2023: เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาคุมทีม
สิ่งที่น่าชื่นชมคือ เชลซี ลดค่าใช้จ่ายลงเหลือ 450 ล้านปอนด์ ในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ดังกล่าว โดย มอยเซส ไกเซโด กลายเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่พวกเขาเซ็นสัญญาด้วยค่าตัวมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ในเวลาเพียง 6 เดือน และผู้เล่นอย่าง เมสัน เมาท์, ไค ฮาแวร์ตซ์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และมาเตโอ โควาซิช โดนปล่อยตัวออกจากทีม
7. ฤดูร้อนปี 2024: แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ?
หลายคนมองว่า การจบฤดูกาล 2023/24 ถือเป็นก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องหลังจาก เชลซี จบอันดับที่ 6 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ แต่สำหรับ โบห์ลีย์ มันยังไม่พอ เขาไล่ โปเช็ตติโน่ ออกจากตำแหน่ง และเลือก เอ็นโซ มาเรสกา โค้ชชาวอิตาเลียน เข้ามาคุมทีมแทน ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม 3 คน ในเวลาเพียงสองฤดูกาล