คำสอนจาก "พี่อุ้ม" ที่อาบน้ำร้อนจาก "บ่อน้ำพุ" มาก่อน - FEATURE
โดย W.PINTHONG
การกลับมาเล่นไทยลีก รอบ 5 ปี ไม่เพียงนำ “คลาสบอล” ที่ดูเหนือแบบทุกย่างก้าว หิ้วมาจากเจ ลีก แล้ว สิ่งหนึ่งที่แบ็คซ้ายเบอร์ 1 ทีมชาติไทย ทำให้เวลานี้ คือ การลงสนามไปเล่นด้วยความ สุขุม และ เยือกเย็น เอาเป็นว่านับตั้งแต่เล่น การไฟฟ้า, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เขามักจะขึ้นชื่อเรื่องการอัดคู่แข่ง
ยามอยู่ในสนามแฟนบอลฝั่งตรงข้าม ก็มักจะเรียก “....อุ้ม” แต่กองเชียร์ที่รักเขา จะคอยปกป้องอยู่เสมอ กระทั่งการคัมแบ็คหนนี้ ผมแทบไม่เห็นอารมณ์เกรี้ยวกราด หรือ การเข้าไปแพชชั่นผู้ตัดสินอีกแล้ว หลายนัดที่ผ่านมา เขาโดนเตะเหมือนกับตอนโดนแข้ง เวียดนาม อินโดนีเซีย อัดในถ้วยอาเซียน
นัดล่าสุดออกไปชนะ สมุทรปราการซิตี้ 1-0 เขาโดน “บาสน้ำหวาน” เสฏฐวุฒิ วงค์สาย อัดเข้าไปเต็มๆ ใครเห็นก็คิดในใจ “บาสน้ำหวาน” โดนไม่รับคำขอโทษ และจะถูกเอาคืนแน่นอน … ผิดคาดทุกอย่าง
เขารับคำขอโทษ ด้วยการรับไหว้จากรุ่นน้องรายนี้ ก่อนที่จะเอามือโอบเอว ประหนึ่งว่า “ไม่เป็นไรน้อง เล่นต่อเถอะ” บอกแล้วว่าประสบการณ์ที่ไปเล่นในแดนปลาดิบ มันสอนให้เขาเติบโตเข้าสู่ “ร่างทอง” อย่างแท้จริงแล้ว ทำให้น้องคนนี้อย่าง "สุภโชค สารชาติ" ก็อยากจะประสบความสำเร็จ เหมือนพี่ช่ายคนนี้เหมือนกัน
เพียงได้เห็นเขาทั้งสองคนเล่นจากทีมชาติไทย จนโยกมาสวมชุดเกราะ "ปราสาทสายฟ้า" ก็รู้ทันทีว่า "โก๋อุ้ม" ต้องการถ่ายทอดหลายอย่าง การ "อาบน้ำร้อนมาก่อน" บนยุทธจักรลูกหนัง ทำให้ "เจ้าเช็ค" ไม่เพียงแต่ถามเรื่องการเล่น แต่ยังรวมไปถึงจังหวะใน เจ ลีก ที่ห่ำหั่นใส่กัน แฟนบอลทุกคนก็หวังว่า หากซีซั่นนี้เขาคว้าแชมป์กับทีมได้ คงจะไขกลอนปลดล็อกใจ "พ่อเนวิน" ปล่อยให้เข้าไปเก็บสกิลในแดนปลาดิบเสียที