มาอีกราย ! เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กรีธาทัพคืนสู่ พรีเมียร์ลีก อีกหน หลังหายหน้าไป 2 ปี - FEATURE
ท่ามกลางไฮไลท์ของเกมชิงชนะเลิศ พรีเมียร์ลีก (แมนฯ ซิตี้ 4-1 อาร์เซน่อล) เมื่อวันพุธ เวลาเดียวกัน ยังมีสิ่งสำคัญเกิดขึ้นที่ลีกรอง อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ กับการที่ได้อีก 1 ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ซึ่งได้แก่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่การันตีการยึดอันดับ 2 คืนสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้งหลังร่วงลงไปแค่ 2 ปี
โอกาสนี้ เราจึงขอพาท่านไปพบกับพวกเขา ดูหน้าดูหลังกันสักหน่อยว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ทัพ "ดาบคู่" ต้องผ่านอะไรมาบ้าง...
ก่อนจะซิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน
เพราะนอกจากจะตกชั้นพ้น พรีเมียร์ลีก 2006/07 (ยุคมี ฟิล จากีลก้า, ร็อบ ฮัลส์, แดนนี่ เว็บเบอร์, หลี่ เถีย) ลงมาแล้ว เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยังพุ่งชนความตกต่ำ กดลิฟท์จมลงสู่ ลีก วัน ไปอีก ในเพียงสี่ซ้าห้าปีให้หลังเท่านั้น
และชีวิตใน ลีก วัน ของทัพดาบคู่ ก็ยาวนานใช่ย่อย 6-7 ปี มีเฉี่ยวเตะเพลย์ออฟจะเลื่อนๆ ขึ้นก็ทำไม่สำเร็จ จนกระทั่ง 2016/17 ที่ผงาดแชมป์เข้าจนได้ ที่น่าทึ่งคือ พวกเขาใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นเพื่อกระโดดข้ามจาก อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก อีกรอบ
การกลับคืนสู่ลีกสูงสุดรอบนี้ ซีซั่น 2019/20 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ภายใต้การดูแลของ คริส ไวล์เดอร์ ทำได้เยี่ยมไปเลย ดึงแต้มจากทีมใหญ่เป็นว่าเล่นจนจบสูงถึงอันดับ 9 เป็นสถิติดีสุดในตลอดประวัติศาสตร์การเล่นพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นอีกทีมไซส์เล็กที่หนีไม่พ้นอาการ "เซคันด์ซีซั่นซินโดรม" เมื่อจากผลงานดีๆ ในปีก่อน พลิกเป็นการหลุดฟอร์มอย่างหนักหน่วงในซีซั่นถัดมา แบบที่เอาชนะใครไม่ได้เลยในตลอดครึ่งซีซั่นแรก และ คริส ไวล์เดอร์ ถูกเด้งพ้นตำแหน่งไปกลางทาง โดยมี พอล เฮ็คกิ้งบอทท่อม อดีตกุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด เข้ามาทีมแทน
แต่การเข้ามาของ เฮ็คกิ้งบอทท่อม ก็ไม่อาจจุดประกายอะไรได้มากนัก ที่สุดแล้ว เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ตกชั้นลงไปอีกครั้งด้วยการเป็นทีมบ๊วยของ พรีเมียร์ลีก 2020/21
ร่วงแวบเดียวแล้วเลี้ยวกลับ
การร่วงตกมาครั้งล่าสุดนี้ มีการมองกันว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะฟื้นคืนที่เดิมได้เร็วนัก เมื่อนอกจากเสือสิงห์กระทิงแรดที่พร้อมช่วงชิงตั๋วเลื่อนชั้น 2+1 โควต้า จะเยอะแล้ว ปัจจัยสำคัญยังมาจากสภาพของทีมดาบคู่เองด้วย
เพราะในการตกชั้นลงมา ดาบคู่มาพร้อมสถิติยิงประตูได้แค่ 20 ลูกเท่านั้น เป็นสถิติเลวร้ายสุดเป็นประวัติการณ์เทียบเท่ากับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 2007/08
2021/22 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการนำตัว สลาวิซ่า โยคาโนวิช อดีตนายใหญ่เมืองทองฯ เข้านั่งเก้าอี้ เพียงแต่โค้ชเซอร์เบียก็ถูกสั่งเด้งไปอย่างรวดเร็วในแค่ 4 เดือน เซ่นผลงานไม่สู้ดี จมท้ายแถว ชปช. ซึ่งก็เป็น พอล เฮ็คกิ้งบอทท่อม ที่ได้กลับมาสู่งานเก่าอีกครั้ง
จึงต้องเป็นเครดิตของ เฮ็คกิ้งบอทท่อม นั่นเองที่พลิกฟื้นฟอร์มให้ดาบคู่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง จนเด้งตัวขึ้นไปจบอันดับ 5 ผ่านเข้าเล่นรอบเพลย์ออฟ แล้วแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อย่างหวุดหวิดด้วยการดวลจุดโทษ (สองนัดเสมอ 3-3, แพ้จุดโทษ 2-3) เท่านั้น
2021/22 จบที่ 5 แล้วตกเพลย์ออฟ
แต่ 2022/23 ก็เข้าเป้าโป๊ะเชะ คืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งแบบไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องรอกันเนิ่นนาน
รองแชมป์ก็มากพอ
ถือว่า ชปช. 2022/23 ได้บทสรุปของ 2 ทีมเลื่อนชั้นอัตโนมัติ ค่อนข้างเร็วเป็นพิเศษ
แรกสุดคือ เบิร์นลี่ย์ การันตีเป็นหนึ่งใน 2 ทีมบนสุดตั้งแต่ยังเหลือคิวเตะอีกเพียบถึง 7 นัด ก่อนที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี จะพา เดอะ คลาเร็ตส์ ผงาดแชมป์เข้าจนได้
และถัดลงมาก็เป็น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ยืนยันการเลื่อนชั้นได้ในฐานะทีมอันดับ 2 ขณะยังคงเหลือเกมในมืออีก 3 นัดด้วยกัน
เราอาจเพิ่งเห็นว่าพวกเขาอยู่ห่างระดับจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เยอะ จากการเจอกันใน เอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก สุดสัปดาห์ที่แล้ว และเรือใบสีฟ้ากินนิ่ม 3-0 ริยาด มาห์เรซ แฮตทริก แต่บางที มันก็อาจเป็นเพราะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไม่ได้มุ่งสมาธิกับเกมนี้มากไปกว่าอีก 4 วันให้หลัง ที่มีเกมสำคัญของ ชปช. รออยู่
เพราะทันทีที่กำราบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ลงได้ 2-0 (ซานเดอร์ เบอร์เก้, อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช) ในเกมกลางสัปดาห์นัดล่าสุด พุธ 26 เม.ย. ก็หมายถึงงานฉลองได้มาถึงสนาม บรามอลล์ เลน แล้ว
การชนะ 6 จาก 7 เกมหลังสุด มากพอจะทำให้ช่องว่างระหว่างตัวพวกเขากับทีมอันดับ 3 ลูตัน ทาวน์ "ขาดลอย" เป็นที่เรียบร้อย 7 แต้ม โดยที่ ลูตัน เหลือคิวเตะอีกแค่ 2 นัดสุดท้าย (ส่วน เชฟยู ยังเหลือ 3)
จึงเป็นอันว่า เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือ 2 ทีมสมาชิกใหม่หน้าเก่าแห่ง พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้า 2023/24
หลังบ้านงานดี มีรางวัล
ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือน เบิร์นลี่ย์ ที่ขึ้นจ่าฝูงแล้วยึดยาวไม่ปล่อยใครแทรกแซง แต่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็มีความสม่ำเสมอเป็นของตัวเอง และต้องบอกว่าพวกเขา "แรงเป็นพักๆ" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่นำพาตั๋วเลื่อนชั้นมาให้
- - 10 เกมแรก ชนะ 7 แพ้แค่ 1
- แมตช์ 21-30 เป็นระยะไร้พ่ายสิบนัด ชนะ 8 เสมอ 2
- ช่วงเดือนหลัง ชนะ 6 จาก 7 เกม จนการันตีเลื่อนชั้นในที่สุด
สำหรับคุณสมบัติเด่นที่ทีมของ เฮ็คกิ้งบอทท่อม มี ก็คือ "เกมรับ" ที่เหนียวแน่นไว้ใจได้ ตลอดซีซั่น 43 นัดจนถึงตอนนี้ พวกเขาเสียไปแค่ 36 ประตูเท่านั้น น้อยกว่านี้มีแค่ เบิร์นลี่ย์ ทีมเดียว
เช่นกัน นายทวาร เวส โฟเดริงแฮม ก็ทำไปแล้ว 17 คลีนชีต เป็นอันดับ 3 ในชาร์ตไม่เสียประตู
และแม้เกมรุก พวกเขาจะไม่ได้มีตัวทีเด็ดถล่มตาข่ายไม่ยั้ง ชาร์ตดาวซัลโว 10 อันดับแรกมีแค่ อิลลิมาน เอ็นดิอาย หัวหอกเซเนกัลของดาบคู่ รายเดียวที่ติดอยู่ ด้วยการกดไป 13 ประตู (และ เอ็นดิอาย ยังทำไป 9 แอสซิสต์) แต่โดยรวมแล้วทั้งทีมก็ช่วยกันยิงรวม 67 ประตู สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ และ เบิร์นลี่ย์
(ถัดจาก 13 ลูกของ เอ็นดิอาย ก็มี 11 ประตูของ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, 8 ประตู เจมส์ แม็คเคที, 6 ประตู ซานเดอร์ เบอร์เก้, 5 ประตู อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช)
ล่าสุด ชปช. มีการประกาศ "ทีมแห่งปี" ออกมาเรียบร้อยแล้ว เชฟยู ส่งเข้าประกวด 2 ราย อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช เซนเตอร์แบ็กบอสเนีย กับ อิลลิมาน เอ็นดิอาย หัวหอกเซเนกัล ติดอยู่ด้วย
ชปช. ที่ยังเหลือ
2 โควต้าเลื่อนชั้นอัตโนมัติ ได้บทสรุปไปแล้ว เท่ากับ ชปช. เวลานี้ เหลือลุ้นกันแค่โซนเพลย์ออฟ กับใครจะเป็น 3 ทีมที่ตกชั้นลงสู่ ลีก วัน
สำหรับโซนเพลย์ออฟ ก็มีการันตีแล้ว 2 รายเช่นกัน คืออันดับ 3 ลูตัน ทาวน์ และอันดับ 4 มิดเดิ้ลสโบรช์ ส่วนอีก 2 หน่อที่จะได้ไปต่อ, จากตอนนี้เตะผ่าน 44 เกม เหลืออีก 2 นัดสุดท้าย, ก็น่ารักน่าลุ้น น่าจับตาดีเหลือเกินว่ามีถึง "แปดทีม" ที่เข้าข่าย
หัวตาราง ชปช. ล่าสุด (3-6 ไปต่อเพลย์ออฟ, ลูตัน กับ โบโร่ ไปชัวร์แล้ว)
อันดับ | แต้ม |
---|---|
3. ลูตัน | 78 |
4. มิดเดิ้ลสโบรช์ | 74 |
5. โคเวนทรี | 66 |
6. ซันเดอร์แลนด์ | 65 |
7. มิลล์วอลล์ | 65 |
8. แบล็คเบิร์น | 65 |
9. เวสต์บรอมวิช | 63 |
10. เปรสตัน | 63 |
11. นอริช | 62 |
12. สวอนซี | 62 |
จากนั้นก็เป็นเรื่องของโซนตกชั้น ที่ก็น่าแปลกใจใช่ย่อยว่าถึงตอนนี้ที่เหลือแค่ 2 เกมท้ายสุด ยังคงไม่มีใครที่ตกตายอย่างเป็นทางการแม้แต่รายเดียว ฉะนั้น ก็ต้องจับตาดูกันว่า จาก 7 อันดับรั้งท้าย--ที่แต้มไล่เลี่ยกันอยู่ ใครกันจะเป็น 3 ทีมที่ไม่ได้ไปต่อ
ท้ายตาราง ชปช. ล่าสุด (22-24 ตกชั้น, ฮัดเดอร์สฟิลด์ เป็นทีมเดียวที่เตะ 43 นัด น้อยกว่าเพื่อน 1 เกม)
อันดับ | แต้ม |
---|---|
18. คาร์ดิฟฟ์ | 49 |
19. ควีนส์พาร์ค | 47 |
20. ร็อตเตอร์แฮม | 46 |
21. ฮัดเดอร์สฟิลด์ | 44 |
22. เร้ดดิ้ง | 43 |
23. แบล็คพูล | 41 |
24. วีแกน | 40 |