ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ กับประเด็นสำคัญก่อนเกมชี้ชะตาแชมป์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ สุดสัปดาห์นี้ - FEATURE

Manchester City v Liverpool FC - Premier League
Manchester City v Liverpool FC - Premier League / Getty Images/GettyImages
facebooktwitterreddit

แฟนบอลคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าแชมป์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ จะต้องมาตัดสินกันในเกมนัดสุดท้ายคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.00 น ซึ่ง 2 ทีมที่มีลุ้นอย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะลงแข่งพร้อม ๆ กันโดยทั่งคู่จะได้ลงเล่นในบ้าน หงส์แดง จะต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เรือใบสีฟ้า จะเปิดรัง เอติฮัด พบ แอสตัน วิลลา


เงื่อนไขในการคว้าแชมป์ของทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ ดูจะได้เปรียบกว่าจากการที่นำเป็นจ่าฝูงมีแต้มมากกว่า ลิเวอร์พูล อันดับสอง 1 คะแนนแต่มีผลต่างประตูได้-เสียมากกว่า 6 ประตู เพราะฉนั้นพวกเขาต้องชนะ แอสตัน วิลลา เพื่อที่จะคว้าแชมป์ทันทีโดยไม่ต้องสนใจผลคู่อื่น แต่หากเสมอหรือแพ้ต้องลุ้นให้ หงส์แดง ไม่ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยเช่นกัน

ด้าน ลิเวอร์พูล แน่นอนพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องชนะ วูล์ฟส์ ให้ได้สถานเดียวเพราะการเสมอไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเบียดแซงขึ้นไปได้เนื่องจากผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง และยังต้องลุ้นให้ เรือใบสีฟ้า ไม่ชนะ แอสตัน วิลลา เท่านั้น

Pep Guardiola
Manchester City v Liverpool: The Emirates FA Cup Semi-Final / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages

ผู้บริหารพร้อมถ้วยรางวัล...

ก่อนเกมมีข่าวว่า ริชาร์ด มาสเตอร์ส ผู้บริหารระดับสูงของ พรีเมียร์ลีก จะไปรอชมเกมที่บ็อกซ์วีไอพีของ เอติฮัด สเตเดี้ยม พร้อมกับถ้วยแชมป์เพื่อเตรียมทำการมอบให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรณีที่พวกเขาเอาชนะ สิงห์ผงาด ในเกมนี้ได้ ส่วนเกมที่ แอนฟิลด์ ทางทีมงานก็มีแผนสองหาก ลิเวอร์พูล เกิดเบียดแซงเป็นแชมป์ ด้วยการนำถ้วยจำลองไปประจำไว้ที่ เมอร์ซีย์ไซด์ แต่อย่างไรก็ตามหลังสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันไม่ว่าแท้หรือเทียมก็จะมีเพียงสโมสรเดียวเท่านั้นที่จะได้สัมผัสและชูถ้วยแชมป์ลีกในฤดูกาล 2021/22 นี้

Brentford v Manchester City - Premier League
Brentford v Manchester City - Premier League / Catherine Ivill/GettyImages

ทุกคนต่างพูดถึง เจอร์ราร์ด

แม้ว่าจะไม่ได้มีส่วนได้เสียไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด กลายเป็นตัวละครสำคัญอีกหนึ่งคนที่จะเข้ามามีบทบาทในการตัดสินแชมป์ในฤดูกาลนี้ด้วยการมีคิวต้องพาลูกทีม แอสตัน วิลลา บุกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดสุดท้าย แน่นอนว่าลำพัง ทัพสิงห์ผงาด เองก็ไม่มีลุ้นอะไรอีกแล้วเพียงแค่ลงแข่งตามโปรแกรมให้จบครบตามที่วางไว้เท่านั้น จึงทำให้อันที่จริงพวกเขาจะเล่นแบบประคอง ๆ พร้อมกับสลับไปใช้งานนักเตะสำรองบ้างก็คงไม่แปลกอะไร แต่ด้วยสปิริตรวมถึงการความผูกพันกับ ลิเวอร์พูล สมัยที่ยังเป็นนักเตะอาจทำให้ สตีวีจี ตัดสินใจสั่งให้ลูกทีมเล่นใหญ่ใส่เต็มทำทุกทางเพื่อแบ่งแต้มจาก เรือใบสีฟ้า ในเกมนี้มาก็เป็นได้

Steven Gerrard, Jürgen Klopp
Aston Villa v Liverpool - Premier League / Visionhaus/GettyImages

อัพเดทความพร้อมผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทั้งสองทีมดูเหมือนว่าจะประสบปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บคล้าย ๆ กันด้าน แมนฯ ซิตี้ จะไม่สามารถใช้งานสองปราการหลังตัวเก่งทั้ง รูเบน ดิอาส และ จอห์น สโตนส์ ในเกมนี้ได้แน่นอนแล้วเนื่องจากทั้งคู่มีอาการบาดเจ็บที่ต้นขา ส่วนแบ็คขวาอย่าง ไคล์ วอลเกอร์ ที่เจ็บข้อเท้าก็มีโอกาสสูงที่จะยังไม่สามารถลงสนามในเกมนี้ได้เช่นกัน ทำให้ เป๊ป ไม่มีทางเลือกมากนักและคงต้องใช้งาน ชูเอา คันเซโล เป็นแบ็คขวาแทน ส่วนสองเซ็นเตอร์คาดว่าจะเป็น ไอเมริค ลาปอร์ต และ เนธาน เอเก้ ด้านแบ็คซ้ายก็จะเป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยืนประจำการ

Kyle Walker, Ruben Dias
Real Madrid v Manchester City Semi Final Leg Two - UEFA Champions League / Angel Martinez/GettyImages

ฝั่ง ลิเวอร์พูล นอกจากเกมสุดสัปดาห์นี้พวกเขายังมีนัดสำคัญในสุดสัปดาห์ถัดไปที่จะต้องพบกับ เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องวางแผนให้ดีในการจัดตัวผู้เล่นลงสนาม โดยก่อนเกม ฟาบินโญ ที่บาดเจ็บต้นขาน่าจะยังไม่มีชื่อในเกมนี้เช่นเดียวกับ โจ โกเมซ ที่เจ็บข้อเท้าในเกมกับ เซาแธมป์ตัน ส่วนในรายของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่บาดเจ็บเข่าอาจจะกลับมามีชื่อในนัดนี้ได้พร้อม ๆ กับ โม ซาลาห์ ที่เจ็บโคนขาหนีบมาตั้งแต่เกม คาราบาว รอบชิง แต่ไม่แน่ว่านายใหญ่ชาวเยอรมันเองอาจจะพักทั้งสองคนเอาไว้ก่อนเพื่อรอให้ฟิตเต็มร้อยทันเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศคืนวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมที่จะถึงนี้

Chelsea v Liverpool: The Emirates FA Cup Final
Chelsea v Liverpool: The Emirates FA Cup Final / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

คาดการณ์ก่อนเกม

ฝั่ง ลิเวอร์พูล จะพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ผลงานช่วงหลังย่ำแย่สุด ๆ ไม่ชนะใครมาแล้วถึง 6 เกมดูแล้วคงจะไม่ใช่งานยากนักในการคว้า 3 คะแนนเว้นเสียแต่ คล็อปป์ จะตัดสินใจโรเทชั่นนักเตะเพื่อเก็บตัวไว้ลุยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ถึงจะทำได้ก็ยังต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ยากสุด ๆ ถ้าจะหวังให้ หงส์แดง เบียดแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ในบั้นปลาย เพราะถึงแม้ พลพรรคเรือใบสีฟ้า เพิ่งจะสะดุดมาแต่ผลงานโดยรวมก็ยังเหนือว่าคู่แข่งอย่าง แอสตัน วิลลา หลายขุม ความเป็นไปได้ทางเดียวก็คงต้องหวังพึ่งปาฏิหารย์จาก สตีเวน เจอร์ราร์ด ให้ทีมของเขางัดฟอร์มเทพต้านความร้อนแรงของ แมนฯ ซิตี้ เอาไว้ให้ได้ตลอด 90 นาที แต่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโอกาสที่ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะได้ชูถ้วยอีกสมัยมีความเป็นไปได้สูงกว่ามากจริง ๆ

Pep Guardiola, Jurgen Klopp
Manchester City v Liverpool - Premier League / Michael Regan/GettyImages

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด