การเตรียมตัวเพื่ออนาคต “บาโลกุน” - FEATURE
โฟลาริน บาโลกุน (21 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) กำลังอยู่ในช่วงที่ผลงานติดลมบนที่สุดในช่วงต้นเส้นทางอาชีพของตนเอง กับสโมสรแรงก์ (Reims) สโมสรในลีก เอิง ฝรั่งเศส และมีชื่อขึ้นในหน้าสื่ออีกครั้ง หลังอาการบาดเจ็บของ กาเบรียล เฆซุส ว่าอาร์เซนอลควรเรียกตัวเขากลับมาช่วยงานทีมหรือไม่
กองหน้าบราซิลบาดเจ็บในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่มที่พบกับแคเมอรูน และตอนนี้เดินทางกลับมาที่ลอนดอนแล้ว เพื่อเตรียมรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งถึงตรงนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาต้องพักฟื้นนานเท่าไร ต้องผ่าตัดหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดคือฟุตบอลโลกและอาจจะหมายถึงในปี 2022 นี้เขาหมดสิทธิ์ลงเล่นแล้ว นั่นทำให้แฟนบอลอาร์เซนอล พูดถึงการมองหากองหน้าคนใหม่มาทดแทน เพราะ เอ็ดดี้ เอนเคเธีย เพียงคนเดียว ไม่ดีพอสำหรับทีมที่ต้องการลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไกลกว่านั้น ทำให้ชื่อของบาโลกกุนถูกระบุออกมาว่าจะถูกเรียกตัวกลับมาสู่ทีมในตลาดการซื้อขายมกราคมนี้ โดยถึงตรงนี้ความชัดเจนในเรื่องของการเรียกตัวกลับมาจะสามารถทำได้หรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา บ้างก็ว่าได้ บ้างก็ว่าไม่ได้ ขึ้นกับการเซ็นสัญญาที่ระบุเอาไว้ระหว่างสโมสรเป็นสำคัญ
นักเตะดาวรุ่งจำนวนมากสามารถยิงประตูในระดับเยาวชนได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เมื่อขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ พวกเขาอาจต้องใช้เวลานานหลายเกมในการหาประตูแรกของตัวเองในทีมชุดใหญ่ หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นกับโอกาส ความมั่นใจ และการปรับตัวเข้ากับทีมชุดใหญ่ ซึ่งคนละโลกกับทีมเยาวชน
“ยังกันส์” หรือชื่อเล่นของนักเตะเยาวชนอาร์เซนอลเติบโตขึ้นมาเป็นจำนวนมากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ในตำแหน่งกองหน้าจัดว่าเป็นอาถรรพ์พอสมควร เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทะลุขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ได้แบบจริงจังชื่อของ เกรแฮม บาร์เรตต์, อิไซอาห์ แรนกิ้น, เฌเรมี่ อาลิอาดิแยร์, ชิลส์ ซูนู, เจย์ ซิมป์สัน, เจย์ โบธรอยด์, เจย์ เอมมานูเอล-โธมัส, ชูบ้า อัคปอม, ดอนเยล มาเลน, โจเอล แคมป์เบลล์ หรือในรุ่นล่าสุดอย่าง เอ็ดดี้ เอนเคเธีย ยังไม่มีใครฝากผีฝากไข้ได้อย่างจริงจังเลยแม้แต่คนเดียว บาโลกุน ก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ว่าเขาจะดีพอหรือไม่สำหรับคนภายนอก แต่สำหรับอาร์เซนอล พวกเขามั่นใจว่าเด็กคนนี้ดีพอ แต่ต้องให้เวลาในการพัฒนาแน่นอนรวมถึงการันตีเขาด้วยสัญญาใหม่
เมษายน 2021 : บาโลกุน ตัดสินใจต่อสัญญาใหม่กับอาร์เซนอลด้วยสัญญา 4 ปี เขากลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่อาร์เซนอล “โล่งใจ” ที่สามารถรั้งตัวเขาเอาไว้ได้ ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมา เขาจะได้รับโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก ตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาล อย่างไรก็ตามผลงานของเขาไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เขาได้โอกาสสองเกมตลอดฤดูกาล และถูกส่งไปเล่นกับ มิดเดิ้ลสโบรซ์ ในตลาดเดือนมกราคม 2022 ซึ่งที่นั่นเขาก็ค่อนข้างได้รับโอกาสเยอะ แม้จะยิงประตูไม่มากแต่ก็ถือว่าน่าพอใจสำหรับขั้นตอนในการพัฒนานักเตะ
“ตอนเด็ก ๆ ผมเล่นให้กับสโมสรที่ชื่อว่า อัลเดอร์บรู๊ค ตอนอายุ 6-7 ขวบ ตอนนั้นผมเล่นกองหลังตัวกลาง ผมว่าผมเป็นกองหลังที่เร็วมากเลยล่ะ และครองบอลดี โค้ชเลยให้เล่นตรงนั้นคอยช่วยเหลือเพื่อนเวลาเล่นพลาด ผมแค่เล่นสนุกไม่คิดอย่างอื่น ขอแค่ได้เล่นก็พอ จนอายุ 10 ขวบ ผมก็เริ่มได้เล่นปีก เพราะผมวิ่งเร็วเลี้ยงบอลได้ดีนั่นละ”
“ตอนนั้นทีมของเราลงเล่นในทัวร์นาเมนต์แข่งฟุตบอล มันเป็นทัวร์นาเมนต์แบบวันเดียวจบเล่นกัน 5-6 เกม ใช้เวลากันทั้งวันเลย ทีมเราได้เข้าชิงชนะเลิศ ผมจำได้ก่อนเกมรอบชิงชนะเลิศ ผมไปวอร์มร่างกาย และมีคนมาคุยกับพ่อของผมที่ข้างสนาม เป็นคนที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ผมคิดว่าสงสัยมาถามทางไปห้องน้ำกับพ่อเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ผมยิงประตูชัย เรากำลังฉลองกันใหญ่เลย พอกลับไปที่รถกำลังทำความสะอาดรองเท้า พ่อก็ยื่นนามบัตรมาให้ใบหนึ่งแล้วบอกว่าคนที่มาคุยกับพ่อเป็นแมวมองของอาร์เซนอล และเขาเสนอให้ผมไปทดสอบความสามารถกับทีมสัปดาห์หน้า ตอนนั้นผมดีใจมาก เพราะผมทั้งได้แชมป์ และผมจะได้ไปเล่นที่อาร์เซนอล”
“ผมไปซ้อมที่นั่นหลังจากวันแข่งประมาณ 5-6 สัปดาห์ แต่ช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 พ่อผมได้รับสายจากแมวมองของสเปอร์ส พวกเขาให้ข้อเสนอแบบเดียวกันกับอาร์เซนอล สุดท้ายผมกับพ่อตกลงกันว่าเราจะไปอาร์เซนอลสามวันที่เหลือเราจะไปที่สเปอร์ส สุดท้ายอาร์เซนอลคือทีมที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้เรา และเราตกลงเลือกย้ายมาที่อาร์เซนอล แต่ผมบอกก่อนนะ ผมไม่ใช่แฟนบอลทีมไหนเลย ผมเป็นแฟนบอลของโรนัลโด้ กองหน้าบราซิลเพียงคนเดียว”
บาโลกุน เข้าร่วมทีมเยาวชนของอาร์เซนอลครั้งแรกในช่วงปี 2011 ก่อนที่จะผ่านระบบเยาวชนของทีมซึ่งจะมีการ “ตัดตัว” ผู้เล่นเมื่อถึงอายุ 16 ปีว่าใครดีพอจะได้รับทุนการศึกษาจากสโมสร และใครจะต้องออกจากทีมไป ซึ่ง บาโลกุน สามารถผ่านบททดสอบนั้นพร้อมกับเข้าสู่ทีมเยาวชนแบบเต็มรูปแบบ ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่า เขาเกือบไม่ได้รับโอกาสนี้แล้ว
“ตอนอายุ 16 ปี ทีมจะคัดเลือกนักเตะที่จะได้รับทุนการศึกษา ก่อนหน้านั้นหนึ่งปีผมยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่ผลงานแย่ที่สุดในทีมอยู่เลย ผมเล่นไม่ดีแบบไม่มีใครต้องบอก และชัดเจนเมื่อผมได้คุยกับโค้ชของทีม ก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกัน พวกเขาพูดตรง ๆ ว่าเขาคาดหวังจากผมมากกว่าที่ออกมามาก ตอนนั้นผมคิดเลยว่าจะเอาอย่างไร “ทำงานหนัก” หรือ “กลับบ้าน” พอในปีที่อายุครบ 16 ปี ผมมีฤดูกาลที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะผมยิงไปถึง 40 ประตูในปีนั้น ผมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยล่ะ เพราะผมเล่นปีกมาตลอดจนกระทั่งโค้ชจับผมไปเล่นกองหน้า และเกมนั้นผมยิงได้สองประตู หลังจากนั้นเขาก็ส่งผมลงเล่นอีกผมก็ยิงได้อีก”
“คราวนี้ผมเริ่มไปเรียนพื้นฐานของการเล่นเป็นกองหน้า และทุกอย่างมันก็ลงตัวกับการเล่นกองหน้า ได้มีโอกาสฝึกกับนักเตะที่เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม ผมมีโอกาสเรียนรู้ประมาณ 2-3 สัปดาห์จากเธียร์รี่ อองรี ที่มาทำงานเป็นโค้ชให้ทีมเยาวชนอาร์เซนอล (มกราคม 2015-กันยายน 2016) และเขาทำให้ผมทึ่งกับความยอดเยี่ยมของเขา และเราได้ทำงานร่วมกันในพื้นที่เขตโทษ คุณคิดสิว่าตอนนั้นเขาอายุเท่าไร แต่เขายังแกร่งมากอยู่แล้ว เช่นเดียวกันที่ผมได้ลงซ้อมกับ อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง พวกเขาให้คำแนะนำผมมากมาย ลากา เทคนิคดี เคลื่อนที่ก็ดี และสัมผัสบอลแรกของเขายอดเยี่ยมที่สุด ส่วน โอบา คือเครื่องจักรในการยิงประตู”
อาร์เซนอล เป็นหนึ่งในทีมแรก ๆ ของวงการพรีเมียร์ ลีก ที่มีการแต่งตั้ง “Loans Manager” หรือผู้จัดการทีมเฉพาะเรื่องนักเตะยืมตัวเข้ามา เบน แนปเปอร์ เป็นเจ้าของตำแหน่งนี้คนแรกของสโมสร เป็นผู้ดูแลทุกคนที่ยืมตัวออกไป มีส่วนสำคัญมากในการเลือกข้อเสนอให้กับนักเตะ แนะนำว่าควรย้ายไปที่ไหน มองหาข้อดีข้อเสียให้นักเตะ และสุดท้ายเมื่อเลือกย้ายไปแล้วนักเตะของทีมได้ประโยชน์กับการย้ายทีมหรือไม่มากน้อยแค่ไหน รวมถึงว่าการใช้ชีวิตทั่วไปของนักเตะเป็นอย่างไร นี่คือหน้าที่ของเขา และ บาโลกุน ก็เป็นหนึ่งในคนที่เขาช่วยเลือกทีมที่สุดท้าย นักเตะเลือกย้ายไปเล่นในฝรั่งเศส กับ แรงก์ ด้วยเหตุผลหลักคือเรื่องของโอกาสในด้านฟุตบอลเมื่อทีมตัดสินใจปล่อย ฮูโก้ เอกิเตเก้ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มดีให้กับเปแอสเช พวกเขาก็เลือกเสนอโอกาสให้กับ บาโลกุน เข้ามาแทนที่ และก็ไม่ผิดหวังกับผลงาน
บาโลกุน ลงเล่นในลีก เอิง ไปแล้ว 15 เกมในฤดูกาลนี้ทำได้ 8 ประตู 2 แอตซิสต์นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับปีแรกของเขาในลีกสูงสุดระดับท็อปแบบเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรก ก่อนพักเบรกฟุตบอลโลก แรงก์ อยู่อันดับ 10 ของตาราง
“ก่อนเซ็นสัญญากับแรงก์ ผมได้นั่งดูว่าทีมอื่นในลีกเล่นกันอย่างไร และแรงก์เล่นกันแบบไหน ผมคิดว่านี่คือสถานที่เหมาะสมสำหรับผม ผมรู้ศักยภาพตัวเอง รู้ว่าผมจะประสบความสำเร็จได้ และผมมีความสุขกับผลงาน ผมเหลืออีกสองประตูจะยิงครบ 10 ประตู และผมมุ่งมั่นทำงาของตนเองต่อไป ผมไม่คิดจะจบแค่ 10 หรอกนะ ผมจะตั้งเป้าให้สูงกว่านั้นอีก ผมได้คุยกับ ลากาแซตต์ กับ เปเป้ ก่อนย้ายมาที่นี่ และเปเป้ เป็นคนบอกผมเกี่ยวกับหลายเรื่องในลีก เอิง และ 10 ประตูในลีกนี้คือเป้าหมายที่เขาตั้งให้กับผม ถ้าผมทำได้ ผมคิดว่าการเจอกันครั้งหน้าระหว่างผมกับเขา เขาคงตั้งเป้าหมายใหม่ให้กับผมอีกก็ได้”
“นี่คือการผจญภัยครั้งใหม่ ประเทศใหม่ ผมต้องการปรับตัวให้เร็ว เรียนรู้อะไรใหม่ให้ทำใหตัวให้สบายที่สุด ผมมาที่ แรงก์ คนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีครอบครัว ผมอยากออกจากคอมฟอร์ทโซน และเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง และตอนนี้ผมคิดว่ามันทำให้ผมดีขึ้นมาก”
“ผมต้องเก่งกว่านี้ เฉียบคมกว่านี้ และอันตรายกว่านี้ให้ได้ นี่คือเป้าหมายของผม”