เปิดอกนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ฟิล โฟเด้น กับเป้าหมายต่อไปในสีเสื้อ แมนซิตี้ - FEATURE
- โฟเด้น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฤดูกาลนี้ไปครอง
- ปาดหน้าเพื่อนร่วมชาติอย่าง ดีแคลน ไรซ์ กองกลางจาก อาร์เซนอล ไปแบบหวุดหวิด
- เจ้าตัวชี้ชัดว่างานของ เรือใบสีฟ้า ยังไม่จบ กับการล่าแชมป์ 2 รายการกับ 2 นัดสุดท้ายของซีซั่นนี้
โดย Navapun Munarsa
ฟิล โฟเด้น จอมทัพทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก เปิดเผยถึงเป้าหมายต่อไปของตัวเองว่า ต้องการพาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันให้สำเร็จ
ในฤดูกาลนี้ เพลย์เมคเกอร์วัย 23 ปี ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการซัดไปถึง 25 ประตู จากการลงสนาม 50 เกมรวมทุกรายการให้กับ แมนฯซิตี้ โดยผลงานดังกล่าวทำให้เจ้าตัวนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ และรางวัลแข้งยอดเยี่ยมของลีกไปครองได้เรียบร้อยแล้ว
รางวัลดังกล่าว โฟเด้น เอาชนะ ดีแคลน ไรซ์ กองกลางเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษจาก อาร์เซนอล และ โรดรี้ ดาวเตะชาวสเปนเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ ด้วยคะแนนโหวต 42 เปอร์เซ็นต์ จาก FWA ซึ่งเป็นตัวแทนของนักข่าวฟุตบอลเกือบ 900 คน
มิดฟิลด์เลือดผู้ดีกล่าวว่า “เรายังอยู่ในการแข่งขันอีก 2 รายการ (พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ) เราเหลืออีกนัดชิงชนะเลิศอีก 2 เกม และเราจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อพยายามเอาชนะ และประสบความสำเร็จ รวมถึงพยายามคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยมีทีมใดทำได้มาก่อน”
“มันจะมีความหมายอย่างมากสำหรับเรา มันเป็นประวัติศาสตร์ และผมไม่คิดว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นมันเกิดขึ้นอีกเลย”
โฟเด้น เป็นเด็กลูกหม้อขนานแท้ของ แมนฯซิตี้ ที่อยู่กับทีมมาตั้งตา 9 ขวบ ก่อนจะได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปน ให้ก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2017 และก็พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม
โฟเด้น กล่าวหลังจากคว้ารางวัลว่า “ผมมีความสุขมากสำหรับผู้คนที่ร่วมเดินทางไปกับผม แฟนบอลที่สนับสนุนผม ผู้ที่ช่วยเหลือผม และการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้มีความหมายต่อผมมากจริงๆ มันแค่แสดงให้เห็นว่าผมมาไกลแค่ไหน”
“ผมอยากให้พวกคุณดูการเดินทางของผม และอยากแสดงให้เห็นว่าเด็กคนอื่นๆเห็นว่า พวกเขาทำได้ มันรู้สึกพิเศษนิดหน่อยสำหรับผมในฐานะเด็กที่ได้มาจากอคาเดมี่ และตอนนี้ได้เล่นกับสตาร์ดังระดับโลก ผมได้รับรางวัลที่ผมทำงานหนักเพื่อมันมาตลอด”
ในวัยเพียง 23 ปี โฟเด้น กลายเป็นตำนานของ แมนฯซิตี้ อย่างรวดเร็ว หลังจากประสบความสำเร็จร่วมกับทีมด้วยการคว้าแชมป์ทุกรายการ ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่น่าเหลือเชื่อสำหรับนักฟุตบอลที่เพิ่งก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เพียงไม่กี่ปี
โฟเดน และ แมนฯซิตี้ ยังเหลืออีก 2 เกมสุดท้ายของซีซัน 2023-2024 ให้ลงเล่น โดยหากคว้าชัยชนะได้ทั้งหมด มันก็จะเป็นประวัติศาสตร์ และความยอดเยี่ยมอีกครั้งสำหรับพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ซึ่งยากที่ทีมใดจะลอกเลียนแบบได้