หรือการหั่นชื่อ โอบาเมยอง ออกจากทีมรอบน็อคเอาท์ อาจเป็นการตัดสินใจที่พลาดมหันต์ของ เชลซี - FEATURE
โดย Asree Samuyae
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ระยะยาวของ เชลซี แทบจะแน่นอนแล้ว
เชลซี สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยเซ็นสัญญากับกองหน้าชาวกาบองเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่เขาได้รียูเนี่ยนกับ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่ถึงสัปดาห์เท่านั้น ก่อนที่เฮดโค้ชชาวเยอรมันถูกไล่ออก
จากที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของเชลซี แต่กราฟของ โอบาเมยอง รูดกราวลงเรื่อย ๆ และมันเป็นเรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์แบบสุด ๆ เมื่ออดีตกองหน้าบาร์เซโลน่าไม่มีชื่อในทีมชุดลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อคเอาท์ เพื่อหลีกทางให้นักเตะใหม่ 3 คนที่ย้ายเมื่อมกราคมที่ผ่านมา
พอตเตอร์ ยอมเสี่ยงกับการไม่ส่ง โอบาเมยอง ซึ่งเป็นกองหน้าซีเนียร์ธรรมชาติเพียงรายเดียวร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ และดูเหมือนว่ามันจะส่งผลต่อเฮดโค้ชชาวอังกฤษอย่างรวดเร็ว เมื่อล่าสุด เชลซี บุกไปพ่าย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ด้วยปัญหาเดิม ๆ คือ การจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมพอ
โอกาสที่พลาดไปไม่ใช่ความผิดของ พอตเตอร์ เขาไม่อาจถูกตำหนิได้กับโอกาสทองของ เจา เฟลิกซ์ ในครึ่งแรก เหล่าแนวรุกของเชลซีต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ ฮาคิม ซิเย็ค ใช้โอกาสสิ้นเปลืองในช่วงครึ่งหลัง ขณะเดียวกัน เกรกอร์ โคเบิล เซฟเซฟลูกยิงของ เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ และ คาลิดู คูลิบาลี่ ได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่มันก็แฟร์พอที่จะตั้งคำถามว่าทำไม พอตเตอร์ ถึงไม่มี โอบาเมยอง เป็นตัวเลือกบนม้านั่งสำรองตอนที่ เชลซี ต้องการประตูตีเสมอแบบนี้ เมื่อ คริสเตียน พูลิซิช และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้รับบาดเจ็บ พอตเตอร์ ทำได้เพียงส่ง มาร์ค คูคูเรญ่า และ เมสัน เมาท์ เพื่อเปลี่ยนเกมและต้องการประตู?!
พอตเตอร์ ไม่ได้ใส่ชื่อของ ดาวิด ดาโตร โฟฟาน่า หัวหอกวัย 20 ปีที่ซื้อมาจาก โมลด์ และ อาร์มันโด่ โบรย่า ที่เจ็บหนัก เพราะงั้นการไม่มี โอบาเมยอง เป็นคำถามอันใหญ่โตที่ใครหลาย ๆ คนต่างงุนงง
ความย่ำแย่ในเกมรุกของ เชลซี ไม่ใช่เรื่องใหม่ พวกเขายิงได้ 6 ประตูเท่านั้นจาก 10 เกมที่ผ่านมา ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำได้ 6 ประตูในฤดูกาลนี้ ดาวเตะชาวเยอรมันอาจช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่เขาไม่ได้โหดเหี้ยมพอสำหรับบทบาทหน้าเป้าที่ไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ
พอตเตอร์ จะยังคงพึ่งพา ฮาแวร์ตซ์ ต่อไป เขาอาจพูดได้ว่าการสร้างสรรค์เกมไม่ใช่ปัญหา ด้วยการมี เฟลิกซ์, ซิเย็ค และ มีไคโล มูดรีค คอยปั้นเกมให้ แต่มันมีคำถามว่าถ้ามี โอบาเมยอง เป็นกองหน้าผลลัพธ์อาจจะดีกว่านี้หรือไม่ โดยเฉพาะตัวเลือกแนวรุกที่อัพเกรดขึ้นจากตอนต้นฤดูกาล
โอบาเมยอง ทำได้เพียง 3 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า ดาวเตะวัย 33 ปี ไม่พอดีในสายของ พอตเตอร์ เขาไม่ใช่กองหน้าที่วิ่งเพรสซิ่งได้เก่ง และบางครั้งก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการทำประตูด้วย เพราะงั้นดาวยิงกาบองไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกเลยนับตั้งแต่เกมพ่าย อาร์เซนอล เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตามมันก็น่าลุ้นว่า โอบาเมยอง อาจคลิกกับ เฟลิกซ์, มูดรีค และ เอ็นโซ่ เขามีสัญชาตญาณความเป็นกองหน้ามากที่สุดในทีม และการมีตัวปั้นเกมที่ดีอาจงัดศักยภาพที่ดีที่สุดของอดีตหัวหอกอาร์เซนอลได้อีกครั้ง
กองหลังคู่แข่งคงผวากว่าถ้ามีกองหน้าธรรมชาติแบบเขาอยู่ป้วนเปี้ยนในเขตโทษ โดยเฉพาะเกมที่เจอกับ ดอร์ทมุนด์ ยิ่งไปกว่านั้นมันน่าขันที่ โอบาเมยอง ไม่ได้เป็นตัวสำรองด้วยซ้ำในเกมลีก 2 นัดหลังสุด
พอตเตอร์ อธิบายว่าเขาอยากให้โอกาส โฟฟาน่า ปรับตัวเข้ากับลีก และกองหน้ารายนี้เกือบทำประตูได้ในเกมเสมอ ฟูแล่ม แบบไร้สกอร์ แต่แข้งชาวไอวอรี่โคสต์ไม่มีประสบการณ์พอและไม่ได้ถูกส่งลงลงสนามในเกมเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ตอนนี้ เชลซี คงรู้สึกได้ว่าพวกเขายังมีโอกาสพอที่จะเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ พลิกผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ถ้าพวกเขายังใช้โอกาสเปลืองและจบสกอร์ไม่เด็ดขาดพอ ผลลัพธ์ในเลกสองก็อาจจบลงแบบเดิม
และแน่นอนว่าคำถามก็จะย้อนไปถึงการตัดสินใจของ พอตเตอร์ อีกครั้งว่า เขาทำถูกแล้วหรือไม่ที่เมินใส่ชื่อ โอบาเมยอง
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด