ย้อนรอยนักเตะ แมนยู ยุค เดวิด มอยส์ คุมทีม ตอนนี้อยู่ไหนกันบ้าง ? - FEATURE

  • เดวิด มอยส์ เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013
  • โค้ชรายนี้ทำผลงานน่าผิดหวัง หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป
  • อัปเดทชีวิตเหล่าแข้ง ปีศาจแดง ในยุคของกุนซือชาวสกอตต์รายนี้
Norwich City v Manchester United - Premier League
Norwich City v Manchester United - Premier League / Michael Regan/GettyImages
facebooktwitterreddit

การเข้ามารับงานคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ นั้น เป็นเรื่องยากเสมอไม่ว่าจะเป็นกุนซือคนใดก็ตาม

เดวิด มอยส์ ถือเป็นโค้ชคนแรกที่ต้องเข้ามารับงานอันหนักอึ้ง และกดดันสุดๆต่อจาก เฟอร์กูสัน ซึ่งแน่นอนว่า เขาทำผลงานล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะโดนไล่ออกทั้งที่ยังไม่จบฤดูกาล และวันนี้เราจะพาไปย้อนอดีตกันว่า ขุนพล “ปีศาจแดง” ในซีซัน 2013-2014 ปัจจุบันพวกเขาอยู่ไหนกันบ้าง


ผู้รักษาประตู

ดาบิด เด เคอา : นายทวารชาวสเปน เฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานถึง 11 ซีซัน พร้อมพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย และเพิ่งอำลาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังหมดสัญญา โดยปัจจุบันในวัย 33 ปี เด เค อา ยังเป็นผู้เล่นไร้สังกัด

อันเดรส ลินเดการ์ด : มือกาวชาวเดนมาร์ก ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเล่นกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2015 จากนั้น เขาย้ายไปเล่นกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ด้วยสัญญายืมตัว ตามด้วย เบิร์นลีย์ และ เฮลซิงบอร์ก ในสวีเดน ก่อนจะแขวนถุงมือเมื่อปี 2022  

แซม จอห์นสโตน : ตลอด 7 ฤดูกาลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จอห์นสโตน ไม่เคยลงเฝ้าเสามให้กับทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียว และถูกปล่อยไปเล่นกับทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัวมากมาย อาทิ วอล์ซอล์, เยโอวิล และแอสตัน วิลล่า ก่อนจะถูกขายให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 6.6 ล้านปอนด์ และปัจจุบันยืนเป็นมือ 1 ให้กับ คริสตัล พาเลซ

เบน อามอส : อามอส ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เพียงนัดเดียวตลอด 7 ปีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จากนั้น ก็ถูกส่งให้ทีมอื่นยืมตัวก่อนจะย้ายไปยัง โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส เป็นการถาวรในปี 2015 แบบไร้ค่าตัว และปัจจุบันในวัย 34 ปี เขากำลังเฝ้าเสาให้กับ วีแกน แอธเลติก ในลีกวัน

FBL-EUR-C1-BAYERN-MUNICH-MANCHESTER-UNITED
FBL-EUR-C1-BAYERN-MUNICH-MANCHESTER-UNITED / JOHANNES EISELE/GettyImages

กองหลัง

ไมเคิ่ล คีน : คีน ใช้เวลาตลอดฤดูกาล 2013-2014 ไปเล่นกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยสัญญายืมตัว จากนั้น ก็ย้ายไปยัง เบิร์นลีย์ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 2.3 ล้านปอนด์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เอฟเวอร์ตัน จะทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2017 และยืนเป็นตัวหลักมาจนถึง ณ เวลานี้

คริส สมอลลิ่ง : สมอลลิ่ง เป็นผู้เล่นในทีมชุดแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถูกปล่อยให้ โรม่า ยืมตัวไปใช้งานเมื่อซัมเมอร์ปี 2019 และในวัย 34 ปี ยังคงคุมแนวรับให้กับ “หมาป่ากรุงโรม” ได้อย่างแข็งแกร่ง

จอนนี่ อีแวนส์ : อีแวนส์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายไปยัง เวสต์บรอมวิช เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ โดยอีก 3 ปีถัดมา ก็ย้ายไปเล่นกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 3.6 ล้านปอนด์ และเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เจ้าตัวทำเซอร์ไพรส์ด้วยการหวันกลับมาเล่นกับ “ปีศาจแดง” อีกครั้ง  

ฟิล โจนส์ : ปัจจุบัน โจนส์ ยังคงค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นปีที่ 12 ติดต่อกันแล้ว แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรังทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากเท่าที่ควร และในปีนี้ เขายังไม่ได้ลงสัมผัสเกมเลยแม้แต่นาทีเดียว

อันโตนิโอ วาเลนเซีย : แบ็คขวาชาวเอกวาดอร์ มีช่วงเวลา 10 ปีที่ยอดเยี่ยมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และเล่นให้กับสโมสรในปีสุดท้ายในฐานะกัปตันทีมอีกด้วย จากนั้น ก็หวนไปเล่นกับ แอลดียู กีโต้ ในบ้านเกิด และข้ามไปเล่นในเม็กซิโกกับ เกเรตาร์โร่ และแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2021

แอชลีย์ ยัง : ยัง ย้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์  และถูกขายให้กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวราว 1 ล้านปอนด์ ในปี 2020 แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จกับ “งูใหญ่” ก่อนจะย้ายกลับไปยัง วิลล่า และซีซันนี้ ในวัย 38 ปี ก็ยังคงโลดแล่นกับ เอฟเวอร์ตัน

ราฟาเอล : แบ็คแซมบ้า ลงเล่นไปมากถึง 170 เกมตลอด 7 ปี กับ แมน ฯยูไนเต็ด และในฤดูกาลที่ มอยส์ คุมทีม เขาลงเล่นไปมากถึง 29 เกม โดย ราฟาเอล ถูกขายให้กับ โอลิมปิก ลียง เมื่อซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ จากนั้น ก็ย้ายไปเล่นกับ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์ ก่อนจะหวนกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ โบตาโฟโก

ฟาบิโอ : ฝาแฝดของ ราฟาเอล ย้ายจาก แมน ฯยูไนเต็ด ไปเล่นกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในช่วงกลางฤดูกาล 2013-2014 ของ ก่อนถูกขายให้กับ มิดเดิลสโบรห์ ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ และโยกไปเล่นในลีก เอิง กับ น็องต์ และตอนนี้เขาเดินตามรอยพี่ชายกลับไปเล่นในบราซิลกับ เกรมิโอ

อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ : แบ็คซ้ายชาวฮอลแลนด์ ย้ายมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2012 และต้องตกเป็นตัวสำรองตลอด บุตต์เนอร์ ใช้เวลาเพียง 2 ปี กับ แมน ฯยูไนเต็ด ก่อนถูกขายให้กับ ดินาโม มอสโกว์ ในในเดือนกรกฎาคมปี 2014 จากนั้น เขาก็ตะเวนไปค้าแข้งกับ อันเดอร์เลชท์, วิเทสส์ อาร์เน่ม, นิว อิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น, อาร์เคซี วาลไวก์ และในวัย 35 ปี ยังเล่นกับ เดอ กราฟแช็พ ในลีก 2 ของบ้านเกิด

ปาทริช เอฟรา : หนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคพรีเมียร์ลีก เอฟรา ประสบความสำเร็จมากมายกับ “ปีศาจแดง” ก่อนะย้ายไปยัง ยูเวนตุส ในปี 2014 และกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในเดือนมกราคมปี 2017 จากนั้น แบ็คเฟรนช์แมน มาเล่นกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาสั้นเมื่อปี 2018 และแขวนสตั๊ดในปี 2019

ริโอ เฟอร์ดินานด์ : เฟอร์ดินานด์ ถูกคว้าตัวมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 2002 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ และเป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังพาทีมคว้าแชมป์รายการตลอดระยะเวลา 13 ปีที่สโมสรก่อนย้ายไปเล่นกับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แบบไร้ค่าตัวในปี 2014 และแขวนสตั๊ดในปีต่อมา ซึ่งปัจจุบันเขารับงานเป็นนักวิเคราะห์บอลให้กับสื่อหลายแห่ง

เนมันยา วิดิช :  วิดิช ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก โดยย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโกว์ มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคมปี 2006 ด้วยราคา 9.5 ล้านปอนด์ พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย และลีก คัพ 3 ก่อนจะย้ายไป อินเตอร์ แบบไร้ค่าตัวเมื่อปี 2014 จากนั้น ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2016

Rio Ferdinand, Nemanja Vidic
Manchester United v Crystal Palace - Premier League / Michael Regan/GettyImages

กองกลาง

มารูยาน เฟลไลนี่ : กองกลางชาวเบลเยียม เป็นนักเตะใหม่รายแรกในยุค มอยส์ หลังถูกซื้อมาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 27.5 ล้านปอนด์ เฟลไลนี่ ลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 177 เกม ตลอด 6 ปี ก่อนจะย้ายไปยัง ซานตง ลู่เนิ่ง ในลีกจีนเมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ในราคา 6.5 ล้านปอนด์

ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ : เคลฟเวอร์ลีย์ ลงเล่นไปมากถึง 30 เกม ภายใต้การคุมทีมของ มอยส์ จากนั้น เขาถูกปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวไปใช้งานในซัมเมอร์ต่อมา และย้ายไปยัง เอฟเวอร์ตัน แบบไร้ค่าตัวในเดือนกรกฎาคม ปี 2015 จากนั้น อีก 2 ปีต่อมา ก็ถูกขายให้กับ วัตฟอร์ด ด้วยราคา 8.3 ล้านปอนด์ และตอนนี้ทำหน้าที่กุนซือขัดตาทัพของพลพรรค “แตนอาละวาด”

แอนเดอร์สัน : ห้องเครื่องเลือดแซมบา ลงเล่นไปเพียง 8 เกมเท่านั้นภายใต้การคุมทีมของ มอยส์ และถูกปล่อยให้กับ ฟิออเรนติน่า ยืมตัวในปี 2014 และย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ อินเตอร์นาซิอองนาล และ คอร์ริติบา จากนั้น ย้ายข้ามฟากมาเล่นกับ อดานา เดเมียร์สปอร์ และแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2019

นิค พาวเวลล์ : พาวเวลล์ ย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 แต่มีโอกาสลงสนามไปเพียง 3 เกม ก่อนจะตระเวนไปค้าแข้งในลีกรองกับหลายทีมอย่าง วีแกน แอธเลติก, เลสเตอร์ ซิตี้, ฮัลล์ ซิตี้, สโต๊ค ซิตี้ และปัจจุบันกับ สตอคพอร์ต เคานตี้

ไมเคิล คาร์ริค : คาร์ริค อำลวงการฟุตบอลในเดือนพฤษภาคม 2018 โดยปิดฉากอาชีพด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และยูโรป้า ลีก 1 สมัย ก่อนจะกลายหนึ่งในทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ แมนฯ ยูไนเต็ด และไปรับงานผูจัดการทีมกับ มิดเดิลส์โบร์ห เมื่อปี 2022 จนถึงตอนนี้

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ : อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสก็อตแลนด์ อำลา แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเล่นกับ เวสต์บรอมวิช เมื่อปี 2015 หลังรับใช้สโมสรมานานถึง 12 ปี โดย เฟล็ทเชอร์ ใช้เวลา 2 ปี กับ “เดอะ แบ็กกี้ส์” ก่อนย้ายไปยัง สโต๊ค และแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2019 โดยเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค “ปีศาจแดง” เมื่อปี 2021  

FBL-EUR-C1-MAN UTD-BAYERN MUNICH
FBL-EUR-C1-MAN UTD-BAYERN MUNICH / ANDREW YATES/GettyImages

ตัวรุก

เจสซี ลินการ์ด : ลินการ์ด ใช้เวลาในฤดูกาล 2013-2014 ในการยืมตัวที่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ ไบรท์ตัน ก่อนจะหวนกลับมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่สามารถยืนระยะได้ และต้องย้ายไปเล่นกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รวมถึง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ โดยปีนี้เจ้าตัวโยกไปเล่นกับ เอฟซี โซล ในเกาหลีใต้

ฆวน มาต้า :  ปีกชาวสเปน ถูก มอยส์ คว้าตัวมาจาก เชลซี ในราคา 37.1 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม 2014 และกลายเป็นคีย์แมนของทีมมาตลอด ก่อนจะย้ายไปยัง กาลาตาซาราย ในปี 2022 และโยกไปเล่นในญี่ปุ่นกับ วิสเซล โกเบ เมื่อปีที่แล้ว

อั๊ดนาน ยานาไซ : อดีตวันเดอร์คิดชาวเบลเยียม ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุค มอยส์ ก่อนถูกปล่อยให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยืมตัวไปใช้งานในปี 2015 ต่อด้วย ซันเดอร์แลนด์ ในปีถัดมา จากนั้น ก็ย้ายไปยัง เรอัล โซเซียดัด ในเดือนกรกฎาคมปี 2017 ต่อด้วย เซบีย่า และซีซันนี้ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์

นานี่ : นานี่ มีช่วงเวลา 7 ปีที่ยอดเยี่ยมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในปี 2007 ก่อนจะย้ายไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 5.4 ล้านปอนด์ และตระเวนไปค้าแข้งกับ บาเลนเซีย, ลิซาโอ, โอแลนโด้ ซิตี้, เวเนเซีย, เมลเบิร์น วิคตอรี และปีนี้ในวัย 37 ปี ยังเล่นกับ อดานา เดมิสปอร์

เบเบ้ : หนึ่งในการทำธุรกิจที่ผิดพลาดมากที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยปีกฝอยทอง ย้ายมาจาก วิตอเรีย กิมาไรส์ ในราคา 7 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2010 เขาลงเล่นให้กับ “ปีศาจแดง” ไปเพียง 2 เกมเท่านั้น ก่อนถูกขายให้กับ เบนฟิก้า ในปี 2014 และย้ายไปเล่นกับ ราโย บาเยกาโน่ และปีนี้เล่นกับ เรอัล ซาราโกซา ด้วยสัญญายืมตัว

วิลเฟร็ด ซาฮา : ซาฮา เจอสถานการณ์ที่ยากลำบากในยุค มอยส์ เขาลงเล่นไปไปเพียง 4 เกมเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวไปยัง คาร์ดิฟฟ์ และถูกขายให้กับ คริสตัล พาเลซ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 ด้วยราคา 3.4 ล้านปอนด์ และพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกำลังสำคัญของ พาเลซ ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ กาลาตาซาราย เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแบบไม่มีค่าตัว

ไรอัน กิ๊กซ์ : ตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ผู้ลงเล่นไปมากถึง 963 เกม อดีตดาวเตะชาวเวลส์ ต้องรับงานคุมทีมแทน มอยส์ ในช่วง 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2013-2014 และในปีต่อมาเขาก็รับตำแหน่งผู้ช่วยของ หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชชาวดัตช์ ก่อนจะขยับไปเป็นผู้จัดการทีม “มังกรแดง” และอำลาตำแหน่งเมื่อปี 2022

Wilfried Zaha, Jesse Lingard
Yokohama F.Marinos v Manchester United / Atsushi Tomura/GettyImages

กองหน้า

เวย์น รูนีย์ : รูนีย์ คว้าแชมป์ทุกรายการร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว และทำสถิติเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของสโมสรด้วยผลงาน 253 ประตู จาก 559 จากนั้น ก็กลับไปเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน แบบไร้ค่าตัวในปี 2017 ก่อนย้ายไปยัง ดีซี ยูไนเต็ด ในปีต่อมา และในปี 2020 เขาเซ็นสัญญากับ ดาร์บี้ ในฐานะผู้เล่นควบตำแหน่งกุน
ซือ และปัจจุบันกำลังรับงานคุมทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี

ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ : อดีตดาวยิงทีมชาติเม็กซิโก ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวม่าวทีม ในปี 2010 และทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 59 ประตู จากการลงเล่น 157 นัด ก่อนถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เรอัล มาดริด ในปี 2014 และถูกขายให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในราคา 10.8 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 จากนั้น เขาย้ายไปเล่นกับ เวสต์แฮม, เซบีย่า, แอลเอ แกแล็คซี่ และซีซันนี้ ในวัย 35 ปี หวนกลับไปยังสโมสรที่ปลุกปั้นมาอย่าง ชีวาส กัวดาลาจาร่า

แองเจโล่ เอ็นริเกซ : เอ็นริเกซ ย้ายมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2012 ในฐานะดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของวงการฟุตบอลชิลี แต่เขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดย ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง วีแกน, เรอัล ซาราโกซา และย้ายไปยัง ดินาโม ซาเกร็บ ในปี 2015 ก่อนจะกลับไปเล่นกับทีมเก่าอย่าง ยูนิเวอร์ซิดัด เดอ ชิลี ต่อด้วย ฟอร์ตาเลซา, มีดซ์ เลกนิก้า และปัจจุบันเล่นในรัสเซียกับ เอฟซี บัลติกา

เฟเดริโก มาเคด้า : ในฤดูกาล 2013-2014 มาเคด้า ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง ดอนคาสเตอร์ จากนั้น เขากลายเป็นนักเตะพเนจรด้วยการย้ายไปเล่นกับ สตุ๊ตการ์ท, เบอร์มิงแฮม, คาร์ดิฟฟ์, นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์, โนวาร่า, พานาธิไนกอส, อันคารากูคู และฤดูก่าลนี้กับ อาโปเอล ทาวีฟ

แดนนี่ เวลเบ็ค : ภายใต้การคุมทีมของ มอยส์ เวลเบ็ค ได้ลงเล่นในลีกไปถึง 25 เกม แต่เขาถูกขายให้กับ อาร์เซนอล ในเดือนกันยายนปี 2014 ด้วยราคา 16 ล้านปอนด์ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวประสบปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังก่อนจะย้ายไปยัง วัตฟอร์ด แบบไร้ค่าตัวในเดือนสิงหาคมปี 2019 และเซ็นสัญญากับ ไบรท์ตัน แบบไม่มีค่าตัว ก่อนจะกลายเป็นคีย์แมนของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

เจมส์ วิลสัน : วิลสัน เปิดตัวในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2013-2014 ที่ชนะ ฮัลล์ 3-1 พร้อมกับยิงไป 2 ประตู แต่หลังจากนั้น ก็กลายเป็นนักเตะจอมพเนจรย้ายไปเล่นกับ ไบรท์ตัน, ดาร์บี้, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, อเบอร์ดีน,  ซัลฟอร์ด ซิตี้ และปัจจุบันในวัย 28 ปี ค้าแข้งกับ พอร์ตเวล

โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ : อดีตหัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ ซัดไป 18 ประตู จาก 28 เกมรวมทุกรายการในซีซั่น 2013-2014 ก่อนจะย้ายไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2015 จากนั้น เขาย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ เฟเยนูร์ด และแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2019

Robin Van Persie, Wayne Rooney
Manchester United Training Session and Press Conference / Chris Brunskill/GettyImages