เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จบซีซั่น : ได้แล้ว 4 ทีมเพลย์ออฟ ลุ้นขึ้นชั้น พรีเมียร์ลีก - FEATURE
แอบรูดม่านปิดฤดูกาลลงอย่างเงียบๆ ด้วยการเป็นเกมมันเดย์ไนท์ จันทร์ที่ผ่านมา สำหรับ อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ 2022/23 อันทำให้เกิดบทสรุปครบถ้วนทั้งหัวและท้ายตาราง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 ทีมที่ยังได้สู้ต่อเพื่อขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก
นี่คือฉากจบของหัวแถว ชปช. ซีซั่นนี้
อันดับ | แต้ม |
---|---|
1. เบิร์นลี่ย์ | 101 |
2. เชฟฯ ยูฯ | 91 |
3. ลูตัน | 80 |
4. มิดเดิ้ลสโบรช์ | 75 |
5. โคเวนทรี | 70 |
6. ซันเดอร์แลนด์ | 69 |
โอกาสนี้ ไปทำความรู้จักกับ 4 เดนตายผู้พาตัวเองไปลุยต่อในรอบเพลย์ออฟ กันสักหน่อย
เมื่อหนึ่งใน 4 ทีมนี้แหละ จะเป็นสมาชิกใหม่อีกรายของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้า!
3. ม้ามืด ลูตัน ทาวน์ พุ่งพรวดก้าวกระโดด
เป็นหนึ่งในความเซอร์ไพรส์สุดของ ชปช. หรือกระทั่งฟุตบอลลีกอังกฤษภาพรวม เมื่ออันที่จริง ลูตัน ทาวน์ ยังเจอตัวเองอยู่ในระดับ "นอกลีก" อยู่เลยเมื่อไม่ถึง 10 ปีที่แล้ว แต่นาทีนี้ พวกเขาคือทีมอันดับ 3 ชปช. มีผลงานดีสุดในบรรดากลุ่มเพลย์ออฟ
นี่คือ ลูตัน ทาวน์ ในหลายซีซั่นหลัง
- 2008/09 บ๊วย ลีก ทู (ตกชั้น)
2009/10 - 2012/13 ติดกลุ่มหัวแถว นอกลีก (Conference Premier)
2013/14 แชมป์ นอกลีก (เลื่อนชั้น)
2014/15 - 2016/17 กลางตาราง ลีก ทู
2017/18 อันดับ 2 ลีก ทู (เลื่อนชั้น)
2018/19 แชมป์ ลีก วัน (เลื่อนชั้น)
2019/20 อันดับ 19 ชปช.
2020/21 อันดับ 12 ชปช.
2021/22 อันดับ 6 ชปช. (เพลย์ออฟ)
2022/23 อันดับ 3 ชปช. (เพลย์ออฟ)
ถ้าการก้าวกระโดดแบบพุ่งพรวด ล่างสุดมา (จนเกือบจะ) บนสุด ยังไม่มากพอ ก็ต้องชี้ข้อเท็จจริงเพิ่มด้วยว่า ลูตัน เสียกุนซือใหญ่อย่าง เนธาน โจนส์ โยกไปคุม เซาแธมป์ตัน กลางทางของซีซั่นนี้ (และโดนนักบุญปลดทิ้งใน 3 เดือน) โดยต้องเปลี่ยนมาเป็น ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ กุนซือมือใหม่วัย 40 ที่เคยผ่านงานมาแค่ไม่กี่จ๊อบ เช่น วัตฟอร์ด, ฟอเรสต์ กรีน หรือเยาวชนทีมชาติอังกฤษ ยู-16
กลางเดือน ม.ค. ทีมสีส้มทีมนี้ยังอยู่แถวๆ อันดับ 9-10 ของตาราง แต่หลังจากนั้นก็มีแต่ก้าวไกลไปข้างหน้า หลุดแพ้แค่ "นัดเดียว" ให้กับแชมป์อย่าง เบิร์นลี่ย์ ในระยะยาวถึง 20 เกมสุดท้าย หรือก็คือไม่แพ้ใครเลยตลอด 3 เดือนกว่าๆ ท้ายซีซั่น
ลูตัน ทาวน์ คว้าอันดับ 3 มาครองได้ด้วยการโกย 80 แต้ม และแพ้เพียง 8 นัด (น้อยกว่าอันดับ 2 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสียอีก) เท่านั้น
สำหรับคิวตัดเชือกเพลย์ออฟที่รออยู่ ลูตัน จะออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในเกมแรก เสาร์นี้ 13 พ.ค. ก่อนกลับมาเปิดบ้านเตะตัดสิน อังคารหน้า 16 พ.ค.
4. มิดเดิ้ลสโบรช์ มาตามนัด
ทีมที่มีแฟนบอลบ้านเราจำนวนไม่น้อย แอบเอาใจช่วยอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยผลพวงจากยุคสุดคลาสสิกที่เคยมี ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่, จูนินโญ่, มิคเคล เบ็ค, เอเมอร์สัน, บรังโก้ เป็นดาราประจำทีม
หรือถ้าเป็นแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงแอบส่งใจเชียร์ เดอะ โบโร่ อยู่เหมือนกัน โทษฐานที่มี ไมเคิ่ล คาร์ริค คุมเต็มตัวอยู่เป็นจ๊อบแรก (ถัดจากรักษาการคุมผี 3 นัดก่อน ราล์ฟ รังนิค)
สำหรับซีซั่นนี้ ก่อนจะมาเข้าป้ายในฐานะทีมอันดับ 4 ห่างจาก ลูตัน ทาวน์ 5 แต้ม ก็ควรถือเป็นเรื่อง "น่าเสียดาย" อยู่เล็กๆ เมื่อมองถึงว่าทีมสิงห์แดงมีโอกาสจบ 1 ใน 2 อันดับแรก ตีตั๋วขึ้น พรีเมียร์ลีก แบบอัตโนมัติได้เลย ในช่วงสักประมาณ ก.พ. ที่ผ่านมา
เพราะเวลานั้น หลังจากติดเครื่องชนะเกมลีก 12 จาก 14 เกม (พ.ย. - ก.พ.) แล้ว พวกเขาไล่หลังทั้งจ่าฝูง เบิร์นลี่ย์ และอันดับ 2 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาแบบเอื้อมถึงสบายๆ แค่สี่ซ้าห้าแต้มเท่านั้น
แต่ก็กลายเป็นว่า มิดเดิ้ลสโบรช์ จำต้องยอมรับฉากจบที่กลุ่มเพลย์ออฟ หลังจากฟอร์มออกแกว่งจัดๆ ในช่วงท้าย 8 นัดสุดท้ายชนะได้แค่ 2 เสมอ 2 และแพ้ถึง 4 เกม
สำหรับเกมเพลย์ออฟรอบตัดเชือก โบโร่ จะออกไปเยือน โคเวนทรี ซิตี้ เป็นเกมแรก วันอาทิตย์ 14 พ.ค. ก่อนกลับมาเปิด ริเวอร์ไซด์ เตะตัดสิน พุธหน้า 17 พ.ค.
5. โคเวนทรี เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์
มีก้าวเดินคล้ายๆ กับ ลูตัน ทาวน์ เมื่อทีมเจ้าของสมญาสุดคลาสสิก "ช้างกระทืบโรง" (โรงไหน? กระทืบทำไม?) ที่คอบอลยุคเก่าคุ้นเคย ตกต่ำถึงชั้นหลุดไปอยู่ ลีก ทู เมื่อแค่สี่ซ้าห้าปีก่อนนี่เอง
- 2016/17 อันดับ 23 ลีก วัน (ตกชั้น)
2017/18 อันดับ 6 ลีก ทู (ชนะเพลย์ออฟ)
2018/19 อันดับ 8 ลีก วัน
2019/20 แชมป์ ลีก วัน (เลื่อนชั้น)
2020/21 อันดับ 16 ชปช.
2021/22 อันดับ 12 ชปช.
2022/23 อันดับ 5 ชปช. (เพลย์ออฟ)
ในซีซั่นนี้ ที่จริง โคเวนทรี หนักไปทางเสมอ โดยได้ผลเจ๊ามากถึง 16 นัด และโดยเฉพาะในช่วงท้ายซีซั่นที่ออกเสมอถึง 7 จาก 13 เกมท้าย แต่นัยหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงการ "แพ้ยาก" และการเก็บไปทีละ 1 แต้มบ้าง 3 แต้มบ้าง ก็มากพอให้พวกเขาจบอันดับ 5 ได้ไปต่อรอบเพลย์ออฟ ลุ้นกลับขึ้น พรีเมียร์ลีก เป็นหนแรกในรอบกว่ายี่สิบปี (ถัดจาก 2000/01) ทีเดียว
เรื่องน่าสนใจอีกอย่างของ โคเวนทรี ก็คือการที่พวกเขามี มาร์ค โรบิ้นส์ อดีตหัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด ยุค 90 นั่งเก้าอี้กุนซืออยู่ และคุมมานานตั้งแต่ 2017 หรือตอนที่ทีมยังคลุกฝุ่นใน ลีก ทู อยู่เลยด้วย
6. แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ แซงทางโค้ง
เพราะนอกจากมี "ม้านอกสายตา" แล้ว ชปช. ปีนี้ก็ยังมี "แมวนอกสายตา" ด้วยเหมือนกัน กับราย ซันเดอร์แลนด์ ที่จับพลัดจับผลูมาจบอันดับ 6 ได้ไปต่อเพลย์ออฟเฉยเลย
...ทั้งที่นี่เพิ่งจะเป็นปีแรกของการเล่น ชปช. ให้หลังจากที่กดลิฟท์ลงไปขลุกอยู่ใน ลีก วัน นานถึง 4 ปีด้วยกัน
ปีที่แล้ว 2021/22 ซันเดอร์แลนด์ จบอันดับ 5 ลีก วัน แล้วลุยไปคว้าแชมป์เพลย์ออฟ ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ กับ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส จนได้เลื่อนชั้น
มาปีนี้ แมวดำของ โทนี่ โมวเบรย์ ก็กล้าๆ จบสูงถึงอันดับ 6 ชปช. ซึ่งเป็นผลมาจากการติดเครื่องโกยแต้มเอาในโค้งสุดท้าย ชนะ 4 เสมอ 5 ใน 9 เกมท้ายสุด ไม่หลุดแพ้ใคร
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมปิดซีซั่นปกติเมื่อวันจันทร์ ที่ ซันเดอร์แลนด์ บุกสยบ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 3-0 พร้อมๆ กับที่ มิลล์วอลล์ พ่าย แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-4 จนทำให้อันดับ 6 ตกเป็นของ ซันเดอร์แลนด์ แบบที่สาวกแมวดำเองก็ไม่ได้คาดคิดกันมาก่อน
7. กุหลาบไฟ...อกหักเพียงผลต่างประตู
ย้ำอีกทีว่า เพลย์ออฟ ชปช. รอบตัดเชือก จะเริ่มต้นเสาร์-อาทิตย์นี้
- เสาร์ : ซันเดอร์แลนด์ v ลูตัน ทาวน์
อาทิตย์ : โคเวนทรี ซิตี้ v มิดเดิ้ลสโบรช์
จากนั้นจะสลับเหย้าเยือน เพื่อลงเตะตัดสินกัน อังคาร-พุธหน้า
- อังคาร : ลูตัน ทาวน์ v ซันเดอร์แลนด์
พุธ : มิดเดิ้ลสโบรช์ v โคเวนทรี ซิตี้
ขณะที่นัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ ซึ่งมีเดิมพันเป็นรางวัลกว่า 100 ล้านปอนด์รออยู่นั้น จะซัดกันในช่วงปลายเดือน เสาร์ 27 พ.ค.
เมื่อมีผู้ได้ไปต่อ 4 ทีม ก็ย่อมต้องมีผู้ไม่ได้ไปต่อ--แบบสุดจะฉิวเฉียด ประมาณ 3-4 รายเช่นกัน ซึ่งคือพวก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, มิลล์วอลล์, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ สวอนซี ซิตี้
โดยเฉพาะทัพกุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ที่พลาดตั๋วเพลย์ออฟเพียงเพราะ "ผลต่างประตูได้เสีย" เป็นรองทาง ซันเดอร์แลนด์ เท่านั้น
ถือว่าปีนี้ แบล็คเบิร์น ภายใต้การทำทีมของอดีตดาวยิงเดนมาร์ก ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ทำได้ดีที่สุดในรอบหลายปีหลังแล้ว แบบที่ช่วงหนึ่ง ประมาณเกมที่ 19-20 พวกเขารั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงมาแบบหล่อๆ
ทว่าเล่นไปเล่นมา แบล็คเบิร์น ก็ค่อยๆ ถอยตัวออกห่างจากหัวแถวมากขึ้นทีละก้าว
ผลสรุปสุดท้ายอาจแพ้แค่เพราะผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ซันเดอร์แลนด์ (-2 กับ +13) หลังจากแต้มเท่า (69) แต่ข้อเท็จจริงที่อาจไม่ทำให้ต้องรู้สึกเสียดายอะไรมาก ก็คือ แบล็คเบิร์น เตะหลุดชนิดเอาชนะใครไม่เป็นยาวๆ ถึง 8 นัดในช่วงโค้งท้าย ก่อนจะมาชนะ มิลล์วอลล์ เกม 46 นี่เอง
ก็ถ้าเปลี่ยนผลเสมอเป็นชนะ เปลี่ยนผลแพ้เป็นเสมอ เพิ่มได้แค่สักนัดเดียว แบล็คเบิร์น ได้ไปต่อเพลย์ออฟกับชาวบ้านเขาแล้ว
และบ๊ายบาย อดีต 3 ทีมพรีเมียร์ ร่วงลงสู่ ลีก วัน
สำหรับบทสรุปในโซนตกชั้น ชปช. ภายหลังเตะครบถ้วน 46 นัด ก็คลี่คลายออกมาเป็นภาพนี้
อันดับ | แต้ม |
---|---|
22. เร้ดดิ้ง | 44 |
23. แบล็คพูล | 44 |
24. วีแกน | 42 |
ขณะที่พวกรอดตาย (แบบทิ้งแต้มห่างโซนแดงพอสมควร) มีอาทิ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์, ร็อตเตอร์แฮม ยูไนเต็ด, ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
สำหรับทั้งสามที่ตกชั้นลงไป ก็ล้วนแต่เคยเป็นทีมระดับ พรีเมียร์ลีก ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีมาก่อน โดยเฉพาะแชมป์เอฟเอ คัพ 2013 อย่าง วีแกน แอธเลติก
แต่ตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้นไป ทั้งหมดจะเริ่มต้นก้าวเดินใหม่ของตัวเองในเวทีลำดับที่ 3 หรือ ลีก วัน เท่ากับอีกนานเลยที่เราจะได้เห็นทั้งสาม ฟื้นคืนสู่ พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง