ที่นี่เอติฮัด : หนสุดท้าย อาร์เซน่อล บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ ต้องย้อนไปไกลถึง...แปดปีที่แล้ว! - FEATURE

FBL-ENG-FA CUP-MAN CITY-ARSENAL
FBL-ENG-FA CUP-MAN CITY-ARSENAL / OLI SCARFF/GettyImages
facebooktwitterreddit

เพราะแม้การชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก จะไม่ได้ตัดสินกันใน 90 นาที แต่แน่นอนว่า 90 นาทีที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs อาร์เซน่อล กลางดึกพุธนี้ คงเป็นเสมือน "นัดชิงชนะเลิศ" พรีเมียร์ลีก 2022/23

ใช่อยู่ว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ และไม่ว่าผลจะออกหน้าไหน บทสรุปของทีมแชมป์ก็จะยังไม่ปรากฏจนกว่าที่ตัวเลขทางทฤษฎีจะขาดลอย -- บางที ก็อาจไม่ปรากฏจนกว่าจะถึงนกหวีดสุดท้ายของซีซั่น

แต่ก็ชัดเจนอีกเหมือนกันว่า อาร์เซน่อล คงต้องไปเยือนแบบ "ขาสั่น" มิใช่เบา เมื่อแรงกดดันกำลังอยู่ที่พวกเขาแบบเต็มเหนี่ยว ด้วยหลายๆ ปัจจัยที่โถมทับ

สำคัญมากหนึ่งในนั้น คือการต้องออกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม สนามที่ปืนหวาดหวั่น... หนสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล บุกชนะได้ ต้องย้อนไกลถึง 8 ปีที่แล้ว!

เรือกับปืน คู่นี้ ผูกพันกันหลายด้าน

ในภาพจำของเราท่าน วาบแรกที่เด้งขึ้นมาเมื่อเอ่ยถึง แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล อาจเป็นจังหวะดีใจออกหน้าออกตาของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกโตโกที่เคยสร้างชื่อกับ อาร์เซน่อล (2006–2009 แล้วโดนตกไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วยสนนราคา 25 ล้านปอนด์ ตอนซัมเมอร์ 2009

ในเพียงการพบกันครั้งแรก ต้นซีซั่น 2009/10 หลังจาก อเดบายอร์ ขึ้นโขกประตู 3-1 ได้แล้ว (ลูกที่ 4 จาก 5 เกมแรกที่เล่นให้ทัพเรือ) เขาก็วิ่งหน้าตั้งจากฟากหนึ่งของสนามมาสู่อีกฟากฝั่งของสนาม พร้อมกับสไลด์เข่าต่อหน้าอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์ อาร์เซน่อล ที่หลังประตู

นอกจากเสียงโห่ระงมแล้ว จะเอาอะไรบ้างล่ะที่ถูกขว้างลงไป ไฟแช็ค? ขวด? แก้ว? ปากกา? ดินสอ? มีหมด แม้กระทั่งเก้าอี้ก็ยังมี!

สายสัมพันธ์การทำธุรกิจระหว่างสองสโมสรนี้ ยังมีอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะ "ปลาใหญ่กว่า" อย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ไล่ฮุบของดีจาก "ปลาใหญ่" อาร์เซน่อล เป็นระยะ ไม่ว่าจะ อเดบายอร์, โคโล่ ตูเร่, กาแอล กลิชี่, บาการี่ ซานย่า หรือ ซามีร์ นาสรี่ ที่ทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ ซิตี้ ยุคลืมตาอ้าปากจากกลุ่มทุนตะวันออกกลาง

หรือกลับด้านกันสำหรับซีซั่นล่าสุดนี้ ที่ กาเบรียล เชซุส ควงคู่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ข้ามห้วยจากแมนเชสเตอร์ลงมายังกรุงลอนดอน -- และเป็นกำลังหลักของการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกสำหรับปืนใหญ่ด้วย

นอกจาก เชซุส & ซินเชนโก้ จะเข้ามายกระดับให้กับ อาร์เซน่อล ขึ้นโดยตรงแล้ว ก็แน่นอนที่สุดว่าเครดิตต้องเป็นของเจ้านายอย่าง มิเกล อาร์เตต้า

ภายหลังย้ายมาสร้างชื่อในอังกฤษกับ เอฟเวอร์ตัน (2005-2011) แล้วนั้น อาร์เตต้า ก็ได้มาเป็นลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสังกัดสุดท้ายของเขาก่อนแขวนสตั๊ดไปในปี 2016

ว่ากันว่าเมื่อเลิกเล่นแล้วนั้น อาร์เตต้า ได้รับข้อเสนอเป็นทางเลือกดีๆ ถึง 3 ทางด้วยกัน คือ

1) อยู่เป็นโค้ชอะคาเดมี่ให้กับ อาร์เซน่อล
2) ไปร่วมงานกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (อดีตเพื่อนร่วมทีมเปแอสเช) ที่ สเปอร์ส
และ 3) ไปรับตำแหน่งมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (อดีตรุ่นพี่บาร์ซ่า) ที่ แมนฯ ซิตี้

ก็คงเพราะการเลือกชอยส์ที่ 3 นั่นเองที่นำพา อาร์เตต้า มาถึงจุดนี้

เพราะภายหลังเรียนงานและทำงานร่วมกับปรมาจารย์อย่าง กวาร์ดิโอล่า อย่างใกล้ชิดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม & เอติฮัด แคมปัส แค่พอท้วมๆ 3 ปีเศษ อาร์เตต้า ก็คว้าโอกาสกระโดดมาจับงานใหญ่ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทันที ช่วงสิ้นปี 2019 -- เป็นงานกุนซือจ๊อบแรกสุดของเขา กับทีมหัวแถวอย่าง อาร์เซน่อล

ซึ่งก็อย่างที่เราเห็นกันมาตลอด 3-4 ปีมานี้ ว่าพัฒนาการของ อาร์เตต้า และ อาร์เซน่อล เป็นไปอย่างน่าตกตะลึงไม่น้อย จากอันดับ 8 ของซีซั่น 2020/21 และอันดับ 5 ของซีซั่น 2021/22 (พร้อมความง่อนแง่น หวิดจะโดนเด้งรอมร่อ) สู่หัวแถวแบบที่ อาร์เซน่อล ได้ลุ้นแชมป์เต็มตัวในซีซั่นนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีหนามที่ตามทิ่มแทงใจ อาร์เตต้า อยู่แบบไม่หาย

ก็คือการที่ศิษย์เอกอย่างเขาแทบไม่อาจเอาชนะ "อาจารย์" อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้เลยในการประมือกันโดยตรง ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อใด...

Mikel Arteta, Pep Guardiola
Manchester City v Arsenal: Emirates FA Cup Fourth Round / Michael Regan/GettyImages

ซิตี้ ผูกปีเฮ...7 เกมซ้อน

ก่อนจะว่ากันถึงสถิตินัดเยือนลำเรือที่แมนเชสเตอร์ คงต้องไปดูกันหน่อยว่า ผลการพบกันช่วงหลังของ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล เป็นมาอย่างไร

น่าปาดเหงื่อแทนปืนโต...เมื่อพบว่า แมนฯ ซิตี้ ผูกปีเอาชนะพวกเขามาตลอด 3-4 ปีหลัง นับรวมซีซั่นนี้ หรือก็คือยุค มิเกล อาร์เตต้า ปะทะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั่นเอง

ซีซั่นนี้ คู่นี้เจอกันไปแล้ว 2 นัด เริ่มจาก รอบ 4 เอฟเอ คัพ ตอนสิ้นเดือน ม.ค. 2023 แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเชือด 1-0 จากการดันขึ้นสังหารของ นาธาน อาเก้ ก่อนที่ในเกมลีก หลังวันแห่งฟามฮัก 15 ก.พ. อาร์เซน่อล จะโดนย้ำแผลด้วยการพังคารัง แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 เควิน เดอ บรอยน์, แจ๊ค กรีลิช, เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ จัดคนละเม็ด ส่วนปืนใหญ่ได้จากจุดโทษของ บูกาโย่ ซาก้า

ภาพรวมชัดๆ ลงไปอีกยังมีว่า ไม่ว่าจะเจอกันที่ลอนดอนหรือแมนเชสเตอร์ ผู้ได้รับการชูมือก็มักเป็น "มุมฟ้า" แทบทุกทีไป

- พบกัน 10 เกมหลัง อาร์เซน่อล ชนะ 1
- จาก 10 เกมหลังนี้ ไม่มีลงเอยเสมอกันเลย และ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 9
- หนเดียวที่ อาร์เซน่อล ชนะได้ คือที่คว่ำเรือ 2-0 (โอบาเมย็องเหมาสอง) รอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ ที่เวมบลีย์
- ยังเท่ากับว่า แมนฯ ซิตี้ ผูกปีชนะ อาร์เซน่อล มาต่อเนื่อง 7 เกมติดต่อกันแล้ว

  • ผลการพบกันของ แมนฯ ซิตี้ v อาร์เซน่อล 4 ฤดูกาลหลัง
    2019/20 พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 0-3 แมนฯ ซิตี้
    2019/20 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3-0 อาร์เซน่อล
    2019/20 เอฟเอ คัพ อาร์เซน่อล 2-0 แมนฯ ซิตี้
    2020/21 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 1-0 อาร์เซน่อล
    2020/21 คาราบาว คัพ อาร์เซน่อล 1-4 แมนฯ ซิตี้
    2020/21 พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 0-1 แมนฯ ซิตี้
    2021/22 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 5-0 อาร์เซน่อล
    2021/22 พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 1-2 แมนฯ ซิตี้
    2022/23 เอฟเอ คัพ แมนฯ ซิตี้ 1-0 อาร์เซน่อล
    2022/23 พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 1-3 แมนฯ ซิตี้
Ilkay Gundogan, Oleksandr Zinchenko, Kyle Walker
Manchester City v Arsenal: Emirates FA Cup Fourth Round / Alex Livesey - Danehouse/GettyImages

ที่นี่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

ถ้าการเจอกันเหย้าเยือน ยังไม่ร้ายสำหรับ อาร์เซน่อล มากพอ ก็ขอให้ดูผลการบุกเตะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าความจุครึ่งแสนคนของทัพเรือ

ว่าตลอด 12 ครั้งหลังสุด อาร์เซน่อล ได้เฮสุดเสียงแค่...หนเดียวถ้วน!

ชัยชนะเดียวในการไปเยือน แมนฯ ซิตี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ 2014/15 มาแล้ว หรือก็คือ 8 ปีที่แล้วโน่น

เวลานั้น อาร์เซน่อล ยังอยู่ในการดูแลของ อาร์แซน เวนเกอร์ พร้อมขุนพลอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อเล็กซิส ซานเชซ, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, ซานติ กาซอร์ล่า, อารอน แรมซี่ย์ หรือ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เช่นเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ยังคงไม่มาถึงช่วงเวลาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่ทำทีมโดย มานูเอล เปเยกรินี่ พร้อมนักเตะอย่าง โจ ฮาร์ท, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อเกวโร่

วันนั้น อาร์เซน่อล บุกจมเรือ 2-0 ด้วยประตูของ กาซอร์ล่า (จุดโทษ) น.24 และ ชิรูด์ น.67

ไม่มีทางที่ใครจะคาดคิดไว้หรอกว่า ตลอด 8 ปีให้หลัง อาร์เซน่อล จะไม่อาจมากำชัยที่นี่ได้ อีกเลย

โดยเฉพาะ 2016/17 เป็นต้นมา ที่เริ่มต้นปรากฏการณ์ "กินเรียบ" สำหรับทาง แมนฯ ซิตี้ ซึ่งต้องขอบคุณ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่สังหารนำชัยท้ายเกมให้กับ เรือใบสีฟ้า

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ อาร์เซน่อล มาเตะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ทีไร ก็กลับออกไปพร้อมความพ่ายแพ้ ทุกครั้งไป (เช่นกัน ซีซั่นนี้ก็เจอกันไปแล้ว 1 หนใน เอฟเอ คัพ อย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้ว)

มันจึงเป็นความน่ากังวลมากว่า คืนพุธนี้ อาร์เซน่อล จะออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปด้วยสภาพรุ่งริ่งเพียงใด

  • ผลการพบกันของ แมนฯ ซิตี้ v อาร์เซน่อล ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ช่วงหลัง
    2011/12 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1-0
    2012/13 เสมอกัน 1-1
    2013/14 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 6-3
    2014/15 อาร์เซน่อล ชนะ 2-0
    2015/16 เสมอกัน 2-2
    2016/17 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-1
    2017/18 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-1
    2018/19 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-1
    2019/20 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-0
    2020/21 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1-0
    2021/22 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 5-0
    2022/23 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1-0 (เอฟเอ คัพ)
Olivier Giroud, Joe Hart
Manchester City v Arsenal - Premier League / Michael Steele/GettyImages

นัดชิงชนะเลิศ พรีเมียร์ลีก 2022/23

แต่เอาล่ะ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า อาร์เซน่อล จะบุกแพ้ แมนฯ ซิตี้ แน่ๆ 100% เมื่อฟุตบอลคือเกมแห่งความไม่แน่นอน ใครจะกล้าคิดว่าบ๊วยอย่าง เซาแธมป์ตัน เกือบจะบุกชนะจ่าฝูง อาร์เซน่อล (อ้าว!) ได้ถึงถิ่น รวมถึงใครจะกล้าคิดว่า อาร์เซน่อล (อ้าว!) จะตามตีเสมอ เซาแธมป์ตัน 3-3 ทั้งที่ตามหลังสองเม็ดจนถึงนาที 87

เมื่อเกมยังมาไม่ถึง ก็สามารถมองได้ว่า การศึกที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม งวดนี้ สามารถออกได้ทั้ง 3 กรณี

1) แมนฯ ซิตี้ ชนะ
กรณีที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงผูกปีชนะ อาร์เซน่อล อยู่ต่อไป ก็ชัดเจนว่า โมเมนตัมของการแย่งโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ได้พลิกไปสู่มือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และชาวคณะเรือใบ เป็นที่เรียบร้อย

ช่องห่างแต้มจะลดลงมาเหลือ 2 คะแนนทันที (อาร์เซน่อล 75 / แมนฯ ซิตี้ 73) พร้อมกับที่ แมนฯ ซิตี้ เหลือเกมสแปร์ในมือ 2 นัดเต็มๆ ด้วย เท่ากับเหลือแค่การ "นับถอยหลัง" รอเวลาให้ทัพเรือเด้งแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปอย่างเป็นทางการ

และมันยังจะเป็นการเข้าเบรค ชนะติดต่อกัน 7 เกมซ้อนใน พรีเมียร์ลีก ของว่าที่แชมป์ใหม่หน้าเก่าอย่างพวกเขาด้วย

2) ออกเสมอ
หลายๆ ฝ่ายคงมองว่า นี่อาจเป็นผลที่ดีที่สุดเท่าที่ มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมปืนใหญ่ จะสามารถคาดหวังได้

1 แต้มจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม มีโอกาสจะเพียงพอให้ อาร์เซน่อล ได้เปิดแชมเปญฉลองใหญ่ในท้ายที่สุด

เพราะมันจะทำให้ระยะห่างแต้มยังคงอยู่ที่ 5 คะแนนต่อไปตามเดิม (อาร์เซน่อล 76 / แมนฯ ซิตี้ 71) และถือว่า อาร์เซน่อล ยังไม่สะดุดอย่างน่าเกลียดเกินไป ด้วยการเก็บ 4 แต้มจาก 4 นัดหลังสุด

หรือ 3) อาร์เซน่อล บุกชนะ
หรือว่าภายหลังจากไม่ชนะที่นี่มา 7 ปี มันคือการอั้นรอว่าครั้งนี้แหละ ที่ อาร์เซน่อล จะมาประกาศศักดาที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้เสียที

ก็ฝันหวานกันได้เลยหากว่า 3 แต้มเต็มของเกมนี้ จะตกเป็นของ อาร์เซน่อล ขึ้นมาจริงๆ

เพราะนั่นจะทำให้ช่องว่างถูกถ่างเพิ่มขึ้นเป็น 8 แต้ม (อาร์เซน่อล 78 / แมนฯ ซิตี้ 70) และต่อให้ แมนฯ ซิตี้ จะแรงขนาดไหน มีเกมตกค้างเท่าใด เจอระยะห่างแบบนี้เข้าไป ก็อาจเบรคแตกเอาได้ง่ายๆ

ดังจะเห็นว่า ทุกผลการแข่งขัน ทุกสกอร์ ทุกแอ็กชั่น และทุกบทสรุปของ เกม แมนฯ ซิตี้ ปะทะ อาร์เซน่อล คืนพุธนี้ สำคัญอย่างยิ่งต่อฉากจบ

ใครจะเป็นแชมป์ ใครจะต้องเจ็บช้ำ 90 นาทีนี้ สำคัญระดับ "ชี้ขาด"

ก็ไหวไหมล่ะ... อาร์เซน่อล ถ้าชนะเกมนี้ได้ ก็เอาแชมป์ไป!

Manchester City v Arsenal: Emirates FA Cup Fourth Round
Manchester City v Arsenal: Emirates FA Cup Fourth Round / Visionhaus/GettyImages