จากส่งโปรไฟล์ขอคัดตัว สู่การเข้าถ้ำสิงห์ ... ทางเดินวันนี้ของ "เจนภพ โพธิ์ขี" - FEATURE
โดย W.PINTHONG
หลังมีข่าวว่า “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ปิดดีลกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ในการซื้อตัว เจนภพ โพธิ์ขี เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่แล้ว โดยค่าตัวอยู่ราว 7-10 ล้านบาท ซึ่งเหลือแต่กลับมาคุยสัญญาอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะได้เซ็นทั้งหมด 2 ปี บวกอ๊อฟชั่นต่ออีก 1 ปี
จากค่าตัวดังกล่าวทำให้การย้ายทีมของ หนุ่มสารคามรายนี้แพงกว่า ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายรุ่นพี่ ที่โยกกลับมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 6.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกว่าเขาเองจะมาถึงวันนี้ได้ ผ่านความลำบากมาอย่างมากมาย เริ่มจากการเป็นเด็กอคาเดมีของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่เข้ามาคัดตัวตั้งแต่ 17 ปี รุ่นเดียวกับ ประสิทธิ์ จันทุม
เขาพกดีกรีติดทีมเยาวชนทีมชาติไทย ทั้ง 14, 15, 18, 23 ปี แต่ไม่สามารถขึ้นชุดใหญ่ได้ เพราะมีรุ่นพี่เพียบ ก่อนจะไป ลำปาง เอฟซี จนทีมขึ้นมากลางตาราง เพราะยิงแบบกระจุย และไปอยู่กับ อุบล ยูเอ็มที แต่บาดเจ็บหนักเอ็นไขว้หน้าขาดจากฟุตบอลถ้วย ทำให้เข้ารับการผ่าตัดที่เข่าขวา และต้องไปจ้างนักกายภาพของสโมสร แต่ 1 ปีที่หยุดไป
เมื่อกลับมาก็พยายามซ้อมแต่ว่าไม่ได้รับโอกาสจาก สุพรรณบุรี เอฟซี จนสัญญาหมดกับทีม จนตัดสินใจทำในสิ่งนี้ขึ้นมา เพราะ "เจนภพ โพธิ์ขี"โดนเอเย่นต์ที่ตามจีบมาแรมปีบอกว่า "ใครติดต่อเข้ามาก็บอกไปว่า ฟรีเอเย่นต์ ไปเลย" เหมือนหักหลังกันชัดๆ ทำให้เขาส่งโปรไฟล์ตัวเองไปในอินบ็อกของเพจทุกสโมสรในเมืองไทย หรือเหมือนการสมัครงาน ว่าเคยอยู่ที่ไหน ผลงานกับทีมเป็นอย่างไร
ในเวลานั้นเขาก็ฉุกคิดว่าทำไมชีวิตของเขาจ้องมาเจอแบบนี้ จนต้องไปขอซ้อมกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไปกลับจากสารคาม 10 วัน แต่ก็ไม่มีชุดซ้อมให้ และมันเลยเป็นสิ่งที่เขาคิดว่า "เป็นการโดนปฏิเสธด้วยความเงียบ" จึงออกมา ก่อนมีสายจาก ลำปาง เอฟซี แต่ก็ไปซ้อม 10 ก็เงียบกริบเหมือนเดิม
คราวนี้โดน ตราด เอฟซี ชักชวนไปซ้อม จนได้มีโอกาสยิง 3 ประตู และได้เซ็นสัญญากับทีมในที่สุด แต่แล้ว ... ก็เกิดโควิด-19 ขึ้นมารอบแรก นอกจากลีกหยุดพักและสัญญาเขาเองก็จะหมดด้วย จน ไทยยูเนียน สมุทรสาคร ได้ติดต่อเข้ามา แต่ว่าในสโมสรมีปัญหาภายในเรื่องการเงิน!!!
กระทั่ง อดุล หละโสะ ติดต่อเข้ามา เพื่อพร้อมช่วยเหลือให้ไป ลำพูน วอริเออร์ แต่ก็โดนเอเย่นต์หลอกในเรื่องของ "ค่าเซ็นสัญญา" ที่ไม่ให้กับแข้งคนนี้ แต่อยู่ที่นั่น 2 ซีซั่น ก็ช่วย "ราชันโคขาว" คว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนเหนือ และรอบแชมเปี้ยนส์ลีก จนเลื่อนชั้นมาสู่ลีกพระรอง เมื่อหมดสัญญาแล้ว
เจ้าตัวก็ส่งโปรไฟล์ไปหาสโมสรด้วยอินบ็อกเช่นเดิม ก่อนที่จะลงเอยกับ โปลิศ เทโร เอฟซี เพราะว่า DM ไปหา "โค้ชอ้น"รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เพราะเขาคนนี้เคยเล่นที่ สุพรรณบุรี เอฟซี มาด้วยกัน ก่อนที่ "โค้ชอ้น" จะขอเบอร์และโทรกลับมา ว่า เงินเดือนไม่เยอะ ไม่การันตีตัวจริง นี่แหละที่ทำให้เขามา
จนสุดท้ายมาลงเอยที่นี่ และเปิดตัวกับทีมดังแห่งบุณยะจินดา กระทั่งเลกแรกยิงไป 6 ประตู จาก 15 เกม ทำให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ กระทั่งติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุยศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แม้ว่ายังไม่ได้มีโอกาสลงสนามในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 4 นัด แต่เขาเองก็ไม่เคยปริปากบ่นใดใดออกมา
เชื่อว่าการไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี น่าจะทำให้เขามีเงินทองที่เยอะขึ้น แต่เขาเองก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การลงสนามเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการไปเก็บเงินทอง เพราะมันจะต่อยอดสู่การไปเล่นให้สโมสรอื่นได้ในอนาคต
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด