ปีทองของ เรือใบ : บันทึกเปื้อนยิ้ม กับพาเหรดฉลอง 3 แชมป์ของ แมนฯ ซิตี้ - FEATURE

งานชุก...ต้องเรียกว่าช่วงนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งานชุกจัดๆ โดยไม่ใช่ว่าต้องลงเตะถ้วยไหนชิงแชมป์อะไรอีก แต่เป็นการเทียวไปงานปาร์ตี้นี้ที เทียวมางานฉลองนั้นที วันต่อวัน งานต่องาน ก็ "เพียบ" สิจ๊ะแม่จ๋า... และนี่คงเป็นเสมือนบทบันทึกเปื้อนยิ้ม กับงานพาเหรด ปิดเมืองแมนเชสเตอร์ฉลอง 3 แชมป์ของ เรือใบสีฟ้า ผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริงแห่ง 2022/23

คนนับแสนเข้าร่วมฉลอง

ไม่สำคัญว่าต้องเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพราะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะคนท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ต่างลาหยุดงานและทำตัวให้ว่างเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งในงานพาเหรดฉลอง 3 แชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ -- ย้ำอีกทีว่านี่คือทีมที่ 2 ของอังกฤษที่ทำสำเร็จ ถัดจาก แมนฯ ยูไนเต็ด 1999

ที่สำคัญ อันที่จริงช่วงเย็นวันจันทร์ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่น) ฝนยังได้กระหน่ำลงมาทั่วพื้นที่และกินเวลายาวนาน จนการเริ่มต้นงานพาเหรดต้องเลื่อนล่าช้ามาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเริ่มเวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

โชคยังดีว่านี่เป็นช่วงซัมเมอร์ของอังกฤษ ฟ้าจึงยังสว่างอยู่ ดวงอาทิตย์ยังเข้ากะอยู่จนถึงช่วงค่ำ ค่อยลาลับสิ้นแสงไปตอนร่วมๆ สี่ทุ่ม

“มันต้องมีฝนแบบนี้แหละ จึงจะสมกับที่เป็นเมืองแมนเชสเตอร์ แฟนบอลต่างคุ้นเคยกับฝนดีอยู่แล้ว" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าไว้ "ท่ามกลางสายฝนแบบนี้ มันทำให้เรามีพาเหรดฉลองแชมป์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ใช่แมนเชสเตอร์ เราไม่เอาแสงแดด เราอยากได้สายฝน นี่แหละเพอร์เฟ็กต์!”

สำหรับงานพาเหรดเริ่มต้นขึ้นที่ Tonman Street, Deansgate แล้วมุ่งสู่ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ผ่าน Cross Street และ Kings Street โดยใช้เวลาล่องไปตามถนนรวม 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนมาบรรจบด้วยการขึ้นเวทีฉลองใหญ่ บริเวณหัวมุมถนน Princess Street และ Portland Street

และแม้ แมนฯ ซิตี้ จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก มาอย่างต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน แถมเป็นหนที่ 5 เข้าไปแล้วจาก 6 ปีหลัง แต่เมื่อมีความพิเศษใส่ไข่ที่ปีนี้เป็น "ทริปเปิ้ลแชมป์" นั่นทำให้มีแฟนบอลนับแสนชีวิตที่มาร่วมฉลอง โห่ร้องยินดี ตั้งแถวปรบมือต้อนรับรถบัสเปิดประทุนที่ขน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และชาวคณะเรือใบ 3 คัน อยู่ตลอดทาง

ความแน่นขนัดและบรรยากาศของความชื่นมื่น ไม่ต่างกันกับพาเหรดแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของ ลิเวอร์พูล หรือแชมป์ประวัติศาสตร์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ 7 ปีก่อนเลยสักนิด

ตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป

กลับมามีที่ยืนในทีมของ เป๊ป ได้อย่างทะนงองอาจ พลิกจากการลงทุน 100 ล้านปอนด์ที่ถูกประนามว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ มาเป็นหนึ่งในคีย์แมนชุด 3 แชมป์ โดยที่ในซีซั่นที่จบไป ได้ลงสนามมากถึง 50 นัด (5 ประตู 11 แอสซิสต์)

แต่สิ่งที่จะทำให้ แจ๊ค กรีลิช ถูกกล่าวขานถึงไปตลอด ไม่ได้อยู่ในสนาม แต่เป็นช่วงเวลา "48 ชั่วโมงเมามันส์" ให้หลังจากนัดชิงชนะเลิศที่ตุรกี

เพราะ 1-2-3-4-5 กี่แก้วต่อกี่แก้ว กี่ขวดต่อกี่ขวด แอลกอฮอล์สารพัดชนิดแบบนับไม่หวาดไม่ไหว ถูกส่งลงลำคอ กรีลิช ตั้งแต่ตอนที่ฉลองรับโทรฟี่แชมป์ ชปล. ลากยาวมางานปาร์ตี้ที่อิบิซ่า และต่อเนื่องกับงานพาเหรดที่แมนเชสเตอร์

ภาพที่หลุดมากับจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องคอยหิ้วปีก กรีลิช คงนับเป็นพยานปากเอก

ดาวเด่นของ แมนฯ ซิตี้ อาจมีหลายคนในสนาม

แต่ดาวเด่นของงานฉลอง แมนฯ ซิตี้ มีเพียง แจ๊ค กรีลิช คนเดียวเท่านั้น

ปีเดียวรับ 3 แชมป์ (กับรางวัลอีกบาน)

นี่คือ 2022/23 ของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ หลังขึ้นฝั่งอังกฤษ มาสวมเสื้อสีฟ้า

• - แชมป์ พรีเมียร์ลีก
  
  - แชมป์ เอฟเอ คัพ
  
  - แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  
  - นักเตะแห่งปี สมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล
  
  - นักเตะแห่งปี พรีเมียร์ลีก
  
  - ดาวรุ่งแห่งปี พรีเมียร์ลีก
  
  - ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก
  
  - ดาวซัลโว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  
  - ดาวซัลโว ลีกยุโรป (European Golden Shoe)
  
  - ทีมยอดเยี่ยมประจำปี ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  
  - นักเตะแห่งปี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ประกาศรางวัลเมื่อวันจันทร์)
  

เหล่านี้ คือเหตุผลชั้นยอดที่ทำให้ ฮาแลนด์ ฉลองแบบสุดเหวี่ยงในงานนี้...เป็นรองก็แค่ แจ๊ค กรีลิช คนเดียวเท่านั้นจริงๆ !

285 ล้านปอนด์แล้ว ยังมีต่อ

ไม่มีการเปิดเผยว่า งบประมาณในการจัดงาน "ปิดเมืองฉลอง" ครั้งนี้ ผลาญเงิน แมนฯ ซิตี้ ไปเท่าไหร่ แต่ก็แน่อยู่แล้วว่า "จิ๊บจ๊อยมาก" เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่พวกเขาหามาได้ จากความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ของซีซั่น 2022/23 นี้

ในแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่แม้จะตกเป็นรองจ่าฝูง ถัดจาก อาร์เซน่อล อยู่นานหลายเดือน แต่พวกเขาก็จ้ำพรวดด้วยผลงานชนะ 12 เกมซ้อนในเดือน ก.พ. - พ.ค. จนแซงเข้าป้าย การันตีแชมป์ก่อนจบซีซั่น 3 นัดนั้น มีเงินรางวัลตอบแทนให้ แมนฯ ซิตี้ ที่ 164 ล้านปอนด์

ในแชมป์ เอฟเอ คัพ ที่ชนะ 6 นัดรวดเหนือ เชลซี, อาร์เซน่อล, บริสตอล ซิตี้, เบิร์นลี่ย์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตลอดเส้นทาง แม้เงินจะน้อยหน่อย แต่ก็ยังเป็นก้อนย่อมๆ ที่ 3.9 ล้านปอนด์

ส่วนแชมป์ปิดท้ายปีทอง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ซิตี้ ก็ไร้พ่ายตลอดเส้นทาง (ชนะรวดในบ้าน นอกบ้านเน้นเสมอ) จนกระทั่งมาสยบ อินเตอร์ มิลาน 1-0 ทำเงินให้กับพวกเขาที่ 117.2 ล้านปอนด์

สามแชมป์ สามเงินรางวัล รวมกันได้ 285.1 ล้านปอนด์

ประเด็นคือ นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด--โดยไม่ต้องนับรวมรายได้จากสปอนเซอร์ทั้งหลายแหล่ด้วย

เพราะอีก 2 เดือน พุธ 16 ส.ค. เก่งใหญ่อย่าง แมนฯ ซิตี้ จะต้องลงเตะนัดชิงถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2023 กับเก่งเล็กอย่าง เซบีย่า เจ้าของแชมป์ ยูโรป้า ลีก ที่คาไรส์คาคิส สเตเดี้ยม เมืองปิเรอุส ประเทศกรีซ

หากสามารถเดินหน้าชนะได้ตามมาตรฐาน ยูฟ่า ก็มีเงินรางวัลมอบให้ แมนฯ ซิตี้ อีกที่ 4.3 ล้านปอนด์ (5 ล้านยูโรสำหรับผู้ชนะ / 3.8 ล้านสำหรับผู้แพ้)

จากนั้น ช่วงปลายปี กลางเดือน ธ.ค. แมนฯ ซิตี้ จะได้ลิ้มรสของ สโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023 ที่ซาอุฯ ซึ่งนับเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในรูปแบบเก่า (7 ทีม ตัวแทนทวีป) ซึ่งตอนนี้เหลือตัวแทนอเมริกาใต้รายเดียวที่ยังไม่ถูกตัดสิน นอกนั้นมาครบแล้ว (อุราวะ เร้ดส์, อัล อาห์ลี อียิปต์, คลับ เลออน, โอ๊คแลนด์ ซิตี้, อัล-อิตติฮัด) ถ้า แมนฯ ซิตี้ ไปถึงแชมป์ จะมีเงินรางวัลรออยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4.4 ล้านปอนด์

ยิ่งไปกว่านั้น รออีกประเดี๋ยว ถึงซัมเมอร์ 2025 ก็จะมี "งานใหญ่" รออยู่ อย่าง สโมสรโลกรุ่นคิดใหม่ทำใหม่ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 จากการสรรค์สร้างของ ฟีฟ่า ที่จะมี แมนฯ ซิตี้ เข้าร่วมเป็นหนึ่งในนั้น ในฐานะแชมป์ ชปล. 2023

ว่ากันว่า ฟีฟ่า มีเงินรางวัลล่อตาล่อใจ แมนฯ ซิตี้ สำหรับการเข้าร่วมชิงชัยใน "ฟุตบอลโลกระดับสโมสร" ครั้งนี้ สูงถึงหลัก 50 ล้านปอนด์ทีเดียว

285.1 + 4.3 + 4.4 = 50 = 343.8 ล้านปอนด์ จุกๆ ไปเลยจ้า

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

แต่แม้จะฉลองกันหนักแค่ไหน เมามันส์สุดเหวี่ยงอย่างไร เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม งานปาร์ตี้ครั้งนี้ก็จบลง และทุกฝ่ายแยกย้ายกลับบ้านไปพักผ่อน (หรือไม่ก็...ต่อดิ๊!) ด้วยความสงบเรียบร้อยไร้ปัญหา

จากนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และนักเตะบางส่วนจะได้ออกไปพักร้อนกันแบบเต็มอิ่ม...แต่ก็ยกเว้นพวกที่ต้อง "รับใช้ชาติ" ต่อเนื่องในคิวทีมชาติกลางเดือนนี้--ซึ่งเริ่มต้นไปแล้วด้วยซ้ำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (เจ้าภาพยูโร 2024 เยอรมนี ลงอุ่นเครื่องเสมอ ยูเครน 3-3)

• - พรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) อิลคาย กุนโดกัน จะไปสมทบกับเพื่อนอินทรีเหล็ก เพื่อลงเล่นกับ โปแลนด์ และ โคลอมเบีย ต่อไป
  
  - เอแดร์ซอน โมราเอส ไปรายงานตัวทีมชาติบราซิล
  
  - ฮูเลียน อัลวาเรซ ไปเข้าแคมป์ อาร์เจนติน่า ชุดเตรียมมาเตะกับ ออสเตรเลีย และ อินโดนีเซีย
  
  - โรดรี้ & อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ ไปเล่นกับสเปน ชิงแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
  
  - นาธาน อาเก้ ไปเล่นกับเนเธอร์แลนด์ ชิงแชมป์ เนชั่นส์ ลีก เช่นกัน
  
  - รูเบน ดิอาส กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ไปเล่นให้โปรตุเกส
  
  - มานูเอล อคานจี ไปเล่นกับสวิตเซอร์แลนด์
  
  - เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ก็จะกลับสู่ทีมชาตินอร์เวย์อีกครั้ง
  
  - จอห์น สโตนส์ นำขบวน ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเด้น ไปช่วยทีมชาติอังกฤษ
  
  - แจ๊ค กรีลิช ก็มีชื่อติดธงชุดนี้ (คัดยูโร 2 นัด) ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าถึงวัน...จะหายแฮงค์หรือยัง?!
  

ส่วนเมื่อสิ้นสุดคิวทีมชาติของแต่ละคน ก็จะมีช่วงปล่อยพักให้เพิ่มเติมสักระยะ ก่อนกลับมารวมทีมกันอีกครั้ง (แต่ละคนคงกลับมาไม่พร้อมกัน) เพื่อเริ่มต้นคิวปรีซีซั่น 2023/24 ที่ แมนฯ ซิตี้ จะยก 3 แชมป์มาอวดแฟนบอลแดนอาทิตย์อุทัย ลงเตะที่ญี่ปุ่น 2 นัด ก่อนโยกไปเล่นที่ เกาหลีใต้ 1 นัด ในวันที่ 23-26-30 ก.ค. ตามลำดับ

และเมื่อวันนั้นมาถึง ก็หมายถึงการผจญภัยครั้งใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

แล้วจะจบด้วยอีกกี่แชมป์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อไปเช่นกัน