ตลอด 30 ปี ฟิออเรนตินา ทีมม้ามึดนอกสายตา ที่ไม่เคยขาดแคลนกองหน้าจอมถล่มประตู - FEATURE

หากจะพูดถึงทีมชั้นนำในศึก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ในยุคปัจจุบันหลายคนคงนึกถึงทีมอย่าง ยูเวนตุส เอซี มิลาน อิเตอร์ มิลาน นาโปลี หรือ อตาลันต้า เป็นอันดับแรก ซึ่งน้อยคนจะนักจะพูดถึงทีมอย่าง ฟิออเรนตินา ที่ผลงานดูจะตกต่ำลงมากลายเป็นทีมกลางตารางไปแล้วในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้
อันที่จริงก่อนหน้านี้ ฟิออเรนตินา ก็เคยมียุครุ่งเรื่องที่สามารถลุ้นโควต้ายุโรปอย่างต่อเนื่องอยู่บ้างเหมือนกัน อีกทั้งตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านแม้ผลงานของพวกเขาจะขึ้น ๆ ลง ๆ สลับกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่เคยเปลี่ยนเลยคือการที่ ทัพม่วงมหากาฬ มักจะมีกองหน้าที่คอยถล่มประตูให้ทีมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเสมอ เริ่มตั้งแต่...
โรแบร์โต้ บาจโจ้
ซุเปอร์สตาร์ชาวอิตาลีที่หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยก่อนที่เจ้าตัวจะโด่งดังกับ ยูเวนตุส ฟิออเรนตินา คือทีมที่ปลุกปั้นเขาจนแจ้งเกิดได้สำเร็จ ซึ่งเริ่มมาระเบิดฟอร์มเก่งเป็นพลุแตกในยุคของ สเวน โกรัน อิริคสัน ช่วงปี 89 และ 90 ที่ยิงให้ทีมรวมกันถึง 43 ประตู ก่อนจะถูก ม้าลาย ดึงตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา
กาเบรียล บาติสตูต้า
หลังจากการจากไปของ บาจโจ้ ปี 1991 ฟิออฯ จัดการคว้าตัวหัวหอกดาวรุ่งชาวอาร์เจนตินาจาก โบค่า จูเนียร์ นามว่า กาเบรียล บาติสตูต้า และแน่นอนเข้าได้แจ้งเกิดพร้อมกับระเบิดฟอร์มเทพพร้อมกับเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรในทุกฤดูกาลที่ค้าแข้งกับทีมตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปี 2000 ก่อนจะย้ายไปพา โรมา คว้าแชมป์ เซเรีย อา ได้ในปี 2001 ซึ่งจนถึงปัจจุบัน บาติโกล ยังคงเป็นเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ ฟิออเรนตินา ที่ 203 ประตูจาก 331 เกม
เอ็นริโก้ เคียซา
พ่อแท้ ๆ ของ เฟเดริโก้ เคียซา ซุเปอร์สตาร์ชาวอิตาลีในยุคปัจจุบัน ที่มาระเบิดฟอร์มเก่งหลังจากที่ บาติสตูต้า ย้ายออกจากทีมไป โดยซัดไปถึง 27 ประตูในปี 2001 ก่อนจะโดน ลาซิโอ มาคว้าตัวไปในปีต่อมา และหลังจากนั้น ฟิออเรนตินา เข้าสู่ยุคตกต่ำอีกครั้งถึงขนาดต้องยอมยุบทีมจากปัญหาหนี้สิ้น ณ เวลานั้น
กระทั่งการมาของ ดิเอโก้ เดลลาวัลเล เศรษฐีเครื่องหนังชาวอิตาลี ที่เข้ามาจัดการเคลียร์ปัญหาดังกล่าวพร้อมก่อตั้งสโมสรขึ้นมาใหม่โดยเริ่มจากการเล่นใน เซเรีย ซี ซึ่งพวกเขาก็ใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในปี 2004
ลูก้า โทนี - อาเดรียน มูตู
หลังจากขึ้นชั้นมาได้ 1 ปี ฟิออเรนตินา ก็จัดการคว้าตัวยอดดาวยิงจาก ปาแลร์โม อย่าง ลูก้า โทนี เข้ามาล่าตาข่ายซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการซัดไป 33 ประตูในปีแรก แถมในซีซั่นถัดมาพวกเขาก็ไปสอย อาเดรียน มูตู จาก ยูเวนตุส มาเสริมแกร่ง ก่อนที่ทั้งสองคนที่ครองดาวซัลโวในลีกของสโมสรร่วมกันในปี 2007 ที่ 16 ประตู แม้ว่าต่อมาฤดูกาล 2008-09 โทนี จะย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค แล้ว แต่ มูตู ยังคงทำหน้าที่ได้ไร้ที่ติกับการกดไป 23 ประตูในปีดังกล่าว
อัลแบร์โต้ กิลาร์ดิโน
ในปี 2008 หลังจากคว้าแชมป์ยุโรปมาครองกับ เอซี มิลาน กิลาร์ดิโน ตัดสินใจย้ายมาหาโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องกับ ฟิออเรนตินา ซึ่งโชคดีที่การมาของเขาค่อนข้างถูกที่ถูกเวลาเพราะในปีนั้นหัวหอกตัวเก่งอย่าง มูตู ก็เริ่มมีข่าวฉาวเกี่ยวกับยาเสพติดจนฟอร์มการเล่นดร็อปลงไปซึ่งก็ได้หัวหอกคนใหม่รายนี้เข้ามาทำหน้าทีแทนด้วยผลงานรวม 51 ประตูคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร 3 ฤดูกาลติดต่อกันในปี 2009-2011
สเตฟาน โยเวติช
หลังจากนั้นในฤดูกาล 2011-12 กิร์ลาดิโน ถูก เจนัว คว้าตัวไปร่วมทีม ทำให้ต้องถึงคราวของหัวหอกชาว มอนเตเนโกร ที่ทีมดึงตัวมาปลุกปั้นตั้งแต่ปี 2008 อย่าง สเตฟาน โยเวติช ออกโรงบ้าง ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้เป็นหัวหอกตัวเป้าโดยธรรมชาติแต่ถนัดในการลากเลี้อยไปกับบอลได้ดีแถมยังจ่ายบอลได้ค่อนข้างแม่นยำและก็ทำไปได้ 14 ประตูในปี 2012 กับอีก 13 ประตูในปี 2013 แบกทีมจนจบอันดับที่ 4 ได้ตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งนั่นก็ไปเตะตา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าอย่างจังจนถูกดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงหน้าร้อนปีเดียวกัน
หลังจากการจากไปของ โยเวติช ฟิออเรนตินา แม้จะมีตัวรุกฝีเท้าทีเข้ามาทำหน้าที่แทนหลายคน แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถคงฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่องทั้ง จูเซปเป้ รอสซี โจซิพ อิลลิซิช นิโกลาส คาลินิช จิโอวานี ซิเมโอเน หรือแม้แต่ เฟเดริโก้ เคียซา ที่หลังจากแจ้งเกิดได้ก็ถูก ยูเวนตุส คว้าตัวไปทันที จนกระทั่งมาถึงคิวของดาวซัลโวขวัญใจคนล่าสุด
ดูซาน วลาโฮวิช
หอกดาวรุ่งชาวเซอร์เบียถูกดึงตัวมาร่วมทีมดังแต่ปี 2018 ก่อนจะถูกดันขึ้นมาเป็นคู่หูของ เคียซา ในปี 2019 และทำไปได้ 11 ประตู จนกระทั่งมาระเบิดฟอร์มเก่งและแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฤดูกาล 2020/21 ที่ผ่านมาหลังยิงไป 21 ลูกสร้างชื่อให้กับตัวเองได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่นั้น ซีซั่นนี้แข้งวัย 21 ปียังคงพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องแถมยังทำไปแล้ว 18 ประตูจาก 22 เกมให้กับ ม่วงมหากาฬ
แน่นอนแม้ว่าฝีเท้าจะยอดเยี่ยมแต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวอาจเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ได้อยู่ยาวเป็นตำนานของสโมสรเหมือนรุ่นพี่อย่าง บาติสตูต้า เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าฟุตบอลในยุคหลังถูกขับเคลื่อนด้วยเงินตราเพราะฉนั้นหากมีข้อเสนองาม ๆ พร้อมค่าเหนื่อยก้อนโตเข้ามาเมื่อไหร่ แฟน ๆ ฟิออเรนตินา ก็เตรียมตัวโบกมือลาดาวเตะรายนี้เอาไว้ได้เลย...
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด