7 แข้งที่ฟอร์มกระฉูดหลังแจ้งเกิดกับ อาร์เซนอล ไม่สำเร็จ - FEATURE
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
อาร์เซนอล ถือเป็นทีมหนึ่งที่มีการเสริมทัพที่น่าสนใจเสมอในตลาดซื้อขาย พรีเมียร์ลีก รวมทั้งประวัติการปล่อยนักเตะออกจากทีม ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขามักจะเจอกับเหตุการณ์ผู้เล่นที่ถูกปล่อยไปกลับไปแจ้งเกิดกับทีมใหม่และกลายเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์แถมประสบความสำเร็จมากมาย ชนิดที่ทำเอาแฟนบอลประหลาดใจไม่น้อย
และนี่คือ 7 นักเตะที่ทำให้เหล่า กูนเนอร์ส ครางเสียดายหลังย้ายไปฟอร์มเทพกับทีมอื่น
1. แอนดี้ โคล
เชื่อว่าแฟนบอล อาร์เซนอล หลายคนอาจไม่รู้หรือลืมไปแล้วว่า คิงโคล นั้นเคยค้าแข้งในถิ่น ไฮบิวรี (สนามเก่า) มาก่อน ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มกับ นิวคาสเซิล และประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โคล ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 20 ปีโดนขายออกจากทีมเมื่อปี 1992 หลังจากที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ได้ โดยมีทีมจากลีกรองอย่าง บริสตอล ซิตี้ คว้าตัวไปด้วยราคา 500,000 ปอนด์ ซึ่งกลายเป็นนักเตะค่าตัวสูงสุดของสโมสรในตอนนั้น จากนั้นในปีต่อมาเจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นให้กับ สาลิกาดง และยิงประตูได้มากมายจนกลายเป็นที่สตาร์เพียงข้ามคืน
จากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียนก็ทุ่มเงินสุงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานั้นเพื่อดึงไปล่าตาข่าย และที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 1999
2. คาร์ลอส เวลา
แม้แข้งเม็กซิกันอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายหลังย้ายออกจาก อาร์เซนอล แต่เจ้าตัวก็ได้รับการกล่าวขวัญและยังมีชื่อวนเวียนอยู่ในวงการ โดยเฉพาะตอนที่ย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล โซเซียดัด ซึ่งที่นั่นเขาได้จับคู่กับ อองตวน กรีซมันน์ ถล่มประตูจนโด่งดังมาแล้ว
ในซีซัน 2013-2014 ถือเป็นจุดพีกของ เวลา หลังจากที่ยิงไป 15 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ ใน ลาลีกา ซึ่งมีเพียง ลีโอเนล เมสซี, คริสเตียโน โรนัลโด้ และ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ทำได้มากกว่า ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากทั่วยุโรปในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามแม้จะไม่เคยได้แชมป์รายการระดับเมเจอร์แต่ดาวเตะจังโก้ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยปัจจุบันในวัย 33 ปี เวลา กำลังค้าแข้งใน เมเจอร์ลีก กับ แอลเอ เอฟซี โดยยิงไป 63 ประตูและทำ 41 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 102 นัด
3. โจวานนี ฟาน บรองฮอร์ส
แข้งชาวดัตช์ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงเท่าไหร่เมื่อครั้งที่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ส่วนใหญ่มักจะตกเป็นตัวสำรอง และได้โอกาสในการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 22 นัดตลอด 2 ปีในการเล่นฟุตบอล ณ กรุงลอนดอน
แต่หลังจากที่ย้ายออกจากทีมเมื่อปี 2003 โดยไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลนา ที่มี แฟรงค์ ไรการ์จ เป็นผู้จัดการทีม กลายเป็นว่า ฟาน บรองฮอร์ส ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องและคว้าแชมป์ ลาลีกา 2 สมัยรวมทั้งการได้แชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2006 ซึ่งเป็นการเอาชนะทีมเก่าของเขาอย่าง อาร์เซนอล ได้ด้วย
4. ลาสซานา ดิยารา
ช่วงแรกในการค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ของ ดิยารา นั้นถือได้ว่าน่าสนใจ เขาย้ายมาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2005 ก่อนจะข้ามฟากมา อาร์เซนอล ในอีก 2 ปีต่อมา แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวได้ลงเล่นเฉพาะในเกมลีกไปทั้งหมดแค่ 20 นัดเท่านั้น
แข้งชาวฝรั่งเศสอยู่กับ เดอะกันเนอร์ส ได้แค่ 6 เดือนก็ถูกปล่อยให้กับ ปอร์ทสมัธ ในราคาเพียง 5 ล้านปอนด์ซึ่งที่นั่นเขาช่วยพาทีมเป็นแชมป์ เอฟเอคัพ สมัยที่ 2 ก่อนที่จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์โดย เรอัล มาดริด มาคว้าตัวไปร่วมทีมในราคา 20 ล้านยูโรหรือ 16 ล้านปอนด์ในปี 2009
ที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว กลายเป็นว่า ดิยารา ได้ลงสนามไปกว่า 100 เกมและช่วยทีมคว้าแชมป์ ลาลีก้า และ โคปา เดล เรย์ เป็นสิ่งตอบแทน
5. ดอนนี มาเลน
ถือเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองในยุคปัจจุบัน แถมยังตกเป็นข่าวการย้ายทีมกับหลายทีมใน พรีเมียร์ลีก รวมทั้งสโมสรเก่าของเขาอย่าง อาร์เซนอล ด้วย
มาเลน ถูกทีม ปืนโต ดึงมาอยู่กับอคาเดมีของสโมสรเมื่อปี 2016 และเขาก็ใช้เวลาวนเวียนอยู่กับทีมชุด U18 และ U 23 อยู่ 1 ปีก็ถูก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ซื้อกลับไปยังฮอลแลนด์อีกรอบ และที่นี่คือที่ที่ทำให้เขาระเบิดร่างทองจนได้รับความสนใจจากทั่วยุโรป
แข้งวัย 23 ลงเล่นไปทั้งหมด 81 นัดยิงได้ 40 ประตูและทำไปอีก 18 แอสซิสต์จนทำให้หลายทีมแย่งกันคว้าตัวจนสุดท้ายเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่จัดการทุ่มเงิน 30 ล้านยูโรดึงไปเสริมทัพเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว
6. มัตเตโอ เก็นดูซี
จริง ๆ แล้วแข้งชาวฝรั่งเศสถือเป็นนักเตะอนาคตไกลคนหนึ่งของ อาร์เซนอล ก็ว่าได้หลังย้ายมาร่วมทีมในยุคของ อูไน เอเมรี และยังยึดตำแหน่งตัวจริงต่อเนื่องเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาทำทีม แต่สุดท้ายชะตาก็ขาดเมื่อดันไปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งในและนอกสนาม
กุนซือชาวสแปนิชจึงจัดการดร็อปเขาออกจากทีมแล้วส่งให้ แฮร์ธา เบอร์ลิน ยืมตัวในซีซัน 2020-2021 แต่ฟอร์มก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้าง จนกระทั่งการย้ายมาเล่นให้กับ โอลิมปิค มาร์กเซย เมื่อซีซันที่แล้วที่ทำให้มิดฟิลด์รายนี้ยกระดับฟอร์มการเล่นของตัวเองได้สำเร็จ
เก็นดูซี กลายเป็นแข้งตัวหลักของ โอแอ็ม และช่วยทีมคว้ารองแชมป์ ลีกเอิง พร้อมกับโควต้าไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า และตอนนี้เขาก็กลายเป็นนักเตะของ มาร์กเซย แบบถาวรเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
7. แซร์จ กนาบรี้
กนาบรี้ ถูกดึงมาจาก วีเอฟบี สตุ๊ตการ์ด ในฐานะนักเตะเยาวชนเมื่อปี 2011 และถูกปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช ยืมตัวเมื่อซีซัน 2015-2016 พร้อมกับโอกาสในการเล่น พรีเมียร์ลีก 12 นัด ซึ่งพอจบฤดูกาลดังกล่าวก็เป็น แวร์เดอร์ เบรเมน ที่คว้าตัวกลับไปยัง บุนเดสลีกา อีกครั้ง
หากแต่สโมสรที่ทำให้แข้งวัย 27 ปีแจ้งเกิดในวงการก็คือ บาเยิร์น มิวนิค ที่ซื้อต่อมาจาก เจ้านกนางนวล ในปี 2017และปล่อยยืมให้กับ ฮอฟเฟนไฮม์ ทันที ก่อนจะกลับมาเป็นตัวหลักของทีมในปีต่อมา
กนาบรี้ กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของ เสือใต้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพร้อมกับประสบความสำเร็จอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นแชมป์ บุนเดสลีกา 4 สมัยและแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2019 และเพิ่งประกาศต่อสัญญาใหม่ออกไปจนถึงปี 2026 สยบข่าวลือเรื่องการย้ายกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก และ อาร์เซนอล เป็นที่เรียบร้อย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด