เต็มเหนี่ยวไปเลยพี่ เต็มที่ไปเลยเธอ: แล้ว อังกฤษ ก็ผงาดแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ...ลุ้นระทึกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว - FEATURE
• อังกฤษ ผงาดครองแชมป์แรกในรอบ 39 ปี
• สิงโตน้อยของ ลี คาร์สลี่ย์ สยบ สเปน 1-0 เท่ากับไม่เสียประตูตลอดทัวร์นาเมนต์
ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่นเล็ก ยูโร ยู-21 ที่ถึงนัดตัดสินแชมป์เมื่อวันเสาร์ที่่ผ่านมา ซึ่งท่ามกลางความคู่คี่สูสี เผชิญหน้าตาต่อตาฟันต่อฟันกันอย่างสนุก นี่ก็คือบทสรุปที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับ "แชมป์ที่รอคอย" ของชนชาติอังกฤษ
บนทางสู่แชมป์ยุโรป
อย่างที่ได้เอ่ยไว้เมื่อวันก่อนแล้ว ถึงโอกาสที่ อังกฤษ มีลุ้นแชมป์ยุโรปเต็มตัว ภายหลัง ลี คาร์สลี่ย์ และขุนพลสิงโตน้อย ร่วมมือร่วมใจกันสร้างผลงานติดเกรดเอบวก ในตลอดเส้นทางของการชิงชัย ศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่นเล็ก หรือ ยูโร ยู-21 ที่ประเทศ โรมาเนีย/จอร์เจีย
เมื่อตั้งแต่เกมแรกสุดของการโรมรันรอบสุดท้าย จนกระทั่งถึงเกมรอบตัดเชือก อังกฤษ สามารถเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่งสุดยอดไปเลย ด้วยการชนะรวด...รวดแบบไม่เสียประตูเลยสักลูก!
- ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0 (เจค็อบ แรมซี่ย์, เอมิล สมิธ โรว์)
ชนะ อิสราเอล 2-0 (แอนโธนี่ กอร์ดอน, เอมิล สมิธ โรว์)
ชนะ เยอรมนี 2-0 (คาเมรอน อาร์เชอร์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์)
ชนะ โปรตุเกส 1-0 (แอนโธนี่ กอร์ดอน)
ชนะ อิสราเอล 3-0 (มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, โคล พาล์มเมอร์, คาเมรอน อาร์เชอร์)
อย่างไรก็ตาม อังกฤษ ไม่อาจมั่นใจระดับ 100% ได้ว่าพวกเขาจะ "มาแน่" ในนัดชิงชนะเลิศที่ อัดจาราเบ็ต สเตเดี้ยม (จอร์เจีย) เมื่อคู่ชิงชนะเลิศคือ "มหาอำนาจบอลเด็ก" แห่งทวีปยุโรป อย่าง สเปน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้สูงสุด 5 สมัย (เท่ากับ อิตาลี)
สำคัญกว่าผลงานในอดีต ก็คือการที่ขุนพลกระทิงน้อยของ ซานติ เดเนีย สร้างผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ด้อยไปกว่าเด็กสิงโต และยังมีตัวเก่งอยู่ในทีมทั้ง กาบรี เบก้า (เซลต้า กำลังเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล), ออยฮาน ซานเซ็ต (บิลเบา), อเล็กซ์ บาเอน่า (บียาร์เรอัล), เซร์คิโอ โกเมซ (แมนฯ ซิตี้) หรือ อเบล รุยซ์ (บราก้า)
- ชนะ โรมาเนีย 3-0 (อเล็กซ์ บาเอน่า, ฆวน มิรันด้า, เซร์คิโอ โกเมซ)
ชนะ โครเอเชีย 1-0 (อเบล รุยซ์)
เสมอ ยูเครน 2-2 (อเบล รุยซ์, อีกลูกยูเครนยิงตัวเอง)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1 (ต่อเวลา : เซร์คิโอ โกเมซ, ฆวน มิรันด้า)
ชนะ ยูเครน 5-1 (อเบล รุยซ์, ออยฮาน ซานเซ็ต, อันโตนิโอ บลังโก้, ไอมาร์ โอรอซ, เซร์คิโอ โกเมซ)
เรื่องน่าสนใจคือ เซร์คิโอ โกเมซ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ (ย้ายจาก อันเดอร์เลทช์ มาลงเรือเป็นปีแรก) ถูกมอบหมายตำแหน่ง "ปีกซ้าย" เดินหน้ารุกเต็มกำลัง และทำไปถึง 3 ประตู เป็นดาวซัลโวร่วมของยูโรหนนี้
และเรื่องน่าสนใจอีกอย่าง คือ สเปน ชุดยู-21 ไม่แพ้ใครมาตั้งแต่ที่แพ้ รัสเซีย 0-1 รอบคัดเลือกยูโร ช่วงปลายปี 2021 หรือก็คือร่วมๆ 2 ปีมาแล้ว
ดังนั้น เกมชิงชนะเลิศระหว่าง อังกฤษ กับ สเปน จึงเข้าข่าย 50:50 สามารถออกหน้าไหนก็ได้ทั้งหมด และมีสิทธิ์ที่จะตัดสินกันแค่เพียงรายละเอียดเล็กๆ ระหว่างเกม
ซึ่งของจริงก็เป็นไปตามนั้น ทุกประการ
45+4 กับโชคดีของอังกฤษ
ความพร้อมของสองฝั่งก่อนเกมเมื่อวันเสาร์ สเปน ดูเหลื่อมกว่าเล็กๆ ด้วยการที่ ซานติ เดเนีย สามารถใช้งานขุมกำลังที่ดีที่สุดได้ ไม่มีใครเจ็บใครแบน ในเวลาเดียวกันกับที่ ลี คาร์สลี่ย์ เสียตัวจี๊ดอย่าง เจค็อบ แรมซี่ย์ จากแอสตัน วิลล่า บาดเจ็บข้อเท้า ไม่พร้อมสำหรับเกมชิงถ้วย
คาร์สลี่ย์ วางระบบเบสิก 4-4-2 ลงสนาม เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด เฝ้าเสา คู่เซนเตอร์ยึด ลีวาย คอลวิลล์ คู่กัปตันทีม เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส แบ็กซ้ายขวาเป็น แม็กซ์ อารอนส์ กับ เจมส์ การ์เนอร์ ส่วนแดนกลางจากซ้ายไปขวามี เอมิล สมิธ โรว์, เคอร์ติส โจนส์, แอนเจล โกเมส, โคล พาล์มเมอร์ และหน้าคู่ชุดเดิม แอนโธนี่ กอร์ดอน ยืนกับ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์
ฝั่ง ซานติ เดเนีย ใช้ 4-2-3-1 อาร์เนา เตนาส เฝ้าประตู อันโตนิโอ บลังโก้ กับ อเล็กซ์ บาเอน่า ยืนกลางคู่ แนวรุกใช้ โรดรี้ ซานเชซ, ออยฮาน ซานเซ็ต, เซร์คิโอ โกเมซ ปั้นเกมหลังหอกเป้ากัปตันทีม อเบล รุยซ์
ครึ่งแรกที่ อัดจาราเบ็ต สเตเดี้ยม เป็นไปอย่างคู่คี่สูสี เกมไม่ได้เปิดมาก ต่างฝ่ายต่างทันกัน และโอกาสลุ้นสกอร์มีไม่มากครั้ง
อาร์เนา เตนาส มีงานให้ทำมากกว่า เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด เล็กน้อย ด้วยการทิ้งตัวปัดลูกยิงของ กอร์ดอน เอาไว้ รวมถึงตะปบลูกส่องไกลของ โคล พาล์มเมอร์ เอาไว้แบบติดมือ และช่วงท้ายก็ใจหายลงตาตุ่มกับลูกโขกของ ลีวาย คอลวิลล์ ที่เด้งพื้นลอยเข้ากระแทกเสาอย่างจัง
แต่ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบด้วย 0-0 ก็กลายเป็น อังกฤษ ได้เฮรับ 1-0 อย่างมีโชค ในช่วงทดเจ็บ +5 ที่เอาเข้าจริงก็ลากยาวกันไป 7 นาที
45+4 โคล พาล์มเมอร์ โดนเพื่อนร่วมสังกัด เซร์คิโอ โกเมซ เตะร่วงหน้าเขตโทษ เคอร์ติส โจนส์ วิ่งเข้าสังหารฟรีคิกไปแฉลบกำแพงเปลี่ยนทางผลุบเข้าก้นตาข่าย โดยที่กว่า อาร์เนา เตนาส จะมองเห็นลูกก็พุ่งมาไม่ถึงเสียแล้ว
แชมป์แรกในรอบ 39 ปี
ครึ่งหลัง สเปน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตบเกียร์สูงเดินหน้าใส่เพื่อทวงคืน แต่นอกจากจะหาช่องเจาะผ่านคู่เซนเตอร์ คอลวิลล์ - ฮาร์วู้ด-เบลลิส (รวมถึงกำแพงสิงโต 2-3 ชั้น) ไม่ค่อยได้แล้ว (น.52 อเบล รุยซ์ โหม่งลูกฟรีคิกเข้า แต่ล้ำหน้าเยอะ) ก็ยังโดนเกมสวนของ อังกฤษ เล่นงานเป็นระยะ จนโอกาสที่สกอร์จะขยับขึ้นเป็น 2-0 มีมากกว่า 1-1 ชัดเจน
อาร์เนา เตนาส ต้องพุ่งตัวปัดป้องช่วยทีมไว้ 2-3 หน ไม่ให้สกอร์ฝั่งสิงโตน้อยขยับขึ้นมากกว่าหนึ่ง
และหลังจากลูก 1-1 ที่ไม่ยม่อมมาตอนต้นครึ่งหลัง (อเบล รุยซ์ โดนจับล้ำหน้า) เฮือกสุดท้ายที่เกมเดินทางมาถึง ก็คู่ควรจะเป็น 1-1 ยิ่งกว่าอะไร
- - ผู้ตัดสินข้างสนาม ชูป้ายทดเจ็บ 6 นาที
- 90+6 คอลวิลล์ ไปเตะใส่ อเบล รุยซ์ ในจังหวะเล่นลูกกลางอากาศ
- ผู้ตัดสิน เอสเพน เอสคาส (นอร์เวย์) ขอไปเช็กภาพช้า VAR ด้วยตัวเอง
- 90+8 กลับเข้าสนามพร้อมชี้เป็นจุดโทษสำหรับ สเปน
- 90+9 อเบล รุยซ์ วิ่งเข้าซัดโครมไปติดเซฟ เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด แถมตัวซ้ำดาบสองดาบสามก็ไม่เข้าเป้าเสียอีก
(เกมทดกันมาถึง 12-13 นาที โดยที่ อันโตนิโอ บลังโก้ กับ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ต่างก็โดนใบแดงหลังถูกเปลี่ยนออกไปแล้ว นอกเหนือจากที่มีใบเหลืองรวม 12 ใบ และจังหวะเผชิญหน้าปะทะคารมกันหลายหน)
เกมจบที่ อังกฤษ ชนะ 1-0 อย่างสุดระทึก ครองแชมป์ยุโรปรุ่นเล็กเป็นสมัยที่ 3 และเป็นหนแรกถัดจาก 1984 หรือ 39 ปี
- ทำเนียบแชมป์ ยูโร ยู-21 สิบครั้งหลัง
2006 เนเธอร์แลนด์ (ชนะ ยูเครน 3-0)
2007 เนเธอร์แลนด์ (ชนะ เซอร์เบีย 4-1)
2009 เยอรมนี (ชนะ อังกฤษ 4-0)
2011 สเปน (ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-0)
2013 สเปน (ชนะ อิตาลี 4-2)
2015 สวีเดน (ชนะจุดโทษ โปรตุเกส 4-3)
2017 เยอรมนี (ชนะ สเปน 1-0)
2019 สเปน (ชนะ เยอรมนี 2-1)
2021 เยอรมนี (ชนะ โปรตุเกส 1-0)
2023 อังกฤษ (ชนะ สเปน 1-0)
สำคัญคือ แชมป์คราวนี้ เกิดขึ้นแบบไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวจาก 6 เกมตลอดรายการ--ทั้งที่คู่ควรจะโดนเจาะประตู 1-1 อย่างยิ่ง อันจะทำให้โอกาสแชมป์สั่นคลอนทันทีหากต้องต่อเวลาพิเศษ (หรือถึงดวลเป้า) เพื่อชี้ขาด
หลังจากการห่างแชมป์ทั้งชุดใหญ่ชุดเล็กมานานหลายสิบปี ก็ชัดเจนว่า "เทพีแห่งโชค" เริ่มเข้าข้างพวกเขาบ้างแล้ว
ชุดเล็กทำสำเร็จแล้ว ก็ควรถึงคิวชุดใหญ่ขึ้นบัลลังก์บ้าง... ยูโร 2024 หรือ ฟุตบอลโลก 2026 ดีล่ะ?!?