แบ่งแต้ม เบรนท์ฟอร์ด จุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจทำให้ อาร์เซนอล ชวดแชมป์พรีเมียร์ลีก - FEATURE

Arsenal FC v Brentford FC - Premier League
Arsenal FC v Brentford FC - Premier League / Clive Mason/GettyImages
facebooktwitterreddit

มันเหมือนสัญญาณเตือนภัยสำหรับ อาร์เซนอล หลังจากพวกเขาเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 1-1

ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่ชนะใครมา 2 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก และไม่ชนะใคร 3 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการด้วย พวกเขามีโอกาสแพ้ 4 เกมรวดด้วยซ้ำเมื่อต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันพุธนี้ ซึ่งเป็นเกมที่อาจส่งผลถึงแชมป์เลยทีเดียว

ขึ้นอยู่กับว่า แมนฯ ซิตี้ จะเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้หรือไม่ในวันอาทิตย์นี้ แต่ อาร์เซนอล แสดงถึงสัญญาณที่ไม่ดีนัก พวกเขาบุกพ่าย เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดก็เจอของแสลงอย่าง เบรนท์ฟอร์ด

เลอันโดร ทรอสซาร์ อุตส่าห์ยิงนำและเป็นประตูแรกของเจ้าตัวนับตั้งแต่ย้ายมา แต่ปืนใหญ่ก็โดน ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้าตัวแสบยิงตีเสมอ ซึ่งมาจากจังหวะเซตพีซที่เป็นจุดเด่นของ เบรนท์ฟอร์ด

มันชวนให้นึกถึง ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2018-19 เมื่อลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ปล่อยให้โอกาสคว้าแชมป์หลุดมือไปแบบน่าเขกกระโหลกตัวเอง

Roberto Firmino
Liverpool FC v Arsenal FC - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages

ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล พลาดทำแชมป์หลุดมือไปเอง เพราะมีโอกาสที่จะโกยคะแนนทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ไปไกลถึง 7 แต้ม แต่พวกเขาทำแต้มหล่น บวกกับเรือใบสีฟ้าที่แรงหยุดไม่อยู่ชนะถึง 14 เกมรวด แซงคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

แน่นอนว่ามันคือเหตุการณ์ที่ อาร์เซนอล ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไฟอันลุกโชนในช่วงต้นซีซั่นเริ่มแผ่วลงไป บางทีนั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล

เบรนท์ฟอร์ด พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคือของแสลงสำหรับ อาร์เซนอล แม้ว่าตอนเจอกันครั้งแรกในซีซั่นนี้ ปืนใหญ่เป็นฝ่ายถล่ม 3-0 ก็ตาม

อาร์เซนอล ประสบปัญหาเพื่อรับมือกับสองกองหน้าอย่าง บริย็อง เอ็มเบอโม่ และ ไอวาน โทนี่ย์ ขณะเดียวกันเกมรุกของพวกเขาเองก็มีปัญหาในการเจาะเกมรับของ เบรนท์ฟอร์ด เช่นกัน

โธมัส แฟร้งค์ สั่งให้ลูกทีมจับตาย มาร์ติน โอเดการ์ด จนปั้นเกมไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เกมนี้มันแสดงให้เห็นเลยว่าทำไม มิเกล อาร์เตต้า ถึงอยากได้แนวรุกอย่าง มีไคโล มูดรีค เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้ เลอันโดร ทรอสซาร์ เข้ามาแทนก็ตาม

และก็เป็น ทรอสซาร์ นี่แหละที่ลงมาสร้างอิมแพ็คใช้เวลาไม่นานก็ยิงให้ อาร์เซนอล เป็นฝ่ายขึ้นนำ จากการเปิดของ บูกาโย่ ซาก้า ที่สำคัญคือจังหวะนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ปืนใหญ่สามารถจ่ายบอลผ่านแนวรับเบรนท์ฟอร์ดเข้าไปในเขตโทษแล้วลุ้นประตูโดยตรง

กระนั้นประตูที่ อาร์เซนอล เสียให้กับ เบรนท์ฟอร์ด มาจากแพทเทิร์นเดิม ๆ นั่นคือลูกเซตพีซ พวกเขารู้อยู่แล้วว่าทีมของ โธมัส แฟรงค์ มีจุดเด่นในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้

อาร์เซนอล เสียประตูจากเซตพีซเช่นกันตอนพ่าย เอฟเวอร์ตัน เพราะงั้นหากคู่แข่งจับไต๋และเล่นงานจุดนี้ มันก็น่าเป็นห่วงแทน โดยเฉพาะความหวังของพวกเขาที่ต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปีที่ได้พ่ายเมื่อฤดูกาล 2003/04

มันน่าสนใจที่จะได้เห็นว่า อาร์เซนอล ทำผลงานอย่างไรภายใต้ความกดดัน และพวกเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งที่ลุ้นแชมป์ได้หรือไม่

การเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ อาร์เซนอล โดยเป็นการไฮไลท์ว่าพวกเขาพร้อมสำหรับก้าวขึ้นไปอีกขั้นและทำผลงานให้คงเส้นคงวาหรือไม่ โดยมีเกมเดิมพันสูงกับ แมนฯ ซิตี้ ที่กำลังจะมาถึง งานนี้ มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมเจอบททดสอบสำคัญเข้าให้แล้ว

Mikel Arteta
Arsenal FC v Brentford FC - Premier League / Clive Mason/GettyImages