การผจญภัยของ “สกามักก้า” - FEATURE

West Ham United v Silkeborg IF: Group B - UEFA Europa Conference League
West Ham United v Silkeborg IF: Group B - UEFA Europa Conference League / Alex Pantling/GettyImages
facebooktwitterreddit

จานลูก้า สกามักก้า (23 ปี สัญญาถึงกลางปี 2027) หัวหอกค่าตัว 35.5 ล้านปอนด์ของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก เป็นฤดูกาลแรกในชีวิตของเขา หนุ่มชาวโรมโดยกำเนิดอยู่ในช่วงการผจญภัยในต่างแดนอีกครั้ง และครั้งนี้มาพร้อมกับความคาดหวังที่มากยิ่งกว่าเดิม

ที่ผ่านมานับจาก อันเดร ซิเลนซี่ กองหน้าอิตาเลียนคนแรกที่เข้ามาเล่นในพรีเมียร์ ลีก กับ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อปี 1995 กองหน้าอิตาลีอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาพิสูจน์ความสามารถของตนเอง หลายคนกลายเป็นตำนานที่น่าจดจำ หลายคนมีเรื่องราวที่น่าขมขื่นกับพรีเมียร์ ลีก และมาวันนี้ หัวหอกทีมชาติอิตาลีคนนี้กำลังจะได้มาลิ้มรสมันด้วยตนเองเป็นครั้งแรก

สกามักก้า เริ่มต้นชีวิตการเล่นฟุตบอลในกรุงโรม และเขาเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนในวงการฟุตบอลที่ผ่านการเล่นมากับ ลาซิโอ และ โรม่า สองอริร่วมเมืองโรมมาแล้วทั้งคู่ แม้จะเป็นเพียงทีมเยาวชนก็ตาม ก่อนจะหันเหชีวิตครั้งใหญ่เมื่อได้รับโอกาสจากต่างแดนด้วยวัยเพียง16 ปี ครั้งนั้น พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ยอดทีมจากเนเธอร์แลนด์ ดึงตัวเขาไปร่วมงานด้วย และมันเป็นทางเลือกที่ทั้งถูกต้อง และไม่ถูกต้องในเวลาเดียวกันสำหรับเขากับช่วงเวลา 2 ปีที่แดนกังหันลม

“ผมไม่อยากออกจาอิตาลีหรอกนะใน้วลานั้น แต่มันคือการพัฒนาตนเอง ผมเชื่อแบบนั้น การไปที่เนเธอร์แลนด์ ผมต้องการพัฒนาตัวเอง ที่นั่นเป็นสถานที่ดีที่สุดในการเรียนรู้เกี่ยวกับฟุตบอล ซึ่งผมคิดว่าด้วยอายุของผมตอนนั้นผมทำแบบนั้นไม่ได้ในอิตาลี” สกามักก้ากล่าว

Jupiler League - "Photocall Jong PSV"
Jupiler League - "Photocall Jong PSV" / VI-Images/GettyImages

“ในอิตาลี มันแตกต่างออกไปจากเนเธอร์แลนด์ ในทีมเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือว่า 19 ปี พวกเขาไม่ได้ทำงานร่วมกับนักเตะแบบตัวต่อตัว แต่พวกเขาสอนนักเตะในแบบของทีม สอนเรื่องแท็กติกการเล่น, ทำอย่างไรแล้วทีมจะชนะ แต่ในเนเธอร์แลนด์ หรือในอีกหลายประเทศสอนเกี่ยวกับการเล่นส่วนตัวของผู้เล่น”

ในช่วงเวลานั้น พีเอสวี ก็ไม่ต่างจากในยุคปัจจุบัน พวกเขาคือแถวหน้าของวงการฟุตบอล แย่งแชมป์กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ภายใต้กลุ่มนักเตะชั้นนำหลายคน และโค้ชอย่าง มาร์ค ฟาน บอลเมล รวมถึง รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งปัจจุบันคือผู้จัดการทีมชุดใหญ่ของพีเอสวี ที่เป็นคนคอยสอนเขาในฐานะดาวรุ่งไกลบ้าน ซึ่งมันส่งผลดีกับเขาอย่างมากมาย

“มันยอดเยี่ยมมากเลยกับการทำงานที่นั่น รุด สอนอะไรผมหลายอย่างในการเล่นกองหน้า คุณต้องทำงานหนักในเขตโทษ เรียนรู้ที่จะอดทนรอคอยโอกาสในพื้นที่”

อย่างไรก็ตามเส้นทางอาชีพของเขากับ พีเอสวี ก็ไม่ได้สวยงามนัก เขาลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ไปเพียง 1 เกม ที่เหลือคือการวนเวียนลงเล่นในทีมระดับเยาวชนของสโมสร ซึ่งถ้าว่ากันตามข้อมูลสถิติที่ออกมาก็ไม่ได้เริ่ดหรูอะไร เขายิงประตูได้น้อยมากแต่ก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็เลือกกลับมาเล่นในอิตาลีอีกครั้ง ด้วยวัย 18 ปี เขาเซ็นสัญญากับ ซาซูโอโล่ ทีมในระดับเซเรีย อา อิตาลี ที่ชีวิตของเขายังคงต้องผจญภัยไปอีกหลายที่ตลอดสามปีแรกที่นั่น เขาถูกปล่อยยืมไปเล่นทั้งกับ พีอีซี สวอลล์, อัสโคลี่ รวมถึง เจนัว ซึ่งกับ เจนัว นี่เองเขาเริ่มฉายแววของการพัฒนาตนเอง กับการยิงประตูในเซเรีย อา ได้เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นประตูต่อมาก็เริ่มตามมาจนจบด้วยการยิง 8 ประตูในปีนั้น และแน่นอนชื่อเสียงของเขา และโอกาสจาก ซาซูโอโล่ ก็มาถึงอีกครั้ง และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปแบบคนละเรื่องกับที่ผ่านมา เมื่อเขาทำคนเดียว 16 ประตูในเซเรีย อา และนำพาเขาไปสู่ทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ที่ตอนนี้เขาลงเล่นไปแล้ว 9 เกมกับทีมชาติ

ด้วยความสูงถึง 195 เซนติเมตร รูปร่างสูงใหญ่ แน่นอนเขาเป็นหนึ่งกองหน้าตัวเป้าในแบบที่อิตาลียังไม่มีในทีมชุดปัจจุบัน ซึ่งนักเตะเองมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นไอดอลคนสำคัญของเขา 

“ผมชอบซลาตันมาก เขาเป็นแรงบันดาลใจของผม แต่ผมไม่ได้เหมือนกับเขาหรอกนะ มันยากมากที่จะเล่นได้เหมือนเขา ผมติดตามดูเขาเล่นมาตั้งแต่เด็กสมัยที่เขาลงเล่นกับยูเวนตุส แต่ในเวลาเดียวกันผมก็ดูฟอร์มของนักเตะหลายคน ผมอยากนำส่วนดีของแต่ละคนมาใช้กับตัวเองให้ได้ ผมอยากได้ความกล้าในแบบของซลาตัน ได้ความเร็วของลูกากู และอยากได้ความสม่ำเสมอในผลงานของโรนัลโด้ พวกเขาคือกองหน้าระดับท็อปของเซเรีย อา” สกามักก้า กล่าวในช่วงฤดูกาล 2020-2021 เกี่ยวกับสไตล์ของตนเอง ซึ่งสุดท้ายนำมาซึ่งการย้ายทีมครั้งใหญ่หนล่าสุดในหน้าร้อนที่ผ่านมา กับการมุ่งหน้าสู่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เขาปฏิเสธการย้ายไปร่วมงานกับ เปแอสเช รวมถึง อินเตอร์ มิลาน เพื่อย้ายมาเล่นในอังกฤษ

“ผมได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสร แต่ เวสต์แฮม เป็นข้อเสนอที่ผมสนใจและชัดเจนว่าพวกเขาจริงจังกับการอยากให้ผมย้ายมาเล่นกับทีม และนี่คือพรีเมียร์ ลีก หนึ่งในลีกชั้นนำของโลก ผมเลือกย้ายมาที่นี่ผ่านการปรึกษากับ โรเบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาติอิตาลีด้วย และเขาระบุว่ามันเป็นลีกที่ดี และเหมาะสมกับผมในการพัฒนาตัวเองต่อไป”

Michail Antonio, Gianluca Scamacca
Southampton FC v West Ham United - Premier League / Julian Finney/GettyImages

อย่างไรก็ตามเส้นทางผจญภัยก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด สามเดือนแรกของการเล่นกับ เวสต์แฮม เขายังคงวนเวียนกับตัวจริง และตัวสำรองกับการแย่งชิงตำแหน่งกับ มิคาอิล อันโตนิโอ หัวหอกจาไมก้า และการปรับตัวในอังกฤษที่ยังคงเกิดขึ้นต่อไป โดยเขายอมรับว่า เอริค คันโตน่า อดีตสตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติฝรั่งเศส คือแรงบันดาลใจของเขากับการเล่นในอังกฤษ แม้ว่าเขาจะเกิดไม่ทันเห็นคันโตน่าลงเล่นจริง ๆ ด้วยซ้ำ แต่กับการได้เห็นคลิปสัมภาษณ์ของอดีตหัวหอกปีศาจแดง มันเข้าถึงความรู้สึกของเขาอย่างยิ่ง

“ผมนั่งดูคลิปการเล่นของเขา และในโฆษณาไนกี้ที่เขาเคยถ่ายเอาไว้ เขาดูเท่ และดูมั่นใจในการทำงานตลอดเวลา ไม่กลัวอะไรเลย และท้าทายกับทุกเรื่องที่เข้ามา การเล่นของเขาน่าตื่นเต้น และผมพยายามศึกษาการเล่นของเขาอย่างมาก รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง ผมบอกตัวเองเสมอว่าตอนนี้ที่เป็นอยู่มันยังแค่ 70 % ของความสามารถของผมเท่านั้น ยังมีพื้นที่พัฒนาตัวเองได้อีกเยอะ”

เวสต์แฮม ในฤดูกาลนี้ลงทุนไปมากกว่าหนึ่งร้อยล้านปอนด์กับผู้เล่นใหม่ 10 คนในทุกพื้นที่ของสนาม เพื่อโอกาสในการสร้างผลงานให้ดีในลีก หนึ่งในนั้นคือการเซ็นสัญญากับ ลูคัส ปาเกต้า กองกลางทีมชาติบราซิล เจ้าของค่าตัวสถิติของสโมสร ซึ่ง สกามักก้า ยอมรับว่าเขาเข้ากันได้ดีกับกองกลางแซมบ้า และเชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ลงเล่นร่วมกันมากขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องของจำนวนประตูที่ต้องบอกว่ายังคงห่างไกลจากที่เขาเคยทำได้กับ ซาซูโอโล่ ฤดูกาลที่แล้ว

“การเล่นในพรีเมียร์ ลีก เป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวอย่างมาก มีหลายสิ่งที่ต่างจากที่เคยเล่นมาก่อน ผมไม่ได้ใส่ใจหรอกว่าผมจะโดนเปรียบเทียบกองหน้าคนไหน (สกามักก้า โดนเปรียบเทียบกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษปีแรกเช่นกัน และทำผลงานได้อย่างสุดยอด) ผมสนใจแค่งานของตัวเอง ผมต้องดีที่สุดของตัวเองให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากได้”

Gianluca Scamacca
West Ham United v Fulham FC - Premier League / Alex Pantling/GettyImages

“ชีวิตนอกสนามก็แตกต่างออกไป อังกฤษ ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม ผมสนุกกับมัน และมีความสุขกับฟุตบอลที่นี่ แฟนบอลสนับสนุนเราอย่างมากในฐานะของนักเตะใหม่ ฟุตบอลที่นี่เล่นกันด้วยพละกำลัง และความเร็ว ต่างจากในอิตาลีที่เต็มไปด้วยเรื่องของแท็กติก มันคือความต่างที่มันจะดีขึ้นได้แน่”

“ตอนนี้ผมมีความสุขกับที่นี่ เหมือนกับตอนที่ เอเยนต์ มาบอกกับผมว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ติดต่อเข้ามา และผมบอกกลับไปว่า เรามาลองไปที่นั่นด้วยกันเถอะนั่นละ ผมอยากดีกว่านี้ เก่งกว่านี้ และประสบความสำเร็จกับที่นี่ให้ได้”

เส้นทางของ สกามักก้า กับชีวิตในอังกฤษเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด