'เหย้า' กับ 'เยือน' ความแตกต่างที่อาจฉุดรั้ง แมนยู ให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน - FEATURE
ก็เพียงไม่ทันขาดคำจากที่ลงท้ายเรื่อง "หมดยุค โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รีสอร์ท&สปา" ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องระมัดระวังเกมที่ แอนฟิลด์ ให้ดี เมื่อพบว่าผลงานนัดเยือนของพวกเขาในฤดูกาลนี้ ไม่ค่อยจะดี และไม่ดีมากๆ เลยด้วยเมื่อยกไปเทียบกับผลของเกมเหย้า
แต่ก็อาจไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์สังหารโหดขึ้นในแดงเดือดหนล่าสุด เมื่อ เอริค เทน ฮาก อ่านภาษาไทยไม่ออก ...หรือถึงออก เขาก็อาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อยู่ดี
เพราะในขณะที่ผลงานเกมเหย้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ สวยสดงดงามระดับติดริบบิ้นโบว์แดง ก็ปรากฏว่าผลงานเกมเยือนของพวกเขาอยู่ในระดับที่ต้องติดโบว์ดำช้ำใจ ไว้อาลัยสักครู่
เกมเหย้า 19 นัดหลัง ชนะ 17 เสมอ ไม่แพ้ใครเลยทั้งสิ้น
เกมเยือน 18 นัดหลัง ชนะแค่ 10 เสมอ 3 และแพ้ไปถึง 5
โดยที่หนึ่งในนั้นก็คือเกมล่าสุด... แมนเชสเตอร์ 07 ยูไนเต็ด
เทน ฮาก อาจกล่าวไว้ก่อนเกมกับ ลิเวอร์พูล ว่า "สำหรับผมแล้วมัน (ระหว่างเหย้ากับเยือน) ไม่ได้ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นสนามไหน ขนาดของสนามมันก็เท่าๆ กัน กรรมการในสนามมี 3 คนเหมือนกัน กรรมการที่ 4 ก็มีอยู่ทุกเกม ส่วนลูกบอลก็เป็นทรงกลมเหมือนกัน แถมในลูกฟุตบอลก็มีลมพอๆ กันด้วย จริงไหม?"
ที่น้าพูดมาน่ะจริงไหม... บางที ด้วยสิ่งที่ปรากฏกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อาจต้องบอกว่า "ไม่จริง!"
ผลงานนัดเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้
- 13/08/22 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 (พรีเมียร์ลีก)
27/08/22 ชนะ เซาแธมป์ตัน 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
01/09/22 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
15/09/22 ชนะ เชริฟฟ์ ติราสโปล 2-0 (ยูโรป้า ลีก)
02/10/22 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-6 (พรีเมียร์ลีก)
06/10/22 ชนะ โอโมเนีย นิโคเซีย 3-2 (ยูโรป้า ลีก)
09/10/22 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
22/10/22 เสมอ เชลซี 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
03/11/22 ชนะ เรอัล โซเซียดัด 1-0 (ยูโรป้า ลีก)
06/11/22 แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
13/11/22 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
31/12/22 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
18/01/23 เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
22/01/23 แพ้ อาร์เซน่อล 2-3 (พรีเมียร์ลีก)
25/01/23 ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 (คาราบาว คัพ)
12/02/23 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
16/02/23 เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 (ยูโรป้า ลีก)
05/03/23 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-7 (พรีเมียร์ลีก)
เพื่อให้ชัดขึ้นกว่าผลการแข่งขัน ด้านล่างนี้ก็คือการ "ถอดรหัส" ผลงานเกมเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เห็นและเป็นมาตลอด 7 เดือนเศษ
- ลงสนามเกมเยือน 18 นัดรวมทุกรายการ ชนะได้แค่ 10 เกม หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะแค่ 55%
- ที่เหลืออีก 8 แบ่งเป็นเสมอ 3 และแพ้ 5
- เหล่านี้ ไม่นับ 2 เกมอุ่นเครื่องตอนก่อนเปิดครึ่งซีซั่นหลัง ทริปเยือนสเปน ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้กลับมาทั้ง 2 นัด 2-4 กาดิซ และ 0-1 เรอัล เบติส
- 18 เกมเยือนที่ผ่านมา เป็นในพรีเมียร์ลีกจำนวน 13 นัด ยูโรป้า ลีก 4
- เอฟเอ คัพ ยังไม่ได้ออกไปเยือนใคร ส่วน คาราบาว คัพ ที่เช็คบิลแชมป์ไปแล้ว มีนัดเยือนเกมเดียวถ้วนคือออกไปกราดยิง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 (และสนามกลางที่ เวมบลีย์ นัดชิง)
- ใน ยูโรป้า ลีก ชนะ 3 เกมรวดในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็เป็นการอัดทีมต่ำศักดินาอย่าง เชริฟฟ์ ติราสโปล, โอโมเนีย นิโคเซีย หรือ เรอัล โซเซียดัด จนพอมาเจอ บาร์เซโลน่า รอบน็อกเอาต์เพลย์ออฟ ก็เอาชนะไม่ได้ เสมอกลับมา 2-2
- จากเกมเยือนพรีเมียร์ลีกนัดแรกสุดที่แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 ก็ให้น่าประหลาดใจว่านั่นคือการแพ้นัดเยือนติดต่อกัน 7 เกมซ้อน นับรวมช่วงท้ายซีซั่น 2021/22 ของ ราล์ฟ รังนิค
- จาก 18 เกม มีแค่ 2 นัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โกงความตาย พลิกแซงชนะได้จากการตามหลัง คือเกมพบ โอโมเนีย นิโคเซีย ที่โดนนำ 1-0 แซงเป็น 3-1 ก่อนชนะ 3-2 และพบ เอฟเวอร์ตัน โดนนำ 1-0 แซงชนะ 2-1 นอกนั้นถ้าไม่เสมอ ก็แพ้ไปเลยเมื่อโดนนำ
- จำกัดวงแคบลง เป็นเกมเยือน 10 นัดหลังสุด (ทุกรายการ) จะได้ผลเป็น ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 3 ซึ่งก็ไม่ได้ดูดีอะไรอีกเหมือนกัน
- ส่วนถ้าแคบลงอีก เหลือแค่สัก 6 เกมหลัง อันนี้ถือว่าหนักเลย เพราะผลคือ ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2
- ขณะที่ถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ลีก นัดเยือน 13 เกม แมนยู ชนะแค่ 6 เสมอ 2 แพ้ไปถึง 5
- ถ้านับรวมแต้มจากเกมเยือน ซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ 20 คะแนน สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากแค่ อาร์เซน่อล (31) กับ แมนฯ ซิตี้ (24) เพียงแต่ว่าจำนวนเกมแพ้ 5 นัด ก็มากกว่าหลายๆ ทีม ไม่ว่าจะ นิวคาสเซิ่ล (2), ไบรท์ตัน (3) หรือ เบรนท์ฟอร์ด (3)
- ส่วนการโดน ลิเวอร์พูล เจาะตาข่าย 7 เม็ดในเกมล่าสุด ทำให้ปีศาจแดงเสียรวม 27 ประตูจาก 13 นัดเยือน รั่วที่สุดเป็นอันดับ 4 ถัดจาก บอร์นมัธ (35), ฟอเรสต์ (29) และ เลสเตอร์ (29)
- ความต่างระหว่าง "เหย้า" กับ "เยือน" ตอนนี้ อยู่ที่ 9 คะแนน (เหย้า 29, เยือน 20) และในขณะที่เพิ่งแพ้คาบ้านไปแค่เกมเดียว (1-2 ไบรท์ตัน นัดเปิดสนาม) พวกเขาก็แพ้นัดเยือนแล้วถึง 5 เกม
- ในบ้าน เสียแค่ 8 ประตูจาก 12 นัด / นอกบ้าน เสีย 27 ประตูจาก 13 เกม (4 คลีนชีต)
- นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ต้องใช้คำว่า "นานมาแล้ว" ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งลำชนะนัดเยือนได้ 3 เกมติดต่อกันขึ้นไป (ซีซันนี้อย่างเก่งชนะติดกัน 2 นัด) โดยหนล่าสุดคือกลางปีจนถึงท้ายปี 2020 ที่ทำไว้ดีเชียวล่ะ ชนะนอกบ้าน 10 เกมรวด
- ถัดจากนั้นแล้ว ชนะเกมเยือนรวดยาวๆ ไม่มี มีแต่แพ้รวด 7 นัดซ้อน และซีซั่นนี้สลับแพ้เป็นพักๆ
นั่นคือทั้งหมดของการถอดรหัสผลงานเกมเยือนผีแดง ที่ก็คงต้องบอกว่า "ไวรัสนัดเยือน" จากยุค ราล์ฟ รังนิค ยังแก้ไม่หาย เอริค เทน ฮาก ยังทำได้แค่ประคับประคองไข้ (ส่วนที่แก้ได้แล้วคือเกมเหย้า อย่างที่ทราบ)
สำหรับที่รออยู่ตรงหน้า ยังมีอย่างน้อยอีก 7 นัดเยือน และอาจเพิ่มมากกว่านี้ได้ตามก้าวเดินในบอลถ้วย ทั้ง ยูโรป้า ลีก และ เอฟเอ คัพ
- 16/03/23 เรอัล เบติส (ยูโรป้า ลีก)
02/04/23 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
15/04/23 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
27/04/23 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
06/05/23 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
20/05/23 บอร์นมัธ
*** ไบรท์ตัน (พรีเมียร์ลีก, เลื่อนจาก 19 มี.ค. โดยยังไม่ได้คิวเตะใหม่)
สิ่งที่หมายความตามมาจาก 7 เกมเยือนที่เหลืออยู่ (ย้ำว่ายังมีสิทธิ์เพิ่มขึ้นได้อีก) ก็คือการโรมรันของซีซั่น 2022/23 กำลัง "งวดก้นหม้อ" ลงทุกขณะ
และภาพที่เป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด จนถึงตรงนี้ ก็คือความ "แข็งใน - อ่อนนอก"
ความแตกต่างนี้จะทำให้บทสรุปของซีซั่น 2022/23 ออกมาในรูปไหน
จับตาดูกันอีก 3 เดือน คำตอบจะปรากฏชัด