เอนดริค อนาคตทัพแซมบ้ากับการลงทุนครั้งใหม่ของ เรอัล มาดริด - FEATURE

Palmeiras v America MG - Brasileirao 2022
Palmeiras v America MG - Brasileirao 2022 / Ricardo Moreira/GettyImages
facebooktwitterreddit

เอนดริค เฟลิเป้ (16 ปี) กลายเป็นนักเตะค่าตัวมหาศาลอีกหนึ่งคนของวงการฟุตบอลบราซิล หลังการเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด เกิดขึ้นแล้วด้วยมูลค่าตามรายงานจากสื่อว่า พัลไมรัส ได้รับเงินมากถึง 60 ล้านยูโร ซึ่งหากรวมภาษีแล้วจะมีมูลค่าสูงประมาณ 72 ล้านยูโร

กองหน้า “วันเดอร์คิด” คนใหม่ของวงการฟุตบอลบราซิลกลายเป็นนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปีที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนใหม่ แซงหน้า โรดรีโก้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งย้ายไปร่วมงานกับ เรอัล มาดริด ก่อนหน้านี้ด้วยค่าตัวประมาณ 45 ล้านยูโร และเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนคือตัวหลักของสโมสร และก้าวไปสู่ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว

เอนดริค เป็นกองหน้าถนัดเท้าซ้ายเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลด้วยวัยเพียง 4 ปี แน่นอนเขาเกิดในบราซิล ประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ฟุตบอลคือลมหายใจของเด็กหนุ่มแทบทุกคน ความฝันในการเป็นนักเตะอาชีพ, ย้ายไปเล่นฟุตบอลในยุโร และได้เล่นฟุตบอลโลกกับทีมชาติบราซิล ทั้งหมดคือความฝันของคนนับล้าน และหนึ่งในนั้นคือเอนดริค ผู้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพ่อของเขา “ดั๊กลาส ซูซ่า” ผู้ซึ่งผลักดันเขาอย่างเต็มที่ สุดท้าย เอนดริค ได้รับการเซ็นสัญญากับ พัลไมรัส ด้วยวัยเพียง 11 ปี

Endrick
Palmeiras v America MG - Brasileirao 2022 / Ricardo Moreira/GettyImages

169 เกม 165 ประตู คือสถิติที่ได้รับการระบุไว้เป็นสถิติในทีมเยาวชนของเขาตลอดร่วม 5 ปี และเขาสร้างสถิติการลงเล่นในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์เยาวชนของรัฐเซาเปาโลด้วยการทำคนเดียว 7 ประตู ภายใน 7 เกม พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของรายการนั้น และเขาถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลังจากนั้นทันที

6 ตุลาคม 2022 เขาประเดิมการลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของพัลไมรัสเป็นครั้งแรกด้วยวัย 16 ปี 2 เดือน 16 วัน ก่อนที่อีก 3 สัปดาห์ต่อมาเขาจะยิงประตูแรกกับทีมได้ โดยถึงปัจจุบันเขาลงเล่น 7 เกมทำไป 3 ประตู ในเกมลีก และลงเล่นในทุกรายการ 14 เกม 9 ประตู พร้อมครองสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของพัลไมรัส

เรอัล มาดริด คือหนึ่งในสโมสรที่ชัดเจนที่สุดในการอยากได้ตัวเขา โดยนักเตะเองก็มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นไอดอลคนหนึ่งของเขาอยู่แล้ว โดยได้รับการยืนยันจากพ่อของเขาเอง

“เอนดริคเป็นแฟนบอลของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม และเขาก็บอกกับผมว่า “พ่อผมอยากเป็นอยากคริสเตียโน่” เขาอ่านเรื่องราวของโรนัลโด้เยอะมาก เขารู้ว่าโรนัลโด้ไม่มีรอยสัก เพราะเขาต้องการที่จะบริจาคเลือดได้เขาก็ทำตาม” พ่อของเอนดริคกล่าว

การเจรจาย้ายทีมของเขาใช้เวลานานหลายเดือน เปแอสเช พยายามเจรจาโน้มน้าวใจทั้งสโมสร และตัวผู้เล่น แต่สุดท้ายแล้วตัวนักเตะและครอบครัวก็เลือกเรอัล มาดริด ซึ่งตามข้อมูลจากพ่อของนักเตะระบุว่า เมื่อ เรอัล มาดริด แน่ชัดแล้วว่านักเตะเลือกสนใจจะย้ายมาเล่นกับทีม พวกเขาก็ตัดสินใจเดินเรื่องยื่นข้อเสนอขอซื้อผู้เล่นอย่างเป็นทางการ และประสบความสำเร็จในที่สุด

Endrick, Marcos Rocha
Palmeiras v Avai - Brasileirao 2022 / Alexandre Schneider/GettyImages

ด้วยความที่ถนัดเท้าซ้ายทำให้เขาหนีไม่พ้นกับการโดนนำไปเปรียบเทียบกับกองหน้ารุ่นลุงรุ่นน้าอย่าง โรมาริโอ หรือว่า อาเดรียโน่ ซึ่งจากคลิปที่ออกมาในโกลออนไลน์จะเห็นได้ว่าเด็กคนนี้เล่นบอลด้วยความเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง และนั่นเป็นที่ถูกใจเรอัล มาดริด อย่างมาก เพราะอยากได้ตัวแทนของ คาริม เบนเซม่า ในอนาคต โดยการเซ็นสัญญาเป็นการเซ็นสัญญาล่วงหน้า โดยมีสัญญากับทีมจนถึงปี 2027 โดยปล่อยให้นักเตะลงเล่นกับพัลไมรัส จนถึงเดือนกรกฎาคม 2024 ถึงเวลานั้น เอนดริคจะอายุครบ 18 ปีเต็ม และในสัญญายังมีการระบุว่าเรอัล มีออฟชั่นในการต่อสัญญานักเตะได้ถึงกลางปี 2030

เรอัล มาดริด ในยุคการกลับมานั่งแท่นประธานสโมสรเรอัล มาดริดรอบสองของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ในปี 2009 เป็นต้นมา เริ่มต้นการสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการเซ็นสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า และ คาริม เบนเซม่า ที่สะเทือนกันไปทั้งวงการ ก่อนที่พวกเขาจะมีการลงทุนต่อเนื่องเรื่อยมา อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไป พวกเขาก็เริ่มมีการเปลี่ยนแผนงานในการลงทุนเกี่ยวกับ ดาวรุ่งฟอร์มดีมาตั้งแต่ช่วงปี 2011 เป็นต้นมา กับการเซ็นสัญญา ราฟาแอล วาราน ที่ตอนนั้นอายุแค่ 18 ปี จากสโมสรลองส์ ซึ่ง ณ เวลานั้น ซีเนอดีน ซีดาน ที่ยังไม่เข้ามารับงานผู้จัดการทีมเป็นคนแนะนำให้ เรอัล มาดริด เลือกเซ็นสัญญากับเด็กหนุ่มคนนี้จนต่อมาอยู่กับทีมนานถึง 10 ปี เป็นแกนหลักคนสำคัญจนกระทั่งย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่แล้ว ด้วยค่าตัวเกือบ 50 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นตลอดแทบทุกปี พวกเขาเริ่มมองการลงทุนกับนักเตะอายุน้อยบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น คาเซมิโร่, อิสโก้, ดานี่ คาบาฆาล, มาเตโอ โควาซิช, มาร์โก อเซนซิโอ, วินิซิอุส, โรดรีโก้, ดานี่ เซบายอส หรือว่า เรนิเยร์ และล่าสุดกับ เอนดริค ซึ่งในวันที่ย้ายมานักเตะเหล่านี้ อายุไม่เกิน 23 ปีทั้งสิ้น เมื่อนำไปผสมผสานกับการลงทุนกับสตาร์รุ่นกลางที่อายุไม่เกิน 28 ปี เรอัล มาดริด ที่มีโครงสร้างทีมที่ดีมากอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงเดินหน้าไปได้ด้วยความแข็งแกร่งทั้งการเงินที่มี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ มาบริหาร และมี ซีเนอดีน ซีดาน เข้ามามารับงานผู้จัดการทีม อาจจะมีช่วงฟอร์มตกหล่นบ้าง แต่เมื่อมองในผลงานโดยรวมแล้ว พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการบริหารงาน ทั้งตัวผู้เล่น และถ้วยรางวัล

สเปน เป็นหนึ่งในหมุดไมล์ของนักเตะอเมริกาใต้เนื่องจากใช้ภาษาสเปน และโปรตุเกส ที่มีระบบการอ่าน การใช้งานคล้ายคลึงกันเป็นภาษาหลักของประเทศ ซึ่ง บราซิล ก็ใช้ภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาหลัก แถมเรื่องของสภาพอากาศก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันกับในอเมริกาใต้ บรรยากาศสบายกว่าหลายประเทศที่มีลีกท็อปของยุโรป อย่างเช่น พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่มีทั้งฝนตก และหิมะให้ต้องเจอ ที่สำคัญ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ก็คือบิ๊กทีมของวงการฟุตบอล ขณะที่ ลา ลีกา ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นลีกระดับคุณภาพของวงการฟุตบอลอยู่แล้ว ดังนั้นนี่เป็นข้อได้เปรียบหนึ่งของลีกสเปน และแน่นอนรวมถึงเรอัล มาดริด โดยตรง

อย่างไรก็ตาม “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน” ยังคงเป็นประโยคที่ใช้ได้ทุกครั้งไม่ว่าจะลงทุนกับอะไร สิ่งใด กับใครก็ตาม เอนดริค ก็คือการลงทุนครั้งสำคัญอีกครั้งที่คงต้องรออีกอย่างน้อย 2 ปีว่า สุดท้ายแล้วการลงทุนครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แต่วันนี้เด็กคนนี้จะถูกจับตามองในทุกเกมที่เขาลงเล่นและมีเรื่องราวให้ต้องติดตามกันไปอีกหลายปีอย่างแน่นอน กับการลงทุนครั้งใหม่ระดับครึ่งร้อยล้านยูโรครั้งนี้ของยักษ์ใหญ่แห่งสเปน ผู้ซึ่งมักมีชัยมากกว่าล้มเหลวในการลงทุนกับนักเตะอายุน้อยเช่นนี้