ตัวอาร์เจนไตน์แต่ใจ "ปีศาจแดง" เปิดรายชื่อ 8 นักเตะ อาร์เจนตินา ที่เคยมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - FEATURE
เซ็นสัญญากันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ตัวรับชาวอาร์เจนไตน์วัย 24 ปีอดีตศิษย์เก่าของ เอริค เทน ฮาก ที่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาสบทบกับเจ้านายเก่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 46.5 ล้านปอนด์ซัมเมอร์นี้
โดยการมาของ มาร์ติเนซ ถือเป็นนักเตะอาร์เจนตินารายที่ 8 แล้วที่เคยย้ายมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันนี้เราจึงอยากพาแฟน ๆ 90MiN ย้อนกลับไปชมกันว่าเคยมีนักเตะเลือดฟ้าขาวคนใดบ้างที่เคยเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และแต่ละคนประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนตามไปชมกัน...
1. ฮวน เซบาสเตียน เวรอน
เวรอน ถือเป็นนักเตะ อาร์เจนไตน์ คนแรกของทัพปีศาจแดง โดยกองกลางรายนี้ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับ เอสตูเดียนเตสเในบ้านเกิดก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ โบคา จูเนียร์ส ในฤดูกาล 1995/96 โดยปีต่อมา สเวน โกรัน อีริกส์สัน กุนซือ ซามพ์โดเรีย ในสมัยนั้น เห็นแววและดึงเขามาร่วมทีมในปี 1996 ก่อนที่เจ้าตัวจะได้เล่นให้กับทั้งปาร์มา และ ลาซิโอ ในเวลาต่อมากวาดแชมป์รายการต่างๆ มากมาย จนไปเตะตาบิ๊กบอสอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเป็นสถิติฟุตบอลอังกฤษ เมื่อปี 2001
เซบา ได้สร้างความคาดหวังให้กับสาวกผีแดงว่าเขาจะระเบิดฟอร์มสุดยอด พาทีมกวาดแชมป์เหมือนที่เคยทำที่อิตาลี แต่สิ่งนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้น เวรอน ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2 ปี และเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้ ลงสนามให้ทีมไป 81 นัดทำได้ 11 ประตูกับ 15 แอสซิสต์ จะย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในปี 2003
2. กาเบรียล ไฮน์เซ
กาเบรียล ไฮน์เซ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ ในบ้านเกิดก่อนจะย้ายมายุโรปครั้งแรกกับ เรอัล บายาโดลิด ในปี 1997 โดยเขาได้สะสมประสบการณ์กับทีมดังแห่ง ลาลีกา 3 ปี และเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่เห็นฟอร์มของเขาและดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2001 เขากลายเป็นตัวหลักในถิ่น ปาร์ด เดอ แปรงส์ แทบจะทันที จนกระทั่งหน้าร้อนปี 2004 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จัดการเซ็นสัญญากับแบ็คซ้ายชาว อาร์เจนไตน์ รายนี้มาร่วมทีม
ตลอดเวลาที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไฮน์เซ นับว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอแม้จะเคยมีอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาวไปบ้าง แต่แฟน ปีศาจแดง ก็ยังสนับสนุนแบ็คซ้ายรายนี้จนหายเจ็บกลับมาและเป็นกำลังสำคัญของทีมในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2006/07 อีกด้วย
ไฮน์เซ ปิดฉากการค้าแข้ง 3 ปีที่โรงละครแห่งความฝันได้อย่างสวยหรู ก่อนย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด ในปี 2007
3. คาร์ลอส เตเบซ
คาร์ลอส เตเบซ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลกับทีม โบคา จูเนียร์ส ในปี 2001 และประสบความสำเร็จอย่างสูงที่นั่น ก่อนจะย้ายไปเล่นที่ บราซิล กับ โครินเธียนส์ และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2005 จน เวสต์แฮม เห็นฟอร์มและดึงตัวกองหน้าร่างเล็กรายนี้สู่เกาะอังกฤษในปีต่อมา
เตเบซ มีส่วนช่วยให้ ทัพขุนค้อน รอดพ้นจากการตกชั้นได้สำเร็จ ก่อนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะดึงเขามาร่วมทีมในปีถัดมาด้วยสัญญายืมตัว 2 ฤดูกาล โดยปีแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เตเวซ กดไป 19 ประตูจากทุกรายการ กลายเป็นความหวังใหม่ในการจบสกอร์ให้กับทีม แต่ซีซันต่อมาสโมสรมีปัญหากับเอเยนต์ในการตกลงเรื่องการซื้อขาดศูนย์หน้าขาบู้รายนี้ จนถึงขั้นมีการฟ้องร้องขึ้นศาล
สุดท้ายเจ้าตัวเลือกย้ายไปเล่นให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2009 สร้างความไม่พอใจให้กับสาวก เร้ดเดวิลส์ เป็นอย่างยิ่ง จนถึงขั้นมีการเอาเสื้อของเขามาเผาทำลายและตีตราว่าเป็นคนทรยศกันเลยทีเดียว
4. อังเคล ดิ มาเรีย
ดิ มาเรีย เริ่มต้นค้าแข้งที่บ้านเกิดก่อนที่จะโบยยินสู่ยุโรปกับ เบนฟิก้า ใน โปรตุเกส ด้วยวัยเพียง 19 ปี เขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในปี 2010 ก่อนที่จะเป็น เรอัล มาดริด ที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในปีต่อมา
เจ้าตัวพา ราชันชุดขาว คว้าแชมป์รายการต่างๆ มากมาย รวมถึงถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2014 แต่ถึงกระนั้น ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรทัพ โลส บลังโกส ก็ตัดสินใจขายสตาร์รายนี้ออกจากทีมและเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด อีกเช่นเคยที่รับช่วงต่อ ปีกมากพรสวรรค์รายนี้ด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 60 ล้านปอนด์
โดยช่วงต้นฤดูกาลปีกรายนี้ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสมราคา แต่โชคร้ายที่ต่อมาเขามักจะมีอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เล่นงาน ช่วงท้ายของซีซั่นเขามักจะถูกกุนซือจอมปรัชญาของ ปีศาจแดง ในขณะนั้นอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล จับไปเล่นเป็นศูนย์หน้าอยู่บ่อยๆ จนทำให้ฟอร์มของเขาเริ่มดิ่งลง ถึงขนาดที่เคยถูกแฟนบอลทีมตัวเองโห่ใส่ แถมหลังจบฤดูกาลก็ถูกสื่อขนานนามว่าเป็นการซื้อตัวที่แย่ที่สุดในปีนั้น แล้วจู่ๆ ซีซั่นต่อมา ดิ มาเรีย กลับไม่ยอมร่วมเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นกับทีม พร้อมทั้งแจ้งกับสโมสรว่าเขาไม่มีความสุขกับการค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝันอีกต่อไป
ไม่นานหลังจากนั้น ปีศาจแดง ก็ประกาศปล่อยตัว ปีกเจ้าปัญหารายนี้ให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 44 ล้านปอนด์ พร้อมกับคำสาปส่งจากสาวก เร้ดเดวิลส์ มากมาย ผู้ไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ไม่เป็นมืออาชีพของปีกชาว อาร์เจนไตน์ รายนี้
5. มาร์กอส โรโฮ
หลังจบศึกฟุตบอลโลกปี 2014 แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจคว้าตัว โรโฮ เสริมความแข็งแกร่งในเกมรับ โดยก่อนหน้านั้น กองหลังดีกรีรองแชมป์โลก สร้างชื่อมากับ เอสตูเดียนเตส ต่อมาย้ายไป รัสเซีย กับทีม สปาร์ตัก มอสโก ตามด้วย สปอร์ติง ลิสบอน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เขามักจะเป็นได้เพียงอะใหล่ที่จะถูกส่งลงเล่นในยามที่แผงหลังตัวหลักไม่สามารถลงสนามได้เท่านั้น โดย โรโฮ อยู่กับปีศาจแดง 6 ปี ได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 112 เกมเท่านั้น
6. เซร์คิโอ โรเมโร
นายด่านดีกรีรองแชมป์โลกเมื่อปี 2014 รายนี้เป็นนายทวาร อาร์เจนไตน์ รายเดียวที่เคยย้ายเข้ามายัง โรงละครแห่งความฝัน โดย โรเมโร เริ่มต้นการเป็นมือกาวกับสโมสร ราซิง คลับ ใน อาร์เจนตินา ก่อนย้ายมาโชว์ฟอร์มที่ เนเธอร์แลนด์ กับ อาแซด อัลค์มาร์ ในปี 2007 ต่อด้วย ซามพ์โดเรีย ที่ อิตาลี ในปี 2011 และมาบรรจบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2015
แต่ดูเหมือนว่าหลังจากย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ เร้ดเดวิลส์ อนาคตของเจ้าตัวก็ดูจะเริ่มดับลงทีละนิด เพราะไม่ว่าจะโชว์เซฟมากแค่ไหนเป็นได้แค่พระรองของเบอร์ 1 อย่าง ดาบิด เด เกอา เท่านั้น ถึงขนาดมีบ้างช่วงที่นายด่านชาวสเปนฟอร์มตกก็ยังคงไม่ได้รับโอกาส แถมยังเคยถูกดรอปในฟุตบอลถ้วยรอบลึก ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวลงทำหน้าที่มาได้ดีโดยตลอด โรเมโร ลงเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเพียง 61 เกมและเป็นการลงเฝ้าเสาในลีกเพียง 7 นัดเท่านั้นตลอด 7 ปีกับ ปีศาจแดง
7. อเลฮานโดร กานาโช
ตัวรุกดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินาชุดเล็ก ย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนในปี 2020 จนกระทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาในวัย 18 ปีดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเริ่มสร้างชื่อและขึ้นมามีบทบาทกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยได้รับโอกาสลงสนามใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 2 เกมในฐานะตัวสำรอง
8. ลิซานโดร มาร์ติเนซ
และแล้วก็มาถึงแข้งอาร์เจนไตน์รายล่าสุดที่ย้ายมาสู่รัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด สำหรับตัวรับวัย 24 ที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรับตั้งแต่เซ็นเตอร์แบ็ค ฟูลแบ็ค รวมถึงมิดฟิลด์ตัวรับ แถมยังทำผลงานได้ดีกับ อาแจ็กซ์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจน เอริค เทน ฮาก เลือกที่จพนำตัวเขาเข้ามาขันน็อตในเกมรับที่เป็นปัญหาอย่างยิ่งตลอดกลายปีที่ผ่านมา ก็ต้องมาลุ้นกันว่าที่สุดแล้ว มาร์ติเนซ จะตอบสนองความคาดหวังของแฟน ๆ ได้มากน้อยเพียงใดในฤดูกาลที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้ !
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด