ย้อนรอย 7 แข้งดัง พรีเมียร์ลีก ที่โชว์ฟอร์มดีในปีที่ต้นสังกัดต้องตกชั้น - FEATURE

  • ทุกสโมสรจะมีนักเตะตัวชูโรงประจำทีม แม้อาจจะไม่ใช้แข้งระดับซุเปอร์สตาร์
  • แข้งเหล่านี้โชว์ฟอร์มได้ดีแต่บางทีก็ไม่สามารถช่วยทีมให้รอดตกชั้น
Paolo Di Canio of West Ham United and Paul Scholes of Manchester United
Paolo Di Canio of West Ham United and Paul Scholes of Manchester United / Phil Cole/GettyImages
facebooktwitterreddit

ทุกสโมสรฟุตบอลมักจะมีนักเตะ "ตัวชูโรง" ที่เปรียบเสมือนซุเปอร์สตาร์ประจำทีมกับฝีเท้าที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็กก็ตาม และบรรดาผู้เล่นเหล่านั้น มักจะสร้างความมหัศจรรย์และผลกระทบให้กับเกมได้อยู่เสมอ

วันนี้เราจะพาไปพบกับอดีต 7 ดาราประจำทีมที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ไม่สามารถช่วยให้ต้นสังกัดอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก โดยจะมีใครบ้าง ตามไปชมกัน


7. ชาร์ลี อดัม (แบล็คพูล ฤดูกาล 2010-2011)

Charlie Adam, Jabo Ibehres
MK Dons v Blackpool-Carling Cup 2nd Round / Shaun Botterill/GettyImages

แฟนบอลลีกสุงสุเมืองผู้ดีหลายคนอาจลืมไปแล้วว่า แบล็คพูล เคยโลดแล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก มาก่อน โดยย้อนกลับไปในซีซัน 2010-11 อดัม ถือเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของพลพรรค “เดอะ ซีไซเดอร์ส” อย่างแท้จริง

แม้ แบล็คพูล จะตกชั้นในวันสุดท้ายของฤดูกาล แต่ อดีตห้องเครื่องทีมมชาติสก็อตแลนด์ ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ PFA (Player of the Year) หลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมมีส่วนร่วมโดยตรงกับ 22 ประตู ในทุกการแข่งขัน

หลังจาก แบล็คพูล ลงไปเล่นในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ดาวเตะ “วิสกี้” ก็ย้ายไปค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวราว 6 ล้านปอนด์

6. เคร็ก เบลลามี่ (โคเวนทรี ฤดูกาล 2000-2001)

Craig Bellamy, Michael Duberry
Craig Bellamy, Michael Duberry / Ben Radford/GettyImages

  หลังจากอยู่ในลีกสูงสุดมายาวนานถึง 34 ปี ในที่สุด โคเวนทรี ก็ตกชั้นในปี 2001 และสิ่งเดียวที่น่าจดจำในฤดูกาลสุดท้ายของพวกเขา คือ ฟอร์มอันร้อนแรงของกองหน้าอย่าง เบลลามี ซึ่งพยายามอย่างเต็มที่ด้วยการซัดไป 6 ประตู

ในห้วงที่ผ่านมา อดีตดดาวยิงทีมชาติเวลส์ เคยยอมรับว่า ไม่มีความสุขกับช่วงเวลา 1 ปี กับ โคเวนทรี  และไม่น่าแปลกใจหากมองถึงความมุ่งมั่นของเจ้าตัวที่สวนทางกับผลงานที่ล้มเหลวของพลพรรค “ช้างกระทืบโรง”

หลังจาก โคเวนทรี ตกชั้น เบลลามี ก็ย้ายไปล่าตาข่ายกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในฤดูกาลต่อมา

5. จอร์จี้ คินคลัดเซ่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 1995-1996)

Georgi Kinkladze
Georgi Kinkladze / Clive Brunskill/GettyImages

ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะมีนักเตะมากพรสวรรค์อย่าง ดาบิด ซิลบา, เซอร์จิโอ อเกวโร่, แบร์นาโด ซิลวา และ เควิน เดอ บรอยน์ นั้น แฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” ตื่นตาตื่นใจกับผลงาน และฝีเท้าที่สุดยอดของ คินคลัดเซ่ มาก่อน

อดีตเพย์เมคเกอร์ชาวจอร์เจีย ตะบันไป 5 ประตู จาก 44 เกมรวมทุกรายการให้กับ แมนฯซิตี้ ในซีซันดังกล่าว และใช้ความสามารถเฉพาะตัวช่วยเหลือทีมมากมาย แต่น่าเสียดายที่ คินคลัดเซ่ ไม่สามารถช่วยให้ทีมอยู่รอดได้สำเร็จ และเจ้าตัวก็ตามลงไปเล่นในลีกรองด้วย

4. มาร์ค วิดูก้า (ลีดส์ ฤดูกาล 2003/04)

Mark Viduka, Sylvain Legwinski
Leeds United v Fulham / Laurence Griffiths/GettyImages

ลีดส์ ต้องเผชิญหน้ากับการดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก แม้จะมีทีมที่เปี่ยมไปด้วยผู้เล่นมากพรสวรรค์ และบรรดานักเตะดาวรุ่งอนาคตไกล อย่าง เจมส์ มิลเนอร์, อารอน เลนน่อน, อลัน สมิธ, เอียน ฮาร์ท และ ลี โบวเยอร์

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มนักเตะที่กล่าวมาทั้งหมด วิดูก้า กลับเป็นคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปีที่ ลีดส์ ตกชั้น โดยอดีตศูนย์หน้าร่างยักษ์ทีมชาติออสเตรเลีย ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 11 ลูก ในสภาพที่ “ยูงทอง” เจอวิกฤตเล่นงาน

3. จูนินโญ่ (มิดเดิ้ลสโบรช์ ฤดูกาล 1996-1997)

Juninho of Middlesbrough in action
Juninho of Middlesbrough in action / Clive Brunskill/GettyImages

อดีตกองกลางจอมเทคนิคชาวบราซิล ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดช่วยให้ มิดเดิ้ลสโบรช์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฟุตบอล ลีก คัพ และเอฟเอ คัพ ในฤดูกาลที่ 2 ของตัวเองกับพลพรรค “สิงห์แดง”

น่าเสียดายที่ในเกมลีกนัดสุดท้ายปี 1997 มิดเดิ้ลสโบรช์ ทำได้เพียงเสมอกับ ลีดส์ 1-1 และต้องตกชั้น โดยภาพที่หลายคนจำได้ไม่ลืมคือ จูนินโญ่ นั่งร้องไห้อยู่ในสนามท่ามกลางแฟนบอล “เดอะ โบโร่” ที่เสียใจไม่แพ้กัน

2. เปาโล คิ คานิโอ (เวสต์แฮม ฤดูกาล 2002-2003)

Paolo Di Canio in action
Paolo Di Canio in action / Ian Walton/GettyImages

นับตั้งแต่ศึก พรีเมียร์ลีก เริ่มแข่งขัน ทีมที่เก็บได้ 42 คะแนน มีโอกาสสูงมากที่จะอยู่รอดได้อย่างสบาย แต่ในปี 2003 เวสต์แฮม ทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีอย่าง ไมเคิล คาร์ริค, เจอร์เมน เดโฟ และ โจ โคล กลับตกชั้นอย่างเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตาม ดิ คานิโอ ในฐานะผู้นำ และกัปตันทีม เป็นคนที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดในทัพ “ขุนค้อน” ภายใต้การคุมทัพของอดีตโค้ชอย่าง เกล็น โรเดอร์ โดยหัวหอกชาวอิตาเลียน ซัดไปถึง 9 ประตู จาก 18 เกม

1. รอย คีน (นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ฤดูกาล 1992-1993)

Roy Keane
Roy Keane / Shaun Botterill/GettyImages

ในช่วงเริ่มต้นอาชีพกับ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คีน ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในดาวรุ่งฝีเท้าดีลำดับต้นๆของวงการฟุตบอลอังกฤษ และเคยได้รับเลือกอยู่ในทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 1992-1993 มาแล้ว แม้ “เจ้าป่า” จะต้องตกชั้นก็ตาม

ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของ คีน นั้น น่าประทับใจอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของตำนานกุนซือย่าง ไบรอัน คลัฟ รอดตกชั้นได้ จากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าตัวไปร่วมทีมในซีซั่นถัดมา ก่อนที่เจ้าตัวกลายเป็นตำนานของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด