[FEATURE] ราฟา คือคนต่อไป ? ย้อนรอย 7 ผู้จัดการทีม พรีเมียร์ลีก ผู้ที่เคยหวนกลับมาคุมทีมเก่าอีกเป็นครั้งที่ 2

Manchester United v Newcastle United - Premier League
Manchester United v Newcastle United - Premier League / Clive Brunskill/Getty Images
facebooktwitterreddit



จากที่ลือกันหนาหูเกี่ยวกับการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยเจ้าชายแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย โมฮาเหม็ด บิล ซัลมาน ในช่วงที่ผ่านมา และมีข่าวว่าจะนำตัว ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตนายใหญ่ของ สาลิกาดง และ ลิเวอร์พูล กลับเข้ามารับหน้าที่กุนซือในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค อีกครั้งหนึ่งนั้น

วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านย้อนอดีต ไปดูกันว่ามีผู้จัดการทีมคนใดบ้างที่เคยกลับมาคุมทีมเก่าที่เคยนั่งเก้าอี้กุนซืออีกครั้ง และจะมีใครที่กลับมาแล้วประสบความสำเร็จบ้าง ตามไปดูกันเลย....


1. เควิน คีแกน - นิวคาสเซิล

Newcastle United Adidas Kit Launch 1995
Newcastle United Adidas Kit Launch 1995 / Getty Images/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 1992-1997
รวม 156 นัด ชนะ 85 เสมอ 31 แพ้ 40
คุมทีมครั้งที่สองปี 2008
รวม 21 นัด ชนะ 6 เสมอ 6 แพ้ 9

อดีตตำนานทีมชาติอังกฤษ ผู้เริ่มต้นชีวิตการเป็นกุนซือกับ นิวคาสเซิล ในปี 1992 และทำผลงานได้ค่อนข้างดีในระดับเลยทีเดียว กระทั่งได้โอกาสหวนกลับมาคุม ทัพสาลิกาดง อีกครั้งในปี 2008 หลังจากทีมปลด แซม อัลลาร์ไดซ์ ออกจากตำแหน่งเมื่อต้นปี 2008 ซึ่ง คีแกน สามารถคุมทีมจนจบฤดูกาลในอันดับที่ 12 แต่หลังเริ่มต้นซีซั่นใหม่เจ้าตัวคุมทีมไปได้เพียง 4 นัดเท่านั้นก็โดดปลดจากเก้าอี้ไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาอดีตกุนซื้อทีมชาติอังกฤษรายนี้ ก็ไม่รับงานคุมทีมใดอีกเลย

2. ฮาเวิร์ด แคนดัลล์ - เอฟเวอร์ตัน

Howard Kendall
Howard Kendall / Fox Photos/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 1982-1987
รวม 160 นัด ชนะ 100 เสมอ 27 แพ้ 33
คุมทีมครั้งที่สองปี 1990-1993
รวม 93 นัด ชนะ 33 เสมอ 22 แพ้ 38
คุมทีมครั้งที่สามปี 1997-1998
รวม 38 นัด ชนะ 9 เสมอ 13 แพ้ 16

อดีตแข้งของทีมท๊อฟฟีสีน้ำเงิน ผู้ที่เคยนั่งเก้าอี้คุมทีม เอฟเวอร์ตัน 3 รอบด้วยกัน แถมยังเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษถึง 2 สมัยและ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัยในยุค 80 หลังจากนั้นก็ย้ายไปคุมทีมใน ลาลีกา อยู่ 2 ปีก่อนจะกลับมารับงานที่เมืองผู้ดีอีกครั้ง แต่น่าเศร้าเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเลยแม้ว่าจะได้โอกาสเป็นบิ๊กบอสในถิ่น กูดิสัน พาร์ค อีกถึง 2 ครั้งในช่วงต้นและช่วงปลายยุค 90 ก็ตาม

3. สตีฟ คอปเปลล์ – คริสตัล พาเลซ

Steve Coppell of Crystal Palace
Steve Coppell of Crystal Palace / Tony O''Brien/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 1984-1993
รวม 442 นัด ชนะ 179 เสมอ 113 แพ้ 150
คุมทีมครั้งที่สองปี 1995-1996
รวม 32 นัด ชนะ 9 เสมอ 14 แพ้ 9
คุมทีมครั้งที่สามปี 1997-1998
รวม 51 นัด ชนะ 16 เสมอ 13 แพ้ 22
คุมทีมครั้งที่สี่ปี 1999-2000
รวม 40 นัด ชนะ 17 เสมอ 6 แพ้ 17

อดีตปีกตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามารับงานกุนซือทีม คริสตัล พาเลซ หลังจากที่ประกาศแขวนสตั๊ดได้เพียงปีเดียว แต่เขาก็สามารถคุมทีมมาได้ยาวนานถึง 9 ปี ซึ่งผลงานที่โดดเด่นคือการพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด และเคยเข้าถึงรอบชิงชนะ เอฟเอ คัพได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม คอปเปลล์ เข้า ๆ ออก ๆ จากการเป็นกุนซือทีมปราสาทเรือนแก้ว ถึง 4 ครั้งด้วยกัน ก่อนจะลาขาดและพเนจรไปยังสโมสรต่าง ๆ มากมายจนถึงปัจจุบัน

4. แฮร์รี เร้ดเนปป์ - พอร์ตสมัธ

Portsmouth manager Harry Redknapp shouts
Portsmouth manager Harry Redknapp shouts / AFP/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 2002-2004
รวม 108 นัด ชนะ 47 เสมอ 26 แพ้ 35
คุมทีมครั้งที่สองปี 2005-2008
รวม 107 นัด ชนะ 41 เสมอ 22 แพ้ 44

เสือเฒ่าที่แฟน ๆ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ คงจะรู้จักเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่เขาจะรับงานคุมทีม ไก่เดือยทอง นั้น เร้ดแนปป์ เคยเป็นผู้จัดการทีม พอร์ตสมัธ ถึง 2 ครั้ง แถมยังเคยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาสำเร็จในปี 2008 อีกด้วย จนทำให้ สเปอร์ส ที่ตอนนั้นทนกับผลงานอันตกต่ำของ ฆวนเด้ รามอส ไม่ไหว รีบดึงตัวมานั่งเก้าอี้กุนซือแทนในช่วงต้นฤดูกาล 2008/09 ในทันที

5. โชเซ มูรินโญ - เชลซี

Charlton Athletic v Chelsea
Charlton Athletic v Chelsea / Richard Heathcote/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 2004-2007
รวม 184 นัด ชนะ 124 เสมอ 38 แพ้ 22
คุมทีมครั้งที่สองปี 2013-2015
รวม 136 นัด ชนะ 80 เสมอ 27 แพ้ 29

เดอะสเปเชียลวัน ผู้ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของ เชลซี หลังจากที่ โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 มูรินโญ ประสบความสำเร็จอย่างสูงใน 2 ปีแรก แต่แล้วก็ถูกปลดออกไปในปี 2007 ก่อนย้ายจะไปคุม อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด และในที่สุดก็เป็น สิงห์บลู ที่ ราฟา เบนิเตซ หมดสัญญาคุมทีมชั่วคราวหลังจบฤดูกาล เฮียมู จึงถูกเลือกเข้ามาอีกครั้ง แม้ เดอะแฮปปี้วัน จะพาทีมประสบความสำเร็จในปี 2014/15 แต่ฤดูกาลถัดมาผลงานของทีมก็แทบจะดิ่งลงเหว จนทำให้เจ้าตัวถูก เสี่ยหมี ตะเพิดออกจากตำแหน่งอีกครั้งในที่สุด

6. กิเก้ ซานเชซ ฟลอเรส - วัตฟอร์ด

Watford FC v AFC Bournemouth  - Premier League
Watford FC v AFC Bournemouth - Premier League / Justin Setterfield/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 2015-2016
รวม 44 นัด ชนะ 16 เสมอ 9 แพ้ 19
คุมทีมครั้งที่สองปี 2019
รวม 12 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 6

ผู้จัดการทีมชาวสเปน ผู้สร้างชื่อเสียงจากการคุมทีม บาเลนเซีย และ แอตเลติโก มาดริด ย้ายมาหาความท้าทายใน พรีเมียร์ลีก กับ วัตฟอร์ต ในปี 2015 ซึ่งหลังจากคุมทีมเดียวเพียงปีเดียว ทีมก็ตัดสินใจเปลี่ยนกุนซือทำให้เขาต้องย้ายกลับไปคุมทีมใน ลาลีกา อีกครั้ง กระทั่งปี 2019 ที่ผ่านมา กิเก้ ฟลาเรส ได้รับโอกาสให้กลับมาคุมทัพแตนอาละวาดอีกครั้งหลังจาก ฆาบี การ์เซีย พาทีมรั้งอันดับบ๊วยไม่ชนะใครตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ซึ่งก็อย่างที่ทราบกัน สุดท้าย กิเก้ ไม่สามารถพาทีมหนีจากโซนสีแดงได้ และถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากคุมทีมได้เพียง 12 นัดเท่านั้น

7. เดวิด มอยส์ – เวสต์แฮม

Arsenal FC v West Ham United - Premier League
Arsenal FC v West Ham United - Premier League / Harriet Lander/Copa/Getty Images

คุมทีมครั้งแรกปี 2017-2018
รวม 31 นัด ชนะ 9 เสมอ 10 แพ้ 12
คุมทีมครั้งที่สองปี 2019-ปัจจุบัน
รวม 12 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 7

อดีตนายใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งนับตั้งแต่ถูกปลดจากทีม ปีศาจแดง เขาก็ย้ายไปรับงานกับ เรอัล โซเซียดาด ซันเดอร์แลนด์ ละมาจบที่ เวสต์แฮม หลังจากทีมปลด สลาเวน บิลิช ออกจากตำแหน่งปลายปี 2017 ซึ่ง มอยส์ ก็เข้ามารับหน้าที่เป็นแค่กุนซือชั่วคราวก่อนจะเปลี่ยนเป็น มานูเอล เปเยกรินี ในฤดูกาล 2018-19 แต่แล้วซีซั่นนี้ เปเยกรินี ทำผลงานได้ย่ำแย่และต้องอำลาทีมไป ทัพขุนค้อน จึงเลือก เดวิด มอยส์ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง แต่ต้องบอกว่าสถานการณ์ของพวกเขายังไม่ดีขึ้นเท่าใดนัก แถมยังมีโอกาสที่ทีมจะตกชั้นอยู่สูงพอสมควรเลยทีเดียว


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด