ย้อนรอย 6 เกมในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่มีประตูเกิดขึ้น 10 ลูกในหนึ่งแมทช์ - FEATURE
ชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยสกอร์ 6-3 นั้นดูเหมือนจะเป็นเกมที่มีการยิงประตูกันสูงสุดของ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในรอบปี 2021 เลยก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ในประวัติศาสตร์ของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเคยมีแมทช์ที่ยิงประตูกันมากถึง 10 ลูกต่อหนึ่งเกมมาแล้ว วันนี้เราจะพาแฟน ๆ 90Min ย้อนกลับไปชมกันว่ามีเกมใดและมาจากทีมใดกันบ้าง ตามไปดูกันเลย...
29 กันยายน 2007
พอร์ทสมัธ 7-4 เร้ดดิ้ง
เกมสัปดาห์ที่ 8 ของฤดูกาล 2007/08 พอร์ทสมัธ ที่ขณะนั้น แฮร์รี เร้ดแนปป์ คุมทีมอยู่มีคิวเปิดบ้านพบกับ เร้ดดิ้ง ของ สตีฟ คอปเปลล์ แน่นอนว่าก่อนเกมไม่มีใครคาดคิดว่านัดนี้จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นเกมที่มีการยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ถึง 11 ลูก โดยเจ้าบ้านได้ 7 ประตูจากแฮททริกของ เบนจานี ฌอน เดวิส 1 ประตู นิโก้ ครานชาร์ 1 ประตู ซุลเลย์ มุนตารี 1 ประตูและ เฮอร์แมนน์ ไฮร์ดราสสัน 1 ประตู ส่วนทีมเยือนยิงได้ 4 ลูกจาก สตีเฟน ฮันท์ เดฟ คิทสัน เชน ลอง และ นิคกี้ โชรีย์ คนละ 1 ประตูด้วยกัน
29 ธันวาคม 2007
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 6-4 เร้ดดิ้ง
ไม่กี่เดือนต่อมาในฤดูกาล 2007/08 สเปอร์ส ของ ฆวนเด้ รามอส โคจรมาพบกับ เร้ดดิ้ง ที่เพิ่งจะโดน พอร์ทสมัธ ยิงไป 7 ประตูเมื่อ 3 เดือนก่อน ก็มาถูก ไก่เดือยทอง ยำต่ออีก 6 ประตูจาก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่ซัดคนเดียว 4 ประตู และ เจอร์เมน เดโฟ กับ สตีด มัลบรอง คนละหนึ่งประตู ส่วนผู้มาเยือนได้ 4 ประตูจาก เดฟ คิทสัน 2 ลูกและ คาลิฟา ซิสเซ กับ อิวาร์ อิกิมาร์สสัน อีกคนละประตู
22 พฤศจิกายน 2009
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 9-1 วีแกน
เป็นเกมสัปดาห์ที่ 13 ของฤดูกาล 2009/10 สเปอร์ส ของ แฮร์รี เร้ดแนปป์ โคจรมาพบกับ วีแกน ของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ โดยเป็น เจอร์เมน เดโฟ ที่เหมาคนเดียว 5 ประตู ปีเตอร์ เคราช์ 1 ประตู นิโก้ ครานชาร์ 1 ประตู และ คริส เคิร์กแลนด์ ทำเข้าประตูตัวเอง 1 ประตู ส่วนทีมเยือนได้ 1 ประตูจาก พอล ชาร์เนอร์
28 สิงหาคม 2011
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8-2 อาร์เซนอล
เกมแห่งความทรงจำของแฟน ๆ ปีศาจแดง หลายคน โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำศึกบิ๊กแมทช์พบกับ ปืนใหญ่ ของ อาร์แซน เวงเกอร์ ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่ามีประตูเกิดขึ้นถึง 10 ประตูเป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่ยิงไม่ไว้หน้าถึง 8 ประตูจากแฮททริกของ เวย์น รูนีย์ แอชลีย์ ยัง 2 ประตู นานี ปาร์ค จิ ซอง และ แอนนี เวลเบ็ค ซัดอีกคนละ 1 ประตู ส่วน อาร์เซนอล ได้ 2 ประตูจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ ธีโอ วัลคอตต์
29 ธันวาคม 2012
อาร์เซนอล 7-3 นิวคาสเซิล
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อาร์เซนอล เป็นฝ่ายถูกกระทำ เรามาดูเกมที่ ปืนใหญ่ เป็นผู้ยำใหญ่ชาวบ้านเขาดูบ้าง โดยเหยื่อของพวกเขาก็คือ นิวคาสเซิล ของ อลัน พาร์ดิว โดยเจ้าบ้านได้ประตูจากแฮททริกของ ธีโอ วัลคอตต์ และ 2 ประตูของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ พร้อมกับ ลูคัส โพดอลสกี้ กับ อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน อีกคนละ 1 ประตู ส่วนทีมเยือนได้สองประตูจาก เดมบ้า บา และ ซิลแว็ง มาร์โวซ์ 1 ประตูด้วยกัน
19 พฤศภาคม 2013
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 5-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เป็นเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2012/13 โดย ปีศาจแดง จะต้องลงเล่นนัดอำลา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บุกไปเยือน เวสต์บรอมวิช ของ สตีฟ คลาร์ค แม้ว่าทีมเยือนจะออกนำก่อนถึง 0-3 จากประตูของ ชินจิ คากาวะ อเล็กซ์ บุตเนอร์ และ โจนาส โอลส์เซน ทำเข้าประตูตัวเองไป แต่ เจมส์ มอร์ริสัน และ โรเมลู ลูกากู ก็ยิงไล่มาเป็น 2-3 ก่อนที่ ปีศาจแดง จะทิ้งห่างเป็น 2-5 จาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ ชิชาริโต้ แต่แล้วเจ้าบ้านก็มายิงคืนอีก 3 ลูกรวดจาก 2 ประตูของ ลูกากู เป็นแฮททริกและ ยูสซุฟ มูลัมบู อีก 1 ประตูทำให้จบเกมเสมอกันไปแบบสุดมันส์ 5-5
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด