[FEATURE] รุ่นพี่ แวร์เนอร์ ! ย้อนรอย 6 แข้งเยอรมนี ที่เคยมาค้าแข้งกับ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

FBL-NATIONS-GER-FRA
FBL-NATIONS-GER-FRA / FRANCK FIFE/Getty Images
facebooktwitterreddit



เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกตัวเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก จะย้ายมาร่วมทีม เชลซี ทันทีหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในศึก บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ ด้วยค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยราว 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ในทีม สิงโตน้ำเงินคราม พวกเขาเคยมีแข้งเลือดอินทรีเหล็ก เข้ามาค้าแข้งอยู่ถึง 6 คนด้วยกัน วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านย้อนรอยไปดูว่าทั้ง 6 คนนี้เป็นใครกันบ้าง และแต่ละคนประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ตามไปดูกัน...


1. เซบาสเตียน คไนส์เซิล

Sebastian Kneißl - Chelsea
Sebastian Kneißl - Chelsea /

อยู่กับทีมในปี 2000-2005
ตำแหน่ง กองกลาง
ผลงาน ลงสนาม 0 เกม ทำได้ 0 ประตู 0 แอสซิสต์

แฟน สิงห์บลู หลายคนคงมีคำถามคล้าย ๆ กันว่าแข้งรายนี้คือ "ใคร" คไนส์เซิล เป็นดาวรุ่งที่ทีมดึงตัวมาปลุกปั้นจากทีมเยาวชนของ แฟรงค์เฟิร์ต ในปี 2000 แต่ตลอด 5 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวไม่สามารถเบียดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้และถูกส่งให้ทีมอื่นยืมตัวใช้งานตลอดในช่วงหลัง กระทั่งหมดสัญญากับทีมในปี 2005 และย้ายกลับไปเล่นในเยอรมัน โดยที่ยังไม่เคยลงเล่นให้กับทีมเลยแม้แต่เกมเดียว

2. โรเบิร์ต ฮูธ

Chelsea v Tottenham Hotspur
Chelsea v Tottenham Hotspur / Phil Cole/Getty Images

อยู่กับทีมในปี 2001-2006
ตำแหน่ง กองหลัง
ผลงาน ลงสนาม 62 เกม ทำได้ 2 ประตู 2 แอสซิสต์

อดีตกองหลังดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีกชุดประวัติศาสตร์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2015/16 ที่ผ่านมา เจ้าตัวถูก สิงห์บลู อิมพอร์ตเข้ามายังอังกฤษในปี 2001 สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่ง ซึ่ง ฮูธ ก็พอจะได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่อยู่บ้าง โดยเฉพาะในยุคของ โชเซ มูรินโญ ที่เคยถูกจับเป็นตัวทีเด็ดลงมายืนเป็นศูนย์หน้าจำเป็นในยามคับขันอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งถูก มิดเดิลสโบรห์ ซื้อตัวไปร่วมทีมในปี 2006 ด้วยค่าตัวราว 8 ล้านปอนด์

3. มิชาเอล บัลลัค

Chelsea v CFR Cluj-Napoca - UEFA Champions League
Chelsea v CFR Cluj-Napoca - UEFA Champions League / Jamie McDonald/Getty Images

อยู่กับทีมในปี 2006-2010
ตำแหน่ง กองกลาง
ผลงาน ลงสนาม 167 เกม ทำได้ 25 ประตู 24 แอสซิสต์

ดาวเตะระดับตำนานของทีมชาติเยอรมัน ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ในปี 2006 แบบไร้ค่าตัวหลังจากหมดสัญญากับ บาเบิร์น มิวนิค บัลลัค จัดว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังชุดดรีมทีมของ สิงห์บลู ในยุคนั้น ช่วยทีมค้วาแชมป์ลีกมาครองได้ 1 สมัย เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ อีเอฟแอล คัพ อีก 1 สมัยด้วยกัน ก่อนจะหมดสัญญาในปี 2010 และย้ายกลับไปเล่นให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมที่เจ้าตัวแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวสมัยหนุ่ม ๆ อยู่นั่นเอง

4. มาร์โก มาริน

AC Sparta Praha v Chelsea FC - UEFA Europa League Round of 32
AC Sparta Praha v Chelsea FC - UEFA Europa League Round of 32 / Scott Heavey/Getty Images


อยู่กับทีมในปี 2012-2016
ตำแหน่ง ปีก
ผลงาน ลงสนาม 16 เกม ทำได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์

ปีกความเร็วสูงชาวเยอรมันที่แจ้งเกิดกับ แวร์เดอร์ เบรเมน พร้อม ๆ กับ เมซุต เออซิล ก่อนจะเป็น เชลซี ที่ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2012 ด้วยค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์ น่าเศร้าที่ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมมากนัก แถมยังถูกส่งไปให้กับทีมอื่น ๆ ยืมตัวใช้งานอยู่ตลอด สุดท้ายในปี 2016 มาริน เลือกที่จะย้ายไปค้าแข้งใน กรีซ กับ โอลิมเปียกอส ปิดตำนานแข้งตัวจิ๋วกับทีมไปอย่างเงียบงั้นในที่สุด


5. อังเดร ชูเล

Chelsea FC v Sporting Clube de Portugal - UEFA Champions League
Chelsea FC v Sporting Clube de Portugal - UEFA Champions League / Clive Mason/Getty Images

อยู่กับทีมในปี 2013-2015
ตำแหน่ง ปีก
ผลงาน ลงสนาม 65 เกม ทำได้ 14 ประตู 3 แอสซิสต์

ตัวรุกดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 กับทีมชาติเยอรมันรายนี้ ย้ายมาร่วมทีมในปี 2013 ซึ่งต้องบอกว่าช่วงแรกเขาทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว และความเฉียบขาดในการจบสกอร์ แต่น่าเศร้าที่ดูเหมือนว่า โชเซ มูรินโญ กุนซือของทีมในตอนนั้น จะไม่ค่อยประทับในฟอร์มของดาวเตะรายนี้สักเท่าใดนัก จนช่วงหลัง ชูเล ต้องนั่งตบยุงอยู่บนม้านั่งซะเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งเขาตัดสินใจย้ายกลับเยอรมันกับ โวล์ฟบวร์ก ในปี 2015 ที่ผ่านมา

6. อันโตนิโอ รือดิเกอร์

Chelsea FC v Everton FC - Premier League
Chelsea FC v Everton FC - Premier League / James Williamson - AMA/Getty Images

อยู่กับทีมในปี 2017-ปัจจุบัน
ตำแหน่ง กองหลัง
ผลงาน ลงสนาม 105 เกม ทำได้ 6 ประตู 2 แอสซิสต์

อดีตกองหลังจาก โรมา ที่ สิงห์บลู ทุ่มเงินกว่า 31.5 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2017 ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ แม้ในช่วงแรกจะยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่ในปัจจุบันเจ้าตัวคือกองหลังอันดับหนึ่งของทีมในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่กุนซือระดับตำนานสโมสรดูจะไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด นั่นทำให้ดูเหมือนอนาคตของปราการหลังรายนี้ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ค่อนข้างจะสดใสอยู๋พอสมควรเลยทีเดียวนับจากน้ี้ภายใต้การคุมทัพของ "ป๋าแลมพ์"


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด