5 นักเตะ พรีเมียร์ลีก ที่ระเบิดฟอร์มเก่งได้ทันทีในปีแรกกับทีมใหม่ - FEATURE

  • ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก ในปี 1992-1993
  • มีนักเตะมากมายที่ย้ายมาและต้องใช้เวลาปรับตัว
  • แต่นี่คือ 5 ยอดนักเตะที่โชว์ฟอร์มสุดยอดกับต้นสังกัดได้ทันทีที่ย้ายมา

Man Utd v Boavista X
Man Utd v Boavista X / Ross Kinnaird/GettyImages
facebooktwitterreddit

นับตั้งแต่ศึก พรีเมียร์ลีก เปิดตัวในปี 1992-1993 นั้น มีนักเตะมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลได้รับชมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางคนผลงานโดดเด่นในปีแรก และบางคนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักกว่าจะเรียกฟอร์เก่งได้

วันนี้เราจะพาไปดู 5 ผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอด แม้จะเป็นปีแรกที่พวกเขาย้ายมาเล่นกับต้นสังกัดใหม่ ซึ่งจะมีใครบ้างไปติดตามกันครับ


1. รุด ฟาน นิสเตลรอย

อดีตศูนย์หน้าทีมชาติฮอลแลนด์ ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น ในเอริดิวี่ลีก มาล่าตาข่ายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์ปี 2001 ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ โดยก่อนหน้านี้ 1 ปี ฟาน นิสเตลรอย เกือบย้ายมาเล่นกับ “ปีศาจแดง” เต็มทีแล้ว แต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน จึงทำให้ตรวจร่างกายไม่ผ่าน และการย้ายทีมต้องยุติลงไป  

ในปีแรก ดาวยิงดัตช์ ไม่ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ และแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องผิดหวัง หลังจากที่รอคอยเจ้าตัวมาปีเต็มๆ โดย ฟาน นิสเตลรอย ซัดไปถึง 2 ประตูในเกมประเดิมสนามช่วยให้  “ปีศาจแดง” เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด เอาชนะ ฟูแล่ม แบบสุดมันส์ 3-2

 ในซีซั่นดังกล่าว ฟาน นิสเตลรอย ระเบิดตาข่ายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมกันไปถึง 36 ประตู จาก 49 เกมที่ลงสนามทุกรายการ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นตัวเลขที่น่าเหลือเชื่อสำหรับนักเตะที่ย้ายมาเป็นปีแรก

Ruud Van Nistelrooy
Birmingham City v Manchester United / Richard Heathcote/GettyImages

2. ดิเอโก้ คอสต้า

หัวหอกพันธุ์ดุชาวสเปน ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด ในศึกลา ลีกา มาค้าแข้งกับ เชลซี ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ปี 2014 และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดย คอสต้า ทำประตูในเกมเปิดตัว กับ เบิร์นลีย์ ต่อด้วยยิง เลสเตอร์ ซิตี้ และซัดไปอีก 2 ลูกกับ เอฟเวอร์ตัน รวมทั้งกดแฮตทริกใส่ สวอนซี

คอสต้า ยังคงเดินหน้าถล่มตาข่ายคู่แข่งอย่างต่อเนื่องหลังซัดไปถึง 11 ลูก จาก 10 เกมแรกใน พรีเมียร์ลีก และซีซั่นดังกล่าว กองหน้าเลือด “กระทิงดุ” ก็ช่วยให้ เชลซี คว้าแชมป์ลีกสำเร็จ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีของสโมสร  

ขณะเดียวกัน คอสต้า ยังจบซีซันด้วยผลงานส่วนตัวยิงไป 21 ประตู จาก 31 เกมรวมทุกรายการให้ เชลซี แม้จะได้รับบาดเจ็บ และติดโทษแบนอยู่บ่อยครั้งก็ตาม

Diego Costa
Arsenal v Chelsea - The Emirates FA Cup Final / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages

3. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

ตัวรุกทีมชาติอิยิปต์ เคยล้มเหลวใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว ระหว่างเล่นให้กับ เชลซี ในปี 2014-16 ก่อนจะย้ายไปเรียกความมั่นใจกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และในซัมเมอร์ปี 2017 ลิเวอร์พูล ก็ทุ่มเงิน 37 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทีม   

การกลับมาครั้งนี้ ซาล่าห์ ต้องการพิสูจน์ตัวเองอย่างมากว่า สามารถเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้ และก็ทำสำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมตั้งแต่เกมแรกกับ ลิเวอร์พูล ด้วยการซัดประตูใส่ วัตฟอร์ด และยังคงยิงคู่แข่งอย่างต่อเนื่องด้วยผลงาน 12 ประตูจากการลงเล่น 15 เกมแรกในลีก

ตลอดฤดูกาลดังกล่าว ซาล่าห์ ยังคงร้อนแรงไม่หยุดหลังจากตะบันไปถึง 32 ประตูในลีก จาก 36 เกมที่ลงสนาม พร้อมความรางวัลรองเท้าทองคำได้สำเร็จ และสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของศึกพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 1994/95 อีกด้วย

Mohammed Salah
Manchester United v Liverpool - Emirates FA Cup Quarter Final / Michael Regan/GettyImages

4. เลส เฟอร์ดินานด์

เฟอร์ดินานด์ เป็นหนึ่งในยอดกองหน้าในของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคบุกเบิกเมื่อซีซั่น 1992/93 โดยอดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้ ซัดไปถึง 20 ประตู พาต้นสังกัดอย่าง ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ทะยานขึ้นมาจบด้วยอันดับที่ 5 ในตารางคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยม

จากฟอร์มที่สุดฮอตตลอด 3 ปี กับ คิวพีอาร์ ทำให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 6 ล้านปอนด์ คว้าตัว เฟอร์ดินานด์ ไปเสริมแนวรุก และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้พลพรรค “สาลิกาดง” ต้องผิดหวังหลังระเบิดตาข่ายทันทีไปในเกมเปิดตัวกับ โคเวนทรี จากนั้น ซัดอีก 2 ประตู ในเกมกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในอีก 3 วันต่อมา

ผลงานปีแรกของ เฟอร์ดินานด์ กับ นิวคาสเซิล นั้น เจ้าตัวยิงประตูไปรวมทุกรายการถึง 29 ลูก จาก 43 เกมที่ลงสนาม

WIMBLEDON V QPR
WIMBLEDON V QPR / Clive Brunskill/GettyImages

5. อลัน เชียร์เรอร์

“ฮอตช็อต” ยังคงครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 260 ประตู ตลอดอาชีพค้าแข้ง 14 ปี ในลีกสูงสุดของอังกฤษ ดังนั้น จึงไม่น่าเซอร์ไพรส์เลยที่เขาจะออกสตาร์ทได้อย่างน่าทึ่งกับสโมสรใหม่อย่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 1992-93 แบล็กเบิร์น ทำลายสถิติการซื้อตัวแพงที่สุดของเมืองผู้ดีด้วยการทุ่มเงิน 3.6 ล้านปอนด์ คว้าตัว เชียร์เรอร์ ในวัย 22 ปี มาจาก เซาแธมป์ตัน โดยตอนนั้นพลพรรค “กุหลาบไฟ” ปาดหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนใจนักเตะรายนี้ได้อย่างหวุดหวิด

เชียร์เรอร์ ทำผลงานได้อย่างสุดยอด หลังยิง 2 ประตู ในเกมเปิดตัวกับ คริสตัล พาเลซ และถล่มตาข่ายไปถึง 10 ประตูจากการลงเล่น 10 นัดแรกในลีก ก่อนที่อาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าจะทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่เขาก็ยังซัดให้กับ แบล็คเบิร์น ตลอดทั้งซีซั่น 20 ประตูเลยทีเดียว

Alan Shearer
Alan Shearer Celebrates Newcastle United v Arsenal 2000 / Stu Forster/GettyImages