[FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #47 : บิล นิโคลสัน 'มิสเตอร์ท็อตแนม ฮอตสเปอร์'
โดย โตมร นวลประเสริฐ
บิล นิโคลสัน เป็นผู้จัดการทีมอันดับที่ 47 ในการจัดอันดับ ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเรา ผู้อ่านสามารถติดตาม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ นิโคลสัน ได้ ที่นี่
บิล นิโคลสัน มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คว้าแชมป์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ สำเร็จในฤดูกาล 1950/51 ในฐานะนักเตะก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้จัดการทีม ไก่เดือยทอง คว้าความสำเร็จเดียวกันในอีก 10 ปีให้หลัง
นิโคลสัน มีสถานะเป็นตำนานของ สเปอร์ส และชื่อเรียก ‘ มิสเตอร์ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์’ กลายเป็นชื่อเล่นของเจ้าตัว
หากเพียงแต่ตำนานรายนี้ไม่ได้มีเรื่องเล่าขานอย่างการเดินทางผจญภัยที่น่าตื่นต่าตื่นใจหรือการซื้อตัวนักเตะมูลค่าหลายล้านปอนด์ อะไรทำนองนั้นแต่อย่างใด สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นไอคอนแห่งทัพ ลิลลีไวทส์ คือการปลุกผี สเปอร์ส จากการรั้งอันดับ 6 จากท้ายตารางของศึก ดิวิชัน 1 อังกฤษ ให้กลายเป็นแชมเปี้ยนในอีกไม่กี่ปีให้หลัง วางรากฐานให้กับ ท็อตแนม ก่อนที่ทีมรักของเขาจะกลายเป็นหนึ่งในบิ๊กทีมอย่างทุกวันนี้
"“ผู้เล่นคนใดก็ตามที่ย้ายมาร่วมทัพ สเปอร์ส ไม่ว่าจะบิ๊กเนมหรือเป็นเพียงแค่สต๊าฟฟ์ของทีม พวกเขาทั้งหมดต้องอุทิศคนให้กับสโมสร เขาเหล่านั้นต้องเตรียมพร้อมเพื่อยกระดับตัวเอง เขาต้องไม่พอใจต่อผลงานครั้งก่อน และเขาต้องเกลียดความพ่ายแพ้”"
- บิล นิโคลสัน
เส้นทางลูกหนังของ นิโคลสัน ออกสตาร์ทด้วยความเนิบช้า เขาเป็นบุตรชายของครอบครัวลำดับที่ 8 ในจำนวนพี่น้องทั้งสิ้น 9 คน เป็นพนักงานในโรงงานซักผ้าก่อนที่จะมีโอกาสทดสอบฝีเท้ากับ สเปอร์ส เมื่อมีอายุได้ 17 ปี และลงประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่เป็นนัดแรกในปี 1938
นิโคลสัน มีจุดสูงสุดในเส้นทางค้าแข้งกับดีกรีแชมป์ ดิวิชัน 1 และดิวิชัน 2 ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมหน่วยทหารราบเคลื่อนที่เร็วเดอร์แฮมในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1939 โดยเจ้าตัวเคยพูดถึงช่วงเวลาในการรับใช้ชาติดังกล่าวที่กินเวลาอาชีพค้าแข้งของเขาไปเกือบครึ่งทางว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เกียรติยศ
ดิวิชัน 1 (1960/61)
เอฟเอ คัพ (1960/61, 1961/62 และ 1966/67)
ลีกคัพ (1970/71 and 1972/73)
แชริตี้ ชิลด์ (1961, 1962 and 1967)
ยูฟ่า คัพ (1971/72)
ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์สคัพ (1962/63)
หลังจากแขวนสตั๊ดด้วยสถานะ ‘วันคลับแมน’ กับสถิติการเล่นให้กับ สเปอร์ส มากกว่า 300 นัดในตำแหน่งฮาล์ฟแบ็ค เขากลายเป็นโค้ชให้กับ ไก่เดือยทอง ในเวลาต่อมาก่อนที่จะทำงานร่วมกับทีมชุดใหญ่ในปี 1958 รวมทั้งยังเคยก้าวขึ้นเป็นเป็นมือขวาของ วอลเตอร์ วินเทอร์บ็อตแทม ในทีมชาติ อังกฤษ ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 1958 อีกด้วย
ถัดจากนั้น นิโคลสัน ก็ได้รับงานคุมทัพ สเปอร์ส ตั้งแต่จบศึก ฟุตบอลโลก ก่อนที่จะอยู่โยงในถิ่น ไวท์ฮาร์ทเลน ตลอด 16 ปีต่อมา
โชคดีสำหรับ บิล ที่เขารับช่วงต่อผู้เล่นในทีมที่มีคีย์แมนอย่างคู่กองหน้า บ็อบบี้ สมิธ กับ เลส อัลเลน ที่สังหารประตูเป็นว่าเล่น, ปีกจรวดอย่าง คลิฟฟ์ โจนส์กับ เทอร์รี ไดสัน และคู่กองกลางอย่างกัปตันทีม แดนนี บลานช์ฟลาวเวอร์ กับห้องเครื่อง เดฟ แม็คเคย์
บลานช์ฟลาวเวอร์ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ สเปอร์ส คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสำเร็จแม้เขาจะเป็นเพียงอะไหล่ของทีมโดยผู้จัดการทีมคนก่อนหน้า แต่ นิโคลสัน เข้ารับตำแหน่งพร้อมกับแต่งตั้งให้มิดฟิลด์รายดังกล่าวเป็นกัปตันทีมจนคว้าดับเบิลแชมป์ ดิวิชัน 1 ควบ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 1960/61
นิโคลสัน ผู้ซึ่งไม่ได้มีแท็คติกที่หวือหวาอย่าง โททัลฟุตบอล หรือ เกเก้นเพรสซิง สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานนั่นก็ทักษะการดึงเอาศักยภาพของนักเตะออกมาใช้งานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แม้ สเปอร์ส จะไม่สามารถรักษาแชมป์ลีกไว้ได้ในฤดูกาลถัดมาแต่พวกเขาก็สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ก่อนที่แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์สคัพ จะตกเป็นของพวกเขาในฤดูกาล 1962/63
"“ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คือชีวิตของผม ผมรักสโมสรแห่งนี้”"
- บิล นิโคลสัน
ช่วงเวลาดังกล่าว สเปอร์ส มี จิมมี กรีฟส์ เป็นหัวหอกตัวหลักหลังพวกเขาไปคว้ามาจาก เอซี มิลาน ด้วยมูลค่า 99,999 ปอนด์ ซัดประตูในถิ่น ไวท์ฮาร์ทเลน ระเบิดเถิดเทิงถึง 42 ลูกในซีซันแรกและพังประตูในเกม คัพวินเนอร์สคัพ นัดชิงชนะเลิศที่คว่ำ แอตเลติโก มาดริด ได้ด้วยสกอร์ขาดลอย 5-1
เกียรติยศดังกล่าวของ นิโคลสัน กับ สเปอร์ส ทำให้พวกเขาเป็นทีมจาก อังกฤษ สโมสรแรกที่คว้าโทรฟีรายการยุโรปมาครอง ถัดจากนั้น ไก่เดือยทอง คว้าความสำเร็จในฟุตบอลถ้วยได้อย่างต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ เอฟเอ คัพ 1967, ลีกคัพ 1971 และ 1973 กระทั่ง ยูฟ่า คัพ ในปี 1972
หลังการคุมสโมสรเดียวยาวนาน 16 ปี บิล นิโคลสัน บอกลาตำแหน่งผู้จัดการทีม ท็อตแนม ในปี 1974 และยุติเส้นทางกุนซือไว้กับทีมรัก เขากลายเป็นผู้จัดการทีม สเปอร์ส ที่คว้าเกียรติยศให้กับทีมได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่ 8 เมเจอร์โทรฟี และยังคงเป็นสถิติสูงสุดจวบจนปัจจุบัน
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 50: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #50 : มาร์เซโล บิเอลซา
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 49: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #49 : วิค บัคกิงแฮม
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 48: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #48 : เคลาดิโอ รานิเอรี
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด