[FEATURE] สเวน-โกรัน อีริคส์สัน : ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #46

Sven-Goran Eriksson
Sven-Goran Eriksson /
facebooktwitterreddit

สเวน-โกรัน อีริคส์สัน เป็นผู้จัดการทีมอันดับที่ 46 ในการจัดอันดับ ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเรา ผู้อ่านสามารถติดตาม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ อีริคส์สัน ได้ ​​ที่นี่​


ในหนังสืออัตชีวประวัติของ ดีทมาร์ ฮามันน์ ที่มีชื่อว่า เดอะดิดี้แมน อดีตกองกลาวชาว เยอรมนี น่าจะเป็นคนที่เขียนบรรยายถึงคำจำกัดความของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ได้ดีที่สุดคนหนึ่ง

ทั้ง 2 เคยร่วมงานกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ กับ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทยอย่าง ทักษิณ ชินวัตร

ในช่วงโค้งสุดท้ายของทั้ง อีริคส์สัน และ ทักษิณ พลพรรค แมนฯ ซิตี้ ยกพลมาอุ่นเครื่องกับทีม ไทยแลนด์ ออล  สตาร์ โดยเป็นช่วงเวลาที่ ฮามันน์ ได้อธิบายเหตุการณ์ในช่วงนั้นไว้ในหนังสือของเขา

All Star Thailand XI v Manchester City
All Star Thailand XI v Manchester City / Stanley Chou/Getty Images

“เช้าวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังอาบแดดอยู่ริมสระ สเวน เดินเข้ามาพร้อมกับถือขวดแชมเปญกับแก้วอีก 2 ใบในมือ” ฮามันน์ ย้อนรำลึกความหลัง “ตอนนั้นมันยังแค่ 10 โมงเช้า ผมมองไปที่เขาพร้อมกับพูดว่า ‘บอส เราจะฉลองอะไรกัน’ พร้อมกับความหวังที่เขาจะพูดถึงเรื่องอะไรสำคัญสักอย่าง“

“เขาหันมองมาที่ผมพร้อมกับรอยยิ้มอย่างสุภาพ สูดหายใจเข้าราวกับอิ่มเอมกับปรัชญาในพุทธศาสนาแล้วพูดว่า ‘ชีวิตน่ะ ไกเซอร์ เราเฉลิมฉลองให้กับชีวิต’

“ขณะที่ถือแก้วแชมเปญในมือ เขาลุกขึ้นยืนมองออกไปที่ขอบฟ้าและพูดออกมาเป็นสำเนียงสวีดิชที่น่าตลกว่า ‘รู้ไหม ไกเซอร์ ผมชอบที่นี่ ผมคิดว่าจะคุมทีมอีก 5 ปีและกลับมาที่นี่เพื่อจะใช้ชีวิตกับผู้หญิง 2 คน ใช่ผมคิดว่าผมต้องการสาวงาม 2 คน’

"ชีวิตน่ะ ไกเซอร์ เราเฉลิมฉลองให้กับชีวิต"

สเวน-โกรัน อีริคส์สัน

อีริคส์สัน เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับการเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหลังให้กับทีมลีกเทียร์ 2 ใน สวีเดน ก่อนที่จะกลายมาเป็นชายผู้อิ่มเอมในวิถึเพลย์บอลในเลวาต่อมา อย่างที่​ ฮามันน์ เรียกเขาว่า ‘เจมส์ บอนด์ จาก สวีเดน’

ในวัย 72 ปีขณะที่เขียนบทความนี้ เจ้าตัวยังไม่มีวี่แววว่าจะประกาศยุติเส้นทางคุมทีมในอนาคตอันใกล้แต่อย่างใดแม้จะคว้าเกียรติยศยาวเป็นหางว่าวไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีก 5 สมัยใน 3 ประเทศ (สวีเดน, โปรตุเกส และ อิตาลี), แชมป์ฟุตบอลถ้วย 7 รายการ และ ยูฟ่า คัพ รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนักเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง อเลสซานโดร เนสต้า รวมไปถึง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน กระทั่งเคี่ยวอดีตลูกทีมให้กลายเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอดในยุคต่อมาอย่าง ดิเอโก้ ซิเมโอเน, โรแบร์โต้ มันชินี และ ซิโมเน อินซากี้

เจ้าตัวยังตะลุยคุมทีมมาแล้วแทบจะทุกทวีปทั่วโลกฝากรอยเท้าของเขาเอาไว้ใน เสิ่นเจิ้น, โรม ไปจนถึง แลงคาเชียร์ 

Hernan Crespo, Juan Sebastian Veron
Hernan Crespo, Juan Sebastian Veron / Claudio Villa/ Grazia Neri/Getty Images

ย้อนกลับไปในปี 1996 หลังจากที่พาทีมอย่าง ไอเอฟเค โกเตบอร์ก, เบนฟิก้า, โรมา และ ซามพ์โดเรีย กรุยทางซิวแชมป์มาตลอดช่วงทศวรรษก่อนหน้า กุนซือชาว สวีเดน ก็ได้ตอบรับงานคุมทีม ลาซิโอ หลังจากเขาปฎิเสธทีมอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือการที่เขาพา อินทรีฟ้าขาว ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 90  อย่างต่อเนื่อง ส่วนทัพ กุหลาบไฟ สาละวันเตี้ยลงจนหายไปจากสารบบลีกสูงสุด อังกฤษ ในที่สุด


เกียรติยศ

อัลสเวนส์คาน (1982)
สเวนสก้า คัพ (1979 และ 1982)
ยูฟ่า คัพ (1982)
พริเมรา ดิวิเซา (1983, 1984 และ 1991)
ทาคา เดอ ปอร์ตูกัล (1983)
ซูเปอร์ทาคา คันดิโด เดอ โอลิเวียรา (1989)
โคปปา อิตาเลีย (1986, 1994, 1998 และ 2000)
เซเรีย อา (2000)
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา (1998 และ 2000)
ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (1999)
ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (1999)


สเวน กลายเป็นผู้จัดการทีมทีครองความยิ่งใหญ่ใน อิตาลี ในยุคที่ กัลโช เซเรีย อา เป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและอุดมไปด้วยนักเตะเวิลด์คลาสเต็มลีก

การจัดการแท็คติกของ สเวน เต็มไปด้วยความเรียบง่าย เมื่อสิ่งสำคัญที่สุดคือจัดการซิวนักเตะคุณภาพดีที่สุดมาร่วมทัพ ทำให้พวกเขามีความสุขในการเล่นกับทีม และจับลงในตำแหน่งที่เหมาะกับพวกเขามากที่สุด

7 เมเจอร์โทรฟีภายใต้ระยะเวลาเพียง 3 ฤดูกาลครึ่งคือผลลัพธ์ที่ตามากับ ลาซิโอ พวกเขายังเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์ สคูเดตโต้ ในปีครบรอบฉลองการก่อตั้งสโมสรครบ 100 ปี

Christian Vieri of Lazio
Christian Vieri of Lazio / Getty Images/Getty Images

ซีซันดังกล่าวยังพิเศษตรงที่ อินทรีฟ้าขาว เพิ่งจะปล่อยคีย์แมนตัวเก่งอย่าง คริสเตียน วิเอรี ให้กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยมูลค่าราว 30 ล้านปอนด์ และส่งผลให้แฟนบอล ลาซิโอ วัย 25 ปี ที่มีชื่อว่า เอลิโอ ดิ คริสโตฟาโล กระทำอัตวินิบาตกรรมโดยการกระโดดลงรางรถไฟทิ้งจดหมายลาโลกแสดงความผิดหวังต่อดีลดังกล่าว

แต่ถึงอย่างนี้ ไลน์อัพของทีมที่แทบจะเรียกได้ว่านักเตะทุกตำแหน่งของพวกเขาเป็นแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ก็สามารถรวมใจกันกรุยทางสู่การเป็นแชมป์ในซีซันดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็น เนสต้า, เฟร์นันโด คูโต้, ซินิซา มิไฮโลวิช, ดิเอโก้ ซิเมโอเน, เดยัน สแตนโควิช, พาเวล เนดเวด, เวรอน, มันชินี และ มาร์เซโล ซาลาส

England v Croatia International Frendly at Portman Road Ipswich 2003
England v Croatia International Frendly at Portman Road Ipswich 2003 / David Ashdown/Getty Images

เร่งเวลามาที่มกราคม 2001 ทีมชาติ อังกฤษ ที่เพิ่งผิดหวังจาก เควิน คีแกน และ เกล็น ฮอดเดิล ก็ได้เดินหน้าทาบทาม อีริคส์สัน ให้เป็นนายใหญ่ สิงโตคำราม คนใหม่ กับทีมชุดโกลเด้น เจเนเรชันของ ทรีไลอ้อนส์


แต่ท่ามกลางสตาร์ อังกฤษ เต็มทีม สเวน ไม่สามารถเข็น สิงโต ตัวดังกล่าวต้านทานต่อคำสาปในการดวลลูกจุดโทษที่มีต่อพวกเขามาช้านาน ตลอดระยะเวลา 5 ปีครึ่งของ สเวน กับทีมมีเพียงความผิดผิดหวังที่น่าจดจำเท่านั้นโดยไม่ได้มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันแต่อย่างใดทั้งในปี 2002, 2004 และ 2006

ไฮไลท์ที่ยังคงติดตาเราอยู่จนถึงทุกวันนี้เป็นการไล่เข่น เยอรมนี อริตลอดกาลของพวกเขาด้วยสกอร์ถล่มทลาย 5-1, เวย์น รูนีย์ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์วัยกระเตาะผู้เดินตามรอย เดวิด เบ็คแฮม กับการถูกใบแดงไล่ออกในศึก ยูโร 2004 รวมทั้งการจับคู่กันอย่างประดักประเดิดของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดแห่งยุคสมัย

Philippines v China - AFC Asian Cup Group C
Philippines v China - AFC Asian Cup Group C / Zhizhao Wu/Getty Images

ให้หลังจากทีมชาติ อังกฤษ สเวน ยังคงอยู่ในแดนผู้ดีเป็นระยะเวลาสั้นๆ กับ แมนฯ ซิตี้ ตามด้วยทีมชาติ เม็กซิโก ไปจนถึง น็อตต์ส เคาท์ตี้ ก่อนที่เกียรติยศที่เจ้าตัวสร้างมาช่วงปลายทศวรรษที่ 90 จะเป็นเพียงอดีตอันหอมหวานเมื่อเขาไม่สามารถกกลับไปสู่จุดที่เคยอยู่ได้เลยหลังจากนั้น

หากนับงานที่ อีริคส์สัน ตอบรับหลังจากบอกลาพลพรรค สิงโตคำราม ใน ฟุตบอลโลกที่ เยอรมนี มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่เขาอยู่ด้วยเป็นเวลามากกว่า 1 ปีจากทั้งหมด 3 ทีมชาติและ 5 สโมสร


เส้นทางการคุมทีม

เดเยอร์ฟอร์ส 1977-79
ไอเอฟเค โกเตบอร์ก 1979-82
เบนฟิก้า 1982-84
โรมา 1984-87
ฟิออเรนตินา 1987-89
ซามพ์โดเรีย 1992-97
ลาซิโอ 1997-2001
อังกฤษ 2001-06
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2007-08
เม็กซิโก 2008-09
ไอวอรี โคสต์ 2010
เลสเตอร์ ซิตี้ 2010-11
กวางโจว์ อาร์แอนด์เอฟ 2013-14
เซี่งไฮ้ เอสไอพีเจี 2014-16
เสิ่นเจิ้น 2016-17
ฟิลิปปินส์ 2018


บทความชุด ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล

ผู้จัดการทีมอันดับที่ 50: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #50 : มาร์เซโล บิเอลซา
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 49: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #49 : วิค บัคกิงแฮม
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 48: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #48 : เคลาดิโอ รานิเอรี
ผู้จัดการทีมอันดับที่ 47: [FEATURE] ผู้จัดการทีมฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล #47 : บิล นิโคลสัน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด