เปิดใจครั้งแรกของ "ดร.ส่วย" ก่อนเจอกับบรมครู "น้าฉ่วย" - EXCLUSIVE
โดย W.PINTHONG
ผมมีโอกาสคุยกับ “โค้ชต้น”สุกฤษฎิ์ โยธี หรือในวงการที่เรียกเขาว่า “ดร.ส่วย ห้วยแถลง” ซึ่งเป็นกุนซือรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะปีก่อนพา อุดร ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนอีสาน ก่อนเข้าชิงตั๋วใบที่ 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก ทว่าอกหักให้กับ ราชประชา
ฤดูกาลนี้เขาขยับตัวเองมาทำ ลำปาง เอฟซี แต่คู่แข่งคือ ตราด เอฟซี ที่มีบรมครูอย่าง “น้าฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม ที่เขาเคยขโมยวิชาตอนอยู่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เขาเล่าให้ฟังว่า “ตอนผมทำ อุดร ยูไนเต็ด ปีก่อน เวลาซ้อม เราจะอยู่ที่สนามของหนองบัว ติดกับทีมชุดใหญ่ นั่นทำให้ผมเห็นการขึ้นเกมของ “น้าฉ่วย” มาตลอด ผมก็อาศัยตรงนี้แหละ คอยสังเกตุและขโมยวิชามาบ้าง ฮ่าๆๆ แต่ก็เอามาแค่บางส่วนครับ เพราะเราก็มีการทำทีมแบบตัวเองเหมือนกัน”
ผมถามเรื่องการเข้ามาชิงรอบเพลย์ออฟหนที่สอง ว่าแตกต่างกว่าปีก่อนหรือไม้ พร้อมกับเจอกับ “น้าฉ่วย” ที่เปรียบเสมือน “ครูลูกหนัง” เขามีความกดดันอย่างไร “โค้ชต้น” เล่าว่า “เอาจริงๆครับ ผมไม่กดดันเลยตอนนี้ เพราะก่อนเข้ามาเพลย์ออฟ ผมกดดันมากกว่า เนื่องจากเวลานั้นช่วงท้ายฤดูกาล เราทำแต้มหลุดมือไปเยอะ”
“แต่ก็ได้ “น้าฉ่วย” ที่ให้กำลังใจ จนผมสามารถปลุกสมาธิลูกทีมกลับมาเข้าเพลย์ออฟได้ ฉะนั้นใน 2 เกมสุดท้าย ลำปาง เอฟซี ไม่มีความกดดันแล้ว พร้อมลุยเต็มที่ครับ ส่วนการเจอกับ “น้าฉ่วย” เราสู้กันในสนามแน่นอนครับ เพราะผมเองเคารพในฐานะ “ครูลูกหนัง” สุดท้ายผลจะออกมาเป็นเช่นไร ผมก็เคารพ “น้าฉ่วย”อยู่ดี”
ปิดท้ายเรื่องของนำโชคอย่าง “กางเกงในสีเขียว” เขาบอกว่า “ผมมี 3-4 ตัวนะครับ แล้วใส่ทุกเกม สักทุกครั้ง ฉะนั้นอีก 2 นัดสุดท้าย ผมจะใส่ลงไปคุใทีมแน่นอน ฮ่าๆๆ”
นี่แหละครับอีก 1 กุนซือที่น่าสนใจ นอกจากวางแท็คติคเก่งแล้ว ยังโคตรฮาและเป็นที่รักของรุ่นน้องในเส้นทางฟุตบอล เพราะเขาเดบิวต์ในวงการลูกหนังจากสโมสรโค้ก-บางพระ ซึ่งเอาจริงๆเวลานี้ รุ่นน้องหลายคนยอมรับในตัวเขา ถึงขนาดเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง “โค้ชแมน”ธนา ชะนะบุตร ก็ยังยกให้ “โค้ชต้น” เป็นกุนซือที่น่าจับตามอง