เวนเกอร์ รับตัดสินใจพลาดที่ไม่รีบบอกลา อาร์เซนอล ตั้งแต่ก่อนปี 2018
โดย โตมร นวลประเสริฐ
อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีม สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดอกยอมรับว่าตนเองตัดสินใจผิดพลาดที่ไม่รีบบอกลา ไอ้ปืนใหญ่ ตั้งแต่ก่อนปี 2018
เวนเกอร์ เปิดเผยความรู้สึกดังกล่าวในสารคดี Arsene Wenger: Invincible ที่จะเข้าฉายใน สหราชอาณาจักร สัปดาห์นี้โดยเจาะลึกช่วงเวลา 22 ปีของเขากับ เดอะกันเนอร์ส
เขากลายเป็นผู้จัดการทีมที่พา ปืนโต ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงเวลาที่กุมบังเหียน คว้าเกียรติยศอย่างแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย โดยหนึ่งในนั้นคือแชมป์ชุดไร้พ่ายเมื่อฤดูกาล 2003/04
ทว่าในช่วงท้ายของเส้นทางการคุมทีม อาร์เซนอล เจ้าตัวถูกสาวก กูนเนอร์ส หันหลังให้เมื่อทำผลงานไม่เป็นอย่างที่หวัง อันนำไปสู่การแยกทางกันในที่สุด
"ตัวตนของผมคือสโมสร นั่นเป็นความผิดพลาดที่ผมก่อขึ้น" เวนเกอร์ กล่าวตามที่เปิดเผยใน เทเลกราฟ สื่อแดนผู้ดี "ข้อบกพร่องร้ายแรงอย่างที่สุดคือผมรักในที่ที่ผมอยู่ ที่ที่ผมเคยอยู่ มากเกินไป ผมเสียใจที่มันเกิดขึ้น ผมน่าจะไปที่อื่นเสียก่อน"
เมื่อถูกถามถึงจุดเปลี่ยนในทีม อาร์เซนอล ของเข้าตัว อดีตกุนซือในวัย 72 ปีระบุว่าคือการที่ เดวิด ดีน บอกลาตำแหน่งในบอร์ดบริหารของทีมเมื่อปี 2007
ก่อนหน้านั้น ไอ้ปืนใหญ่ ของ เวนเกอร์ เป็นทีมที่สามารถคว้าความสำเร็จมาครองได้เป็นระยะ หนึ่งในข้อพิสูจน์คือแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทั้ง 3 สมัยของทีมเกิดขึ้นก่อนหน้าปี 2007 ทั้งหมด โดยทางแยกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมย้ายสนามจาก ไฮบิวรี สู่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อปี 2006 ที่มีความจุมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อโอกาสในการเพิ่มรายรับของทีมในระยะยาว แต่นั่นก็ส่งผลกระทบต่องบประมาณการทำทีมในระยะสั้นด้วยเช่นเดียวกัน
"บางครั้งผมก็สงสัยว่า มีอะไรบางอย่างที่แตกสลายไปหลังจากฤดูกาลไร้พ่ายนั่นหรือเปล่า"
"2007 เป็นจุดเปลี่ยน มันเป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดภายในบอร์บริหาร ผมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างการจงรักภักดีกับสโมสรกับการซื่อสัตย์ต่อ เดวิด"
"ทุกวันนี้ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าตนเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะหลังจากการตัดสินใจชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผมคิดกับตนเองว่า 'เราต้องไปแล้วหลังจากสิ้นสุดโปรเจ็กท์นี้' "
"ผมสามารถไปคุมทีมชาติ ฝรั่งเศส หรือ อังกฤษ 2-3 โอกาสด้วยซ้ำ ผมได้รับการทาบทามจาก เรอัล มาดริด 2 ครั้ง กระทั่ง ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แมนฯ ยูไนเต็ด"
"แต่ตอนนี้ไม่มีเหตุผลพิเศษใดๆ ที่ผมจะกลับไปที่นั่น (นับตั้งแต่การแยกทางกับทีมเมื่อ 3 ปีก่อน) ที่เหลืออยู่ทั้งหมดเป็นอารมณ์ล้วนๆ ซึ่งนั่นมีความสำคัญน้อยกว่า มันคือจุดจบของชีวิต อย่างน้อยก็ชีวิตของคนคนหนึ่ง มันราวกับงานศพ ปลายทางของเรื่องรักนั้นลงเอยด้วยความเศร้าโศกเสมอ"
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด