ทีมชาติอังกฤษ ยูโร 2020 พรีวิวฉบับเต็ม: นักเตะคีย์แมน, จุดแข็ง-จุดอ่อน และคาดการณ์ผลงาน
โดย โตมร นวลประเสริฐ
ทีมชาติอังกฤษ กรุยทางสู่ศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2020) ในฐานะหนึ่งในทีมเต็งอีกครั้ง แต่ศึกชิงเจ้ายุโรปหนนี้พวกเขาจะสามารถสร้างความแตกต่างจากคราวที่แล้วมาได้หรือไม่
ประโยค 'อิทส์ คัมมิง โฮม' (ฟุตบอลกำลังกลับบ้าน) ถูกย้อนนำมาใช้งานอีกครั้งด้วยเพื่อปลุกเร้าการเดินหน้าเพื่อการคว้าแชมป์รายการนี้
ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นหนึ่งในชาติที่มีทรัพยากรน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ทีมซึ่งจบด้วยอันดับที่ 4 ของศึก ฟุตบอลโลก 2018 จะได้เล่นเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ เวมบลีย์ และสนามดังกล่าวยังเป็นที่จัดการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศกับนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย
นักเตะของ อังกฤษ ชุดนี้กลายเป็นแข้งขวัญใจมหาชนจากสถานะการเป็นดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมากลายเป็นตัวหลักของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เกมยากในรอบแบ่งกลุ่มกับอริอย่าง โครเอเชีย และเพื่อนบ้านอย่าง สกอตแลนด์ ก็ทำให้ สิงโตคำราม ไม่อาจย่ามใจได้
ทีมชาติอังกฤษ มีโปรแกรมเตะนัดแรกในวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายนนี้ เวลา 20:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย และต่อไปนี้คือทุกสิ่งที่คุณควรรู้สำหรับความคาดหวังของพลพรรค ทรีไลอ้อนส์
โร้ด ทู ยูโร 2020: อังกฤษ
อังกฤษ ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ที่มีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง สาธารณรัฐเช็ก, โคโซโว, บัลแกเรีย และ มอนเตเนโกร ด้วยการคว้าชัยชนะ 7 จาก 8 นัด โดยมีเพียงทีมชาติ เบลเยียม (40 ประตู) เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่า อังกฤษ (37 ประตู) ในรอบดังกล่าวซึ่ง แฮร์รี เคน กลายเป็นดาวซัลโวในรอบนี้ที่สถิติการซัลโว 12 ประตู
ให้หลังจากนั้น พวกเขาจบศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก ด้วยการคว้าอันดับที่ 3 ของกลุ่มตามหลัง เบลเยียม และ เดนมาร์ก แต่สามารถกำชัยชนะโปรแกรม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 6 นัดหลังสุด ซึ่งโดยรวมนับว่าทีมอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงสุดๆ
จุดแข็งทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020
นับเป็นครั้งแรกของทีมชาติ อังกฤษ นับตั้งแต่ยุค 'โกลเด้น เจเนอเรชัน' ภายใต้การคุมทีมของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ที่พวกเขามีทรัพยากรชั้นนำให้เลือกลงสนามเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบรรดาแข้งตัวรุกที่มีคุณภาพ
ทีมของ เซาธ์เกต บนหน้ากระดาษดูน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อเต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งและขุนพลหน้าใหม่ดาหน้าเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมจากแกนหลักใน ฟุตบอลโลก 2018
พวกเขาร่วมวง ยูโร 2020 ด้วยการต่อยอดความสำเร็จที่มีจากระดับสโมสรอย่างแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (เมสัน เมาท์), เด็กปั้นของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (ฟิล โฟเด้น), ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก (แฮร์รี เคน) และกัปตันจาก ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แฮร์รี แม็คไกวร์)
อังกฤษ ในยุคของ เซาธ์เกต ดูจะสามารถรับมือกับความกดดันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้ดีเมื่อพวกเขาเคยไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศของ เวิลด์คัพ 2018 และ ยูฟ่า เนชันส์ลีก 2018/19 และการได้เล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง ยูโร 2020 ในบ้านตัวเองที่ เวมบลีย์ พร้อมกับเสียงเชียร์ของแฟนบอลจะมีส่วนผลักดันพวกเขาให้พาฟุตบอล 'กลับบ้าน' ได้ไม่มากก็น้อย
จุดอ่อนทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020
ประสบการณ์บนเวทีระดับนานาชาติ, แข้งกระดูกเปราะและความไม่หลากหลายของแท็คติกจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ดูจะเป็นปัญหาที่ อังกฤษ ต้องเผชิญใน ยูโร 2020
แม้ว่า สิงโตคำราม ชุดนี้จะเต็มไปด้วยแข้งดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเต็มทีม นับเป็นชาติที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของรายการนี้โดยมีนักเตะเพียง 4 รายจากทั้งหมด 26 คนที่ติดทีมชาติมากกว่า 50 นัด (เฮนเดอร์สัน, เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ไคล์ วอล์คเกอร์) และอีก 16 รายเป็นการเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรก
นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ยูโร 2020 อาจไม่ใช่จุดพีคของทีมชุดนี้โดยมีความเป็นไปได้ที่เวลาจะบ่มเพาะพวกเขาให้ยกระดับสู่จุดสูงสุดใน ฟุตบอลโลก 2022 หรือ ยูโร 2024
ประเด็นถัดมาคือแข้งคีย์แมนอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เพิ่งจะสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่นานซึ่งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและมิดฟิลด์ตัวกลางยังคงเป็นปัญหาสำหรับ เซาธ์เกต แม้ว่าทั้งคู่จะฟิตเต็มถังก็ตาม
ท้ายที่สุด เซาธ์เกต ดูจะเป็นกุนซือที่ได้รับการเคารพจากบรรดาลูกทีมและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลจากความสำเร็จการพาทีมไปได้ไกลใน เวิลด์คัพ 2018 และ เนชันส์คัพ 2018/19 แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับนายใหญ่วัย 50 ปีคือความหลากหลายในเชิงแท็คติกของเจ้าตัวจากหลักฐานที่เกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมกับ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2018 นัดตัดเชือก เช่นเดียวกับแมตช์รอบรองฯ กับ เนเธอร์แลนด์ ใน เนชันส์ลีก
กลเม็ดที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมเมื่อต้องดวลกับชาติระดับท็อปยังคงเป็นสิ่งที่ เซาธ์เกต ต้องพิสูจน์ตนเอง
คีย์แมนทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020
แฮร์รี เคน ยังคงยืนหนึ่งเป็นนักเตะที่ อังกฤษ ขาดไม่ได้ในศึก ยูโร ครั้งนี้โดยแฟนบอล สิงโตคำราม ภาวนาว่าหัวหอกจากค่าย ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ จะไม่กระสุนด้านไปเสียก่อนหลังจากทำผลงานส่วนตัวบนเวที พรีเมียร์ลีก 2020/21 ได้ถล่มทลายจากการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวพ่วงแข้งที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดประจำซีซัน
เมสัน เมาท์, ฟิล โฟเด้น และ แจ็ค กรีลิช ขับเคี่ยวกันในบทบาทตัวรุกคอยปั้นเกมให้กับ เคน เช่นเดียวกับบรรดานักเตะสายเปิดป้อนรายอื่นในทีมชุดนี้ที่ เซาธ์เกต ต้องผสมผสานให้ลงตัว
แม็คไกวร์ ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บอาจไม่สมบูรณ์แบบนักแต่ปราการหลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คชั้นนำของ อังกฤษ เวลานี้ การขาดเจ้าตัวในช่วงต้นของทัวร์นาเมนต์จากแมตช์ฟิตอาจทำให้นายใหญ่ ทรีไลอ้อนส์ ต้องจัดทัพด้วยรูปแบบ 3 ปราการหลังตัวกลางเพื่อความรัดกุมเป็นอันดับแรก
ดีแคลน ไรซ์ เป็นนักเตะห้องเครื่องในบทบามโฮลดิ้งมิดฟิลด์ที่มีภาษีดีกว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยกองกลางจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะเป็นหัวใจสำคัญต่อการขับเคลื่อนเกมที่แดนกลางของ อังกฤษ
รายชื่อ 26 แข้งทีมชาติอังกฤษลุย ยูโร 2020
ผู้รักษาประตู
ดีน เฮนเดอร์สัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แซม จอห์นสตัน (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)
จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน)
กองหลัง
เบน ชิลเวลล์ (เชลซี)
คอเนอร์ โคอาดี้ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)
รีซ เจมส์ (เชลซี)
แฮร์รี แม็คไกวร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ไทโรน มิงส์ (แอสตัน วิลลา)
ลุค ชอว์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
จอห์น สโตนส์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
คีแรน ทริปเปียร์ (แอตเลติโก มาดริด)
ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เบน ไวท์ (ไบรท์ตัน)
กองกลาง
จู๊ด เบลลิงแฮม (โบรุสเซีย ดอร์มุนด์)
ฟิล โฟเด้น (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
แจ็ค กรีลิช (แอสตัน วิลลา)
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล)
เมสัน เมาท์ (เชลซี)
คาลวิน ฟิลลิปส์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด
ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
บูคาโย ซาก้า (อาร์เซนอล)
เจดอน ซานโช (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
กองหน้า
โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน (เอฟเวอร์ตัน)
แฮร์รี เคน (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)
มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
คาดการณ์ทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020
ให้หลังจากทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2018 ที่พวกเขาไปได้ไกลเกินคาด มาตอนนี้ทีมตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต้องเค้นผลงานที่ดีให้ได้อย่างต่อเนื่องจากทรัพยากรชั้นยอดภายในทีมโดยเฉพาะบรรดาแข้งตัวรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ตัวแปรสำคัญที่การปรุงทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ว่าจะสามารถเค้นส่วนผสมดังกล่าวให้ออกมากลมกล่อมเพียงใด โดยมีหมุดหมายที่การย้อนรอยแฟนบอล อังกฤษ ที่จะได้ดูทีมชาติของตัวเองฟาดแข้งใน เวมบลีย์ ในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996
แต่ภายใต้ทรัพยากรระดับท็อป อังกฤษ ชุดนี้ของ เซาธ์เกต ยังไม่เคยมีแมตช์ล้มยักษ์ที่น่าจดจำให้เราสัมผัสเลยซึ่งการต้องเผชิญหน้ากับบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด อย่าง เยอรมนี, ฝรั่งเศส หรือ โปรตุเกส ที่อาจจะเป็นคู่ต่อกรของพวกเขาในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นแมตช์ที่สาวก สิงโตคำราม ต้องลุ้นตัวโก่ง
คาดการณ์เส้นทางของทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020: รอบ 8 ทีมสุดท้าย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด