คริสตัล พาเลซ 1-3 ลิเวอร์พูล: สรุป 4 ประเด็นสำคัญหลังศึก พรีเมียร์ลีก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน:ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2022
เวลาแข่งขัน: 21:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม: เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
1. เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ขึ้นแท่นปราการหลังจอมพังประตู
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กลายเป็นแข้งที่ทำประตูเบิกร่องให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้เมื่อเป็นคนเติมขึ้นไปเล่นลูกเตะมุม ทะยานโขกเหน่งๆ บอลพุ่งเป็นจรวดตุงตาข่ายชนิดที่ บิเซนเต้ กูไอต้า หมดสิทธิ์เซฟ
นับเป็นประตูใน พรีเมียร์ลีก ลูกที่ 12 สำหรับเจ้าตัวตั้งแต่เป็นผู้เล่นของ หงส์แดง และไม่มีกองหลังคนใดทำประตูได้มากเทียบเท่า VVD บนลีกสูงสุดแดนผู้ดีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (2017/18)
2. ร็อบโบ้ กับ 2 แอสซิสต์
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ออกสตาร์ทด้วยการเปิดลูกเตะมุมให้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ทะยานโขกลูกเตะมุมก่อนที่จะเป็นเจ้าตัวอีกครั้งที่ครอสให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ซัดลูก 2-0 ช่วงกลางครึ่งแรก
2 แอสซิสต์ดังกล่าวของ ร็อบโบ้ ทำให้เขาทะยานกลายเป็นแข้งท็อป 3 ที่ทำแอสซิสต์บน พรีเมียร์ลีก ได้สูงสุดซีซันนี้ (8 แอสซิสต์) ตามหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (9 แอสซิสต์) และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (10 แอสซิสต์)
3. อลิสซอน งัดซูเปอร์เซฟต่อเนื่อง
กลายเป็นเกมที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่สามารสร้างความแตกต่างและเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทีมเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ในเกมนี้
นายด่านทีมชาติ บราซิล งัดเซฟชนิดแทบเป็นไปไม่ได้ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเสีย 1 ประตูให้กับเจ้าถิ่นแต่ลูกดังกล่าวก็หมดสิทธิ์ที่เจ้าตัวจะป้องกัน
4. ช่องว่างกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ยังมีลุ้น
ผลจากชัยชนะในเกมนี้ของ หงส์แดง ทำให้พวกเขาลดช่องว่างกับ เรือใบสีฟ้า ที่ตำแหน่งจ่าฝูงเหลือเพียง 9 แต้มเมื่อทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา หลุดเสมอกับ เซาแธมป์ตัน เมื่อคืนวันเสาร์ และ เร้ดแมชีน ยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 1 นัด