จิตวิญญาณแห่ง "ฉลามชล" !! "โค้ชเตี้ย" และ "เฮงซัง" ขอไม่รับเงินเดือนเกือบ 1 ปี
โดย W.PINTHONG
แฟนบอล ชลบุรี เอฟซี หลายคนอาจจะชอกช้ำกับการเสีย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ไปให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวทะลุ 30 ล้านบาท แต่มันก็แลกมาด้วยการนำเงินจาก 1 คน มาหล่อเลี้ยงอีก 100 ชีวิตของสโมสร ตามปรัชญาของ คุณอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร ที่ได้สร้างเอาไว้
อย่างที่เคยบอก คุณอรรณพ สิงห์โตทอง ได้เคยระบุไว้ว่า "เมื่อตอนที่เราขาย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, อดุล หละโสะ, ปกเกล้า อนันต์ หรือ นูรูล ศรียานเก็ม เราก็เอาเงินตรงนั้นไปสร้าง ยิม กับ แระห์ (กฤษดา กาแมน) ขึ้นมา และเงินที่เราขาย ยิม ก็จะเอาไปสร้างเด็กๆรุ่น 48, 49, 50 ต่อไป"
นั่นเป็นเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของ "ฉลามชล" ในการทำ "ธุรกิจฟุตบอล" กับเด็กที่พวกเขาเลี้ยงเอาไว้มาหลายสิบปี ก่อนเป็นสินค้าที่การันตีด้วยฟอร์มการเล่น พร้อมก้าวขึ้นไปสู่ทีมชาติไทย จนมีมูลค่าอันมหาศาล เหมือนที่พวกเขาได้มาจากหลายคนที่ก้าวเท้าออกไปจากถิ่น ชลบุรี สเตเดี้ยม อย่างยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามมีอีกมุมที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า "จิตวิญญาณแห่งฉลาม" ก็ย่อมได้
"บอสบอล"ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ชลบุรี เอฟซี เปิดใจผ่านรายการ This is football thai กรณีที่น่าสนใจ
ก่อนจะขาย “ยิม”วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สโมสรเจอพิษโควิดเล่นงานอย่างหนัก โดยมีสปอนเซอร์บางรายถอนออกไป หรือบางแห่งชะลอการจ่ายเงิน ทำให้จ่ายเงินเดือนนักเตะแค่ 30-50% บ้าง
หรือนักเตะต่างชาติยังไม่ได้ค่าเซ็นสัญญา 1 ล้านบาท หรือคนอื่นๆก็ด้วย แต่ไม่มีใครเคยออกมาฟ้องร้อง รวมทั้งไม่มีใครเคยไปพูดกับสื่อไหน เพื่อให้มาโจมตีสโมสร แต่ไฮไลท์อยู่ที่ 2 ผู้นำของ “ฉลามชล”
“โค้ชเตี้ย”สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ของทีม ยอมไม่รับเงินเดือน 9 เดือน แต่เขาทำงานอย่างหนัก ส่วน “โค้ชเฮง”วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของสโมสร ยอมไม่รับเงินเดือน 7 เดือน เพื่อช่วยสถานะการเงิน หัวจิตหัวใจของพวกเขา … มันทำให้เห็นถึงความเป็น “ฉลาม”โดยแท้