เชลซี พบ แมนยู : วิเคราะห์ 5 ประเด็นร้อนก่อนศึกบิ๊กแมตช์ใน พรีเมียร์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ2020/21
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2021
เวลาแข่งขัน : 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : เชลซี พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ถ่ายทอดสด :true Premier Football HD1

1. 3-4-1-2 ของ ทูเคิล

สิงห์บลู จะขาดเพียง ติอาโก้ ซิลวา รายเดียวเท่านั้นที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บติดตัวจนชวดลงสนามให้กับทีมในเกมนี้โดย อันเดรียส คริสเตนเซน จะทำหน้าที่แทนในบทบาทปราการหลังตัวกลางเคียงข้างกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์

คัลลัม-ฮัดสัน โอดอย จะได้เบียดแย่งตำแหน่งกับ รีซ เจมส์ ที่วิงแบ็คฝั่งขวา ขึ้นอยู่กับว่า โธมัส ทูเคิล ต้องการสมดุลเกมรับ-เกมรุกแบบใด เช่นเดียวกับ มาร์กอส อลอนโซ กับ เบน ชิลเวลล์ ที่วิงแบ็คฝั่งซ้ายโดย ฮัดสัน-โอดอย ลงเล่นมา 80 นาทีในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลางสัปดาห์กับ แอตเลติโก มาดริด ขณะที่ อลอนโซ ทำหน้าที่เต็ม 90 นาทีซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 จะถูกโรเตชันเพื่อรักษาสภาพความสดโดยรวมของทีมด้วยเช่นกัน

จอร์จินโญ กับ มาเตโอ โควาชิช ไร้ปัญหาในการจับคู่กันที่แดนกลาง โดยยังคงเบียดเอา เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่แม้จะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแต่ก็จะทำได้เพียงนั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง ขณะที่ เมสัน เมาท์ ขับเคลื่อนเกมรุกด้านหลัง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ หรือ แทมมี อับราฮัม

2. คาด โซลชา ปรับ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-4-1-2

ด้วยอาการบาดเจ็บของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ทำให้มิดฟิลด์ทีมชาติ สกอตแลนด์ ชวดลงสนามในเกมนี้ทำให้ โอเล กุนนาร์ โซลชา ต้องส่ง เนมานยา มาติช จับคู่กับ เฟร็ด ที่แดนกลางโดยมีความเป็นไปได้สูงที่นายใหญ่ชาว นอร์เวย์ จะปรับทัพใช้ 3 ปราการหลังตัวกลางเมื่อประสิทธิภาพในแผงมิดฟิลด์ลดลงไปเมื่อไร้ แม็คโทมิเนย์

เอริค ไบยี มีแนวโน้มที่จะเข้ามายืนร่วมกับ แฮร์รี แม็คไกวร์ และ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ โดยมี ลุค ชอว์ ที่อาจสอดแทรกขยับมายืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย

บรูโน แฟร์นันด์ส จะปักหลักอยู่หลังคู่กองหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อองโตนี มาร์กซิยาล หรือ เอดินสัน คาวานี หากหัวหอกทีมชาติ อุรุกวัย ฟิตทันเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่สามารใช้งาน ปอล ป็อกบา, ฆวน มาต้า, ฟิล โจนส์ ได้อย่างแน่นอนจากอาการเดี้ยง ขณะที่ ดอนนี ฟาน เดอ เบค และ แดเนียล เจมส์ มีสภาพร่างกายไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์

3. คาดการณ์ความเป็นไปของเกม

สิงโตน้ำเงินคราม ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล กลายเป็นทีมที่โดดเด่นในการครอบครองบอลอย่างเยือกเย็น ต่อบอลทำเกมรุกตามช่องโดยที่วิงแบ็คทั้ง 2 ข้างเติมสูงขึ้นสุด

ขณะที่ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด คาดการณ์ว่าจะเล่นเกมรับอย่างแน่นหนา การใช้ 3 ปราการหลังบวกกับวิงแบ็คจะทำให้การป้องกันที่ริมเส้นของทีมต่อกรกับเกมรุกของเจ้าถิ่นได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

เกมจะวัดกันโดยความเด็ดขาดในพื้นที่สุดท้ายของ สิงห์บลู สำหรับเจ้าถิ่น และความเฉียบคมในเกมสวนกลับของทีมเยือนสำหรับ ปีศาจแดง

4. คีย์แมนตัดสินเกม

เชลซี - เมสัน เมาท์
หลังจากที่กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงในทัพ เดอะบลูส์ ได้อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล เจ้าหนูมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ วัย 22 ปีเป็นก็ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องและเป็นกำลังสำคัญของทีมตลอดมาในช่วงหลังทั้งบทบาทการสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมและการจบสกอร์ด้วยตนเอง

แมนฯ ยูไนเต็ด - บรูโน แฟร์นันด์ส
มิดฟิลด์ทีมชาติ โปรตุเกส เป็นคีย์แมนให้กับ ปีศาจแดง ต่อเนื่องนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพในตลาดหน้าหนาว 2020 โดยเจ้าตัวมีส่วนร่วมกับการได้ประตูของ เร้ดเดวิลส์ ไปแล้ว 35 ครั้ง (22 ประตู 13 แอสซิสต์) จากการลงเล่นทั้งหมด 38 นัดเมื่อรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้

5. สถิติที่น่าสนใจ

- แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้พ่ายในเกมเยือน พรีเมียร์ลีก 19 นัดติดต่อกัน

- สิงห์บลู เก็บคลีนชีทในเกมเหย้า พรีเมียร์ลีก 3 นัดหลังสุดโดยยังไร้พ่ายในเกมเหย้าบนลีกสูงสุดมาแล้ว 10 เกมจาก 11 นัดหลังสุด

- ปีศาจแดง มีสกอร์นำทั้งในครึ่งแรกและเมื่อจบเกมในเกมเยือน เดอะบลูส์ 3 นัดหลังสุดเมื่อรวมทุกราย

- พลพรรค เร้ดเดวิลส์ คว้าชัยเหนือ สิงโตน้ำเงินคราม ในการบุกมาเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 3 นัดหลังสุดเมื่อรวมทุกรายการ

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด