เบิร์นลีย์ 0-4 เชลซี: ชำแหละ 4 ประเด็นหลังชัยชนะของ สิงห์บลู
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2022
เวลาแข่งขัน: 22:20 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: เบิร์นลีย์ 0-4 เชลซี
สนาม: เทิร์ฟมัวร์
1. ครึ่งแรกที่ไีร้สกอร์
เชลซี เป็นฝ่ายรอบครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจนตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก ส่วนผสมในแดนกลางอย่าง จอร์จินโญ กับ เอ็นโกโล ก็องเต้ ทำให้ทีมเยือนคุมเกมได้โดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่พวกเขากลับไม่อาจใช้การครองบอลดังกล่าวสร้างสรรค์โอกาสแบบถนัดถนี่ได้ดีนัก
โดยอีกทางหนึ่ง พลพรรค เดอะคลาเร็ตส์ ของ ฌอน ไดช์ แพ็คเกมรับอย่างแน่นหนาจากศัยภาพผู้เล่นที่เป็นรอง หลายครั้งที่เราเห็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ทั้ง 10 คนของเจ้าถิ่นยืนคุมโซน รอจังหวะคอยฉวยฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแข้ง สิงโตน้ำเงินคราม
2. เชลซี ปลดล็อคต้นครึ่งหลัง
เกมที่ทำท่าจะอึดอัดของ เชลซี ถูกปลดล็อคตั้งแต่นาทีที่ 47 เมื่อบอลถ่ายจากซ้ายมาขวาไปถึง รีซ เจมส์ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ล็อคหลอกแนวรับของ เบิร์นลีย์ 2 จังหวะก่อนตะบันด้วยขวาบอลไปซุกที่ก้นตาข่าย
นับเป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวเมื่อรวมทุกรายการในซีซันนี้ และไม่มีนักเตะในตำแหน่งกองหลังคนใดในลีกท็อปไฟว์ของ ยุโรป ที่ทำประตูได้มากกว่า 5 ลูกนอกจากวิงแบ็คของ สิงห์บลู รายนี้
3. 3 ประตูในช่วงเวลาไม่ถึง 10 นาทีทำเกมขาด
ให้หลังจากการได้ประตูเบิกร่องไม่กี่อึดใจ ทีมเยือนรัวยิงสกอร์ขาดเป็น 3-0 ภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 10 นาที ไล่เรียงจากลูกครอสที่ริมเส้นฝั่งขวาของ คริสเตียน พูลิซิช ไปถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งพังประตูที่เสาสองเป็นลูก 2-0 ตามด้วยการหลุดเข้าไปเปิดเลียดให้ดาวเตะชาว เยอรมัน แท็ปอินสู้ก้นตาข่ายโล่งๆ
นับเป็นจุดเปลี่ยนภายในระยะเวลาอันสั้นที่ทำให้เกมของทัพ สิงโตน้ำเงินคราม คลายความกดดัน
4. ฮาแวร์ตซ์ แววปักหลักยาวที่ตำแหน่งศูนย์หน้า
ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกสตาร์ทรับบทบาทกองหน้าตัวเป้าในรูปแบบการเล่น 3-4-2-1 โดยการเคลื่อนที่ของเขายังคงสร้างปัญหาให้กับเนวรับคู่แข่งเช่นเคย
ความฉมังของการจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายทั้งการโหม่งพังประตู และการโฉบเพื่อแท็ปอินในกรอบ 6 หลายิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความเด็ดขาดของแข้งวัย 22 ปีรายนี้
โดยนับตั้งแต่ที่ โธมัส ทูเคิล รับตำแหน่งเป็นกุนซือของ เชลซี ไม่มีนักเตะคนใดทำประตูได้มากกว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ (13 ประตู)