เบิร์นลีย์ 0-3 ลิเวอร์พูล : วิเคราะห์ 4 ประเด็นหลังเกม หงส์แดง ถลุง เดอะคลาเร็ตส์ ทะยานรั้งที่ 4 พรีเมียร์ลีก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 200 พฤษภาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 02:15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : เบิร์นลีย์ 0-3 ลิเวอร์พูล
สนาม : เทิร์ฟ มัวร์
1. ความเป็นไปของเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์
เป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทได้เหนือกว่าตามคาดโดยลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าพร้อมทั้งสร้างโอกาสไ้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเกมทว่าแนวรับที่สูงใหญ่ของ เบิร์นลีย์ ตั้งโซนอย่างแข็งแกร่งจนทำให้พวกเขาไม่ได้จบสกอร์อย่างถนัดถนี่นัก ก่อนที่ เดอะคลาเร็ตส์ จะจับจังหวะตั้งเกมของตนเองได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก ทว่าสมาธิที่ริมเส้นฝั่งขวาของพวกเขาก็หายไปเปิดช่องให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ประสานงานกับ ซาดิโอ มาเน หลุดเข้าไปครอสเลียดให้กับ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน แท็ปอินเหน่งๆ เป็นประตูเบิกร่อง
โมเมนตัมของเกมกลายเป็นของ หงส์แดง ต่อเนื่องในครึ่งหลังกระทั่งทีมมาได้ประตู 2-0 จากการครอสของ ซาดิโอ มาเน ให้กับ แนท ฟิลลิปส์ ทะยานโขก และปิดกล่องโดยประตูจาก อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน 3-0 ในช่วงท้ายเกม
2. ร็อบโบ้ ปลดล็อคแอสซิสต์
แทบไม่น่าเชื่อว่าครั้งสุดท้ายที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมบนเวที พรีเมียร์ลีก ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนธันวาคม 2020 โดย 2 แอสซิสต์ในเกมนี้กับ เบิร์นลีย์ นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวสามารถผ่านบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ในรอบ 23 เกม และเป็น 2 แอสซิสต์ในนัดเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เมษายน 2019
3. ฟิลลิปส์-รีส วิลเลียมส์ เอาตัวรอด
คล็อปป์ มอบความไว้วางใจให้ แนท ฟิลลิปส์ จับคู่กับ รีส วิลเลียมส์ ในตำแหน่งคู่ปราการหลังตัวกลางต่อเนื่องและเป็นอีกครั้งที่จุดอ่อนด้านความเร็วของทั้งคู่ถูกเล่นงาน
หงส์แดง ยังคงดันไลน์แนวรับขึ้นสูงเพื่อบีบพื้นที่คู่ต่อสู่เช่นเคยโดยเจ้าบ้านแก้เกมตามสูตรด้วยการวางบอลข้ามหัวกองหลังให้ คริส วูด หรือ จอช บราวน์ฮิลล์ โฉบสปีดเก็บบอลเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย โชคดีที่แนวรุกของ เดอะคลาเร็ตส์ ไม่อาจฉวยโอกาสเอาไว้ได้ก่อนที่โมเมนตัมของเกมจะตกเป็นของ หงส์แดง เมื่อทีมได้ประตูขึ้นนำช่วงท้ายครึ่งแรกโดยคู่เซ็นเตอร์แบ็คของ เร้ดแมชีน สามารถยกระดับของตนเองได้ในครึ่งหลังก่อน ฟิลลิปส์ จะโหม่งพังประตู 2-0 และนับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในเส้นทางค้าแข้งอาชีพอีกด้วย
4. ลิเวอร์พูล กุมอนาคตตั่ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ผลจากการเก็บชัยชนะในนัดนี้ของ ลิเวอร์พูล และความพ่ายแพ้ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ต่อ เชลซี ทำให้ หงส์แดง ทะยานแซง จิ้งจอกสีน้ำเงิน ขึ้นไปรั้งอันดับที่ 4 บนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อย ก้าวขาข้างหนึ่งสู่ทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
อันดับที่ 4 ลิเวอร์พูล แข่ง 37 นัดมี 66 คะแนน +24 ประตู
อันดับที่ 5 เลสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 37 นัดมี 66 คะแนน +20 ประตู
ทั้งนี้ โปรแกรมนัดสุดท้ายของฤดูกาล เร้ดแมชีน จะเล่นใน แอนฟิลด์ พบกับ คริสตัล พาเลซ ขณะที่ จิ้งจอกสีน้ำเงิน จะดวลกับทัพ ไก่เดือยทอง ที่ คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด