วันวานของครอบครัว "สายฟ้า" ที่นับเวลารอเล่นพร้อมกัน - FEATURE

สุภโชค สาระชาติ - ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา - โชติกะ เหมือนตา
สุภโชค สาระชาติ - ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา - โชติกะ เหมือนตา / BURIRAM UNITED
facebooktwitterreddit

ไม่รู้ว่าอนาคตจะได้มีโอกาสเห็น 3 พี่น้องเล่นด้วยกันหรือไม่ เพราะก็อยากให้พี่ชายคนโตอย่าง “เช็ค”สุภโชค สารชาติ ได้โบยบินยาวๆกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่เขาเล่นกับ “ปราสาทสายฟ้า” นับว่าพัฒนาตัวเองขึ้นมาก จนสามารถพูดได้อย่างเต็มๆปากแล้วว่า “ไทยลีก” เล็กไปแล้ว สำหรับเขา

แต่ช่วงที่โตขึ้นมา น้องชายอย่าง “เจ้าแบงค์”ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก็ได้เดบิวต์กับ “ปราสาทสายฟ้า” ในวัย 15 ปี เรียกได้ว่าตามพี่ชายมาอย่างไม่ขาด นอกจากจะพัฒนาทั้ง ร่างกาย จิตใจ ความกระหาย และความคมในเขตโทษ เหมือนเกมล่าสุดโขกให้ทีมชาติไทย ยู 23 เสมอ 2-2 ยังได้ลุ้นเป็นตัวหลักในซีซั่นหน้า

อาจไม่ได้เป็นตัวจริงบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะลุกจากม้านั่งสำรอง มากระชากลากเลื้อยทางริมเส้น แต่ก็ยังแอสซิสต์และทำประตูสำคัญๆได้ ในถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” เขาอาจจะเป็นน้องเล็ก แต่พิษสงกลับทำให้แนวรับฝั่งตรงข้ามหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ยามกระชากบอลหรือเข้าทำประตู แต่ในทีมยู 23 เขาต้องเป็นตัวหลัก ที่ทีมจะขาดไปไม่ได้

เพราะด้วยประสบการณ์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผ่านมาแล้วทุกรายการทั้งไทยและเอเชีย การทำประตูวันนี้จากลูกเปิดของ กรวิชญ์ ทะสา เห็นชัดว่าความหิวกระหายในการทำประตูยังคมกริบ เล่น 90 นาทีแรงไม่หมด นี่แหละเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ

คราวนี้ก็คงรอแค่ “เจ้าดอลล่าห์”โชติกะ เหมือนตา น้องชายคนสุดท้องวัย 17 ปี ก้าวมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ แม้ว่าจะไม่ทันพี่ชายคนโต ที่ออกไปเจ ลีก ทว่าพี่คนรองก็พร้อมซัพพอร์ตให้เสมอ เหมือนที่ผ่านมาไปซ้อมก็ไปด้วยกัน ไปกินกาแฟก็ไปด้วยกัน ฉะนั้นถ้ากองหลังร่างยักษ์ถูกเรียกขึ้นมา เขาคงจะต้องเก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด

ไม่รู้ว่าจะมีโอดาสเห็น 3 พี่น้อง ลงเล่นพร้อมกันให้ “ปราสาทสายฟ้า” หรือไม่ แต่แฟนบอลเห็นพวกเขาได้เติบใหญ่ในถิ่น ช้าง อารีนา ก็คงปลื้มไม่น้อย