[BEST XI] African Ultimate Team ! จัดทีม 11 สุดยอดผู้เล่นแอฟริกา ที่เคยเข้ามาค้าแข้งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
1. ผู้รักษาประตู - เอดูอาร์ด เมนดี้
หลายคนคงสงสัยว่านายด่านป้ายแดงชาว เซเนกัล ของ เชลซี ที่พึ่งจะย้ายมานี้คือผู้รักษาประตูจากทวีปแอฟริกา ที่ดีที่สุดแล้วจริงหรือ ? อันนี้คงต้องรออนาคตเป็นตัวตัดสินผลงาน แต่หากมองย้อนไปในอดีตลีกสูงสุดของอังกฤษ แทบไม่มีผู้รักษาประตูจากกาฬทวีปคนใดที่สามารถยึดตำแหน่งมือ 1 ในทีมได้เลย และจากฟอร์มที่ลงเล่นให้ สิงห์บลู นัดก่อน ๆ บอกได้เลยว่า เมนดี้ มีของดีที่รอจะโชว์ให้แฟน ๆ พรีเมียร์ลีก ได้ดูกันอีกเยอะแน่นอน
2. แบ็คขวา - โลรองต์ เอตาเม
อดีตแบ็คขวาระดับตำนานชาว แคเมอรูน ของ อาร์เซนอล และ พอร์ทสมัธ ที่ อาแซน เวงเกอร์ ทุ่มเงินเกือบ 10 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2000 โดยเจ้าตัวประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ ทีมปืนใหญ่ ด้วยการเป็นตัวหลักในทีมชุดไร้พ่ายเมื่อปี 2004 เคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาแล้วถึง 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 4 สมัยด้วยกัน
3. เซ็นเตอร์แบ็ค - โคโล ตูเร
กองหลังจอมแกร่งชาว ไอวอรี่โคสต์ ที่เคยค้าแข้งกับทีมใหญ่ถึง 3 ทีมด้วยกันประกอบด้วย อาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ลงเล่นในลีกสูงสุดรวม 354 นัดทำได้ 12 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ แถมเคยคว้าแชมป์ลีกกับ ปืนใหญ่ และ เรือใบสีฟ้า ทีมละหนึ่งสมัยอีกด้วย
4. เซ็นเตอร์แบ็ค - เซบาสเตียน บาสซง
ปราการหลังตัวกลางชาว แคเมอรูน ที่แจ้งเกิดกับ นิวคาสเซิล ก่อนจะมาโด่งดังกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในช่วงยุคทองสมัยกุนซือ ฮอร์รี เร้ดแนปป์ แถมหลังจากนั้นยังย้ายไปเล่นให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วัตฟอร์ด และ นอริช ซิตี้ รวมแล้วลงเล่นในลีกสูงสุดไปแล้วกว่า 177 เกมด้วยกัน
5. แบ็คซ้าย - เบอนัว อัสซู-เอก็อตโต
แบ็คซ้ายจอมบุกชาว แคเมอรูน ที่แจ้งเกิดและโด่งดังกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ โดยเจ้าตัวลงเล่นให้กับ ทีมไก่เดือยทอง เป็นระยะเวลาถึง 8 ฤดูกาลด้วยกัน ลงสนามไปทั้งสิ้น 155 นัดใน พรีเมียร์ลีก ยิงได้ 4 ประตูกับอีก 8 แอสซิตส์ด้วยกัน
6. กองกลาง - มิชาเอล เอสเซียง
ยอดกองกลางชาว กานา ของ เชลซี ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกให้เป็นตัวรับที่ดีที่สุดในโลก โดยเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ สิงโตน้ำเงินคราม ถึง 9 ปี น่าเสียดายที่ต้องมาถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักจนไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ แต่อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์รายนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คว้าแชมป์ร่วมกับทีมมาแล้วครบทุกรายการตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปี 2014
7. กองกลาง - ยายา ตูเร
กองกลางชาว ไอวอรี่โคสต์ ที่ยุคหนึ่ง เคยเป็น "เดอะแบก" ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แถมยังถูกยกให้เป็นกองกลางที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น กระทั่งการมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา บทบาทของเขาก็ค่อย ๆ ลดน้อยลง จนย้ายออกจากทีมไปเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยายา ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ เรือใบสีฟ้า จากการลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 230 เกม ทำไปได้ 59 ประตูกับอีก 35 แอสซิตส์ด้วยกัน
8. ปีกขวา - โมฮาเหม็ด ซาลาห์
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับหัวหอกตัวชูโรงของ ลิเวอร์พูล ณ ปัจจุบันอย่าง โม ซาลาห์ ที่ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2017 เจ้าตัวก็ระเบิดฟอร์มเทพพา หงส์แดง กวาดแชมป์รายการต่าง ๆ มาครองได้เป็นว่าเล่นไม่เว้นแม้แต่แชมป์ลีกที่รอมานานถึง 30 ปี แถมจนถึงตอนนี้แข้งชาวอียิปต์ลงสนามในลีกไปแล้ว 127 นัดทำไปถึง 81 ประตูกับอีก 33 แอสซิสต์ด้วยกัน
9. ปีกซ้าย - ซาดิโอ มาเน
อีกหนึ่งตัวชูโรงของ ลิเวอร์พูล ยุคปัจจุบันที่เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการพา หงส์แดง ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ หอกชาวเซเนกัล ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มายังถิ่น แอนฟิลด์ ในปี 2016 ด้วยค่าตัวกว่า 20 ล้านปอนด์ และลงสนามให้กับทั้งสองสโมสรในลีกไปแล้วถึง 199 นัด ยิงได้ 88 ประตูกับอีก 36 แอสซิสต์เลยทีเดียว
10. กองหน้า - ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง
ยอดศูนย์หน้าชาวกาบองที่แจ้งเกิดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และเป็น อาร์เซนอล ที่ยอมควักเงินเกือบ 60 ล้านปอนด์ มาร่วมทีมในช่วงต้นปี 2018 ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการระเบิดฟอร์มเก่งยิงประตูถล่มทลายกับทีมไปถึง 55 ประตูจากการลงสนามใน พรีเมียร์ลีก 91 เกม แถมยังมีดีกรีเป็นถึงดาวซัลโวของลีกเมื่อปี 2018/19 อีกด้วย
11. กองหน้า - ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ปิดท้ายกันที่ยอดกองหน้าฉายาแมลงสาปผู้ที่กองหลังหลาย ๆ คนต่างยกให้เป็นหัวหอกที่รับมือยากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงชาวไอวอรี่โคสต์ของ เชลซี ที่ระเบิดฟอร์มเก่งพา สิงห์บลู คว้าแชมป์มามากมายตลอด 8 ปี กับสโมสร โดยเคยคว้าแชมป์ลีกกับ สิงโตน้ำเงินคราม 4 สมัย เอฟเอ คัพ 4 สมัย อีเอฟแอล คัพ 4 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย โดยลงสนามให้ทีมในเกมลีกไปทั้งสิ้น 254 นัด ทำได้ 104 ประตูกับอีก 63 แอสซิสต์ด้วยกัน