[BEST XI] ย้อนรอยที่สุดแห่งปี 11 ผู้เล่นจากยอดทีมแห่งความทรงจำ : เรอัล มาดริด 2017/18
นี่คือซีรีย์ที่เราจะพาผู้อ่านทุกท่านย้อนอดีตไปดู 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุด ในยุครุ่งเรืองของแต่ละสโมสร ที่ว่ากันว่าฟอร์มเทพที่สุด ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุดในยุคสมัยนั้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละทีมก็มียุคทองที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับ...
เรอัล มาดริด ปี 2017/18
แม้ พลพรรคราชันชุดขาว ในช่วงไม่กี่ปีหลัง จะไม่ประสบความสำเร็จใน ลาลีกา มากเทียบเท่ากับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลนา แต่ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีเนดีน ซีดาน กุนซือจำเป็นที่เข้ามารับงานต่อจาก ราฟา เบนิเตซ เมื่อปี 2016 กลับสามารถมาตรฐานอันเหลือเชื่อด้วยการทำสถิติคว้าแชมป์ 3 สมันติดต่อกันได้สำเร็จ เช่นเดียวกับในปี 2018 ที่ผ่านมา ที่ พลพรรคราชันชุดขาว ไม่ประสบความสำเร็จกับฟุตบอลภายในประเทศ แต่กลับสามารถผงาดคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ในที่สุดด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน
วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปดู 11 ขุนพลที่พา เรอัล มาดริด เถลิงบรรลังยุโรปชนิดที่แฟน หงส์แดง หลายคนเสียดายสุด ๆ หลังจากจบเกมในวันนั้น โดยจะมีใครกันบ้าง ไปชมกันเลย...
1. ผู้รักษาประตู - เคย์เลอร์ นาบาส
ยอดนายทวารมือหนึ่งชาวคอสตาริกา ผู้ปิดทองหลังพระให้กับ เรอัล มาดริด มาโดยตลอด นาบาส เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูมือดีคนหนึ่งของโลกที่มักจะไม่ได้รับการยกย่องมากเท่าที่ควร แม้แต่ในทีม ราชันชุดขาว เองที่มักจะมีข่าวว่ามองหานายด่านคนใหม่มาแทนที่แทบจะทุกปี กระทั่งในที่สุดก็ถูก ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงไป ทำให้ต้องย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2019 ที่ผ่านมา
2. กองหลัง - ดานี การ์บาฆาล
แบ็คขวาผู้เติมโตมาจากทีมเยาวชนของสโมสร ก่อนจะไปแจ้งเกิดกับ เลเวอร์คูเซน ทำให้ทีมต้องรีบดึงตัวกลับมาใช้งานตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยืนเป็นกำลังหลังในถิ่น ซานติอาโก เบอร์นาเบว มาจนถึงทุกวันนี้
3. กองหลัง - ราฟาเอล วาราน
กองหลังชาวฝรั่งเศสที่ เรอัล มาดริด ดึงตัวมาปลุกปั้นจาก ล็องส์ ทีมในลีกเอิง เมื่อปี 2011 กระทั่งเติบใหญ่การเป็นกำลังหลักของทั้ง ราชันชุดขาว และยังสามารถคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส มาครองได้อีกในปีนั้น จึงไม่แปลกที่หลายจะคนยกให้เขาเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน
4. กองหลัง - เซร์คิโอ รามอส
ตำนานกองหลังกัปตันทีมที่ทุกคนรู้กิตติศัพท์ของเขาดี แม้จะอายุอานาปาเข้าไป 30 กลาง ๆ แล้ว แต่ความเก๋าบวกกับประสบการณ์อันเหลือล้นของเขายังคงจำเป็นอย่างยิ่งกับ เรอัล มาดริด ในยุคปัจจุบัน ซึ่งคงต้องบอกว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล คงจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าใดนัก เพราะในรอบชิงปีนั้นเขาเป็นคนทำให้สตาร์เบอร์หนึ่งของ หงส์แดง อย่าง โม ซาลาห์ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ ส่งผลให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปในทันที
5. กองหลัง - มาร์เซโล
แบ็คจอมบุกทีมชาติบราซิล ถูกดึงตัวมายังถิ่น ซาติอาโก เบอร์นาเบว ตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งในขณะนั้น โรแบร์โต้ คาร์ลอส ยังคงประจำการอยู่ กระทั้งตำนานแซมบ้าย้ายออกจากทีมไป มาร์เซโล ก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนที่ได้อย่างไร้ที่ติ ซึ่งจนถึงปัจจุบันเขาก็ยังคงเป็นกำลังหลักช่วยทีมกวาดแชมป์มาประดับสโมสร หากนับตั้งแต่แข้งรายนี้่ย้ายเข้ามาก็ร่วม 21 รายการเข้าไปแล้ว
6. กองกลาง - กาเซมิโร
มิดฟิลด์ตัวรับทีเคยเหมือนจะหมดอนาคตกับทีมไปแล้วหลังจากช่วงแรกที่ทีมยืมตัวมาจาก เซา เปาโล นั้น เจ้าตัวยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ กระทั่งทีมซื้อขาดมาในปี 2013 และปล่อยให้ ปอร์โต้ ยืมตัวในปีต่อมา จากนั้นเขาค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนระเบิดฟอร์มเก่งและยึดตัวหลักในทีม ราชันชุดขาว ได้สำเร็จจนถึงทุกวันนี้
7. กองกลาง - ลูก้า โมดริช
ยอดกองกลางทักษะสูงที่เรื่องฝีเท้าทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว โมดริช ยกระดับตนเองจนเป็นแข้งเวิลด์คลาสได้สำเร็จนับตั้งแต่ย้ายมาจาด ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 2012 เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเกมในแดนกลางจนทีมประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีต่อ ๆ มา อีกทั้งในปี 2018 เจ้าตัวพาทีมชาติโครเอเชีย ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกจนคว้ารางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ มาครองได้สำเร็จอีกด้วย
8. กองกลาง - โทนี โครส
ห้องเครื่องทีมชาติเยอรมัน ที่แม้จะล้มเหลวในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ที่ผ่านมา แต่ในปีนั้นเอง ผลงานการคุมเกมในแดนกลางของเขากับ เรอัล มาดริด จัดว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ด้วยการยืนจับคู่กับ โมดริช ในแผงมิดฟิลด์ เป็นอะไรที่เข้าขาลงตัวสุด ๆ จนหลาย ๆ คนนำไปเปรียบกับสองตำนาน บาร์เซโลนา อย่าง ชาบี และ อิเนียสต้า เลยทีเดียว
9. กองหน้า - แกเรธ เบล
ยอดนักเตะที่ดูเหมือนแฟน ๆ เรอัล มาดริดและกุนซืออย่าง ซีดาน ดูจะไม่ปลื้มเสียเท่าไหร่นัก แม้ว่าเรื่องฝีเท้า เบล จะจัดอยู่ในเบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยพฤติกรรมความประพฤติของเขาอาจจะไม่อยู่ในร่องในรอยมากเท่าใดนัก อย่างไรก็ตามปีนั้นดาวยิงชาวเวลส์ เป็นพระเอกในเกมนัดชิงชนะเลิศด้วยการตะบัน 2 ประตูใส่ ลิเวอร์พูล ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลูกตีลังกายิงสุดสวย ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ในที่สุด
10. กองหน้า - คริสเตียโน โรนัลโด้
ปีนั้นเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสรายนี้ค้าแข้งในถิ่น ซาติอาโก เบอร์นาเบว ซึ่งตลอด 9 ปีที่ผ่านมา คงไม่ต้องบอกว่าเขาประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหนทั้งในด้านส่วนตัวและกับสโมสร จนถึงขนาดที่หลายคนยกให้เป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์ ราชันชุดขาว เลยทีเดียว โดยเกือบทศวรรษ โรนัลโด้ ทำไปได้ทั้งสิ้นกว่า 450 ประตูจากการลงสนามเพียง 438 นัดเท่านั้น
11. กองหน้า - คาริม เบนเซมา
แม้ในปีนั้นจะเป็นปีที่ค่อนข้างย่ำแย่สุด ๆ ของเขานับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2009 แต่อย่างไรก็ตามอดีตกองหน้าจาก โอลิมปิก ลียง รายนี้ ก็ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาได้ในซีซั่นนั้น แถมยังเป็นผู้ทำประตูออกนำให้กับทีมในเกมนัดชิงชนะเลิศจากลูกส้มหล่น จนทำพวกเขาสามารถกุมความได้เปรียบและสามารถคุมเกมให้อยู่ในกำมือได้ตลอดเวลาที่เหลือในวันนั้น
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด