อาร์เซนอล เช็คฟิตหอกตัวเก่งรับมือ เชลซี : พรีวิวพรีเมียร์ลีก, วัน+เวลาแข่งขัน, คาดการณ์ 11 ตัวจริง และถ่ายทอดสด

Arsenal v Chelsea - Premier League
Arsenal v Chelsea - Premier League / Chloe Knott - Danehouse/Getty Images
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 00:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : อาร์เซนอล พบ เชลซี
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1


ความพร้อมของทั้งสองทีม

อาร์เซนอล
กาเบรียล มาร์ติเนลลี ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้งในเกมที่พวกเขาปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก คาราบาว คัพ 4-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาและคาดว่าจะไม่สามารถลงสนามในศึก ลอนดอนดาร์บี้ได้ ขณะที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ชวดลงสนามให้กับทีมมา 2 นัดติดต่อกันจากอาการบาดเจ็บที่น่องแต่เชื่อว่า มิเคล อาร์เตต้า จะเข็นกองหน้าทีมชาติ กาบอง ลงสนามหาก โอบาเมยอง ผ่านการทดสอบความฟิต

ทั้งนี้ กรานิท ชาก้า เพิ่งพ้นโทษแบนกลับมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในแดนกลางให้กับกุนซือชาว สเปน

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 3-4-3
ผู้รักษาประตู : เลโน
กองหลัง : โฮลดิ้ง, มากัลญาเอส, เทียร์นีย์
กองกลาง : เมตแลนด์-ไนลส์, เอลเนนี, เซบายอส, ซาก้า
กองหน้า : เปเป้, เอ็นเคเทียห์, วิลเลียน

เชลซี
มีความเป็นไปได้สูงที่ แทมมี อับราฮัม จะสามารถรักษาตำแหน่งตัวจริงในเกมนี้ไว้ได้หลังจากที่เจ้าตัวใส่สกอร์ในศึก ลอนดอนดาร์บี้ กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ขยับไปนั่งสำรอง

จากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของ รีซ เจมส์ ทำให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จะได้ออกสตาร์ทประจำการในตำแหน่งแบ็คขวาแทนที่ เช่นเดียวกับ เอเมอร์สัน ซึ่งน่าจะได้ลงสนามแทน เบน ชิลเวลล์ ที่เดี้ยงในฝั่งซ้าย

คาดการณ์ว่า มาเตโอ โควาชิช กับ จอร์จินโญ จะได้เบียดลุ้นลงสนามแทนที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลังเจ้าตัวทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจนักในช่วงหลัง ขณะที่ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย หายจากอาการบาดเจ็บและมีสิทธิ์ที่จะมีอยู่ในทีมชุดเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะยังไม่สามารถใช้งาน ฮาคิม ซิเย็ค ได้จากโรคเดี้ยง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : เมนดี้
กองหลัง : อัซปิลิกวยต้า, ซูมา, ซิลวา, เอเมอร์สัน
กองกลาง : โควาชิช, ก็องเต้, เมาท์
กองหน้า : พูลิซิช, อับราฮัม, แวร์เนอร์


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

อาร์เซนอล - ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3
23 ธันวาคม คาราบาว คัพ - อาร์เซนอล 1-4 แมนฯ ซิตี้
20 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 2-1 อาร์เซนอล
17 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - อาร์เซนอล 1-1 เซาต์แธมป์ตัน
14 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - อาร์เซนอล 0-1 เบิร์นลีย์
11 ธันวาคม ยูโรปาลีก - ดันดอล์ค 2-4 อาร์เซนอล

เชลซี - ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
22 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - เชลซี 3-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
16 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - วูล์ฟส 2-1 เชลซี
13 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี
9 ธันวาคม แชมเปี้ยนส์ลีก - เชลซี 1-1 คราสโนดาร์
6 ธันวาคม พรีเมียร์ลีก - เชลซี 3-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด

เฮดทูเฮด - อาร์เซนอล ชนะ 2 เสมอ 1 เชลซี ชนะ 2
1 สิงหาคม 2020 เอฟเอ คัพ - อาร์เซนอล 2-1 เชลซี
22 มกราคม 2020 พรีเมียร์ลีก - เชลซี 2-2 อาร์เซนอล
29 ธันวาคม 2019 พรีเมียร์ลีก - อาร์เซนอล 1-2 เชลซี
30 พฤษภาคม 2019 ยูโรปาลีก - เชลซี 4-1 อาร์เซนอล
20 มกราคม 2019 พรีเมียร์ลีก - อาร์เซนอล 2-0 เชลซี


สถิติที่น่าสนใจ

- อาร์เซนอล ไร้ชัยในเกมลีก 7 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว (เสมอ 2 แพ้ 5) ส่งผลให้พวกเขารั้งอันดับที่ 15 บนตารางคะแนนมีแต้มเฉลี่ยต่อนัดที่ 1 คะแนน (14 นัด 14 คะแนน) ยังอยู่ในเส้นทางเป็นไปได้ต่อการไม่ตกชั้นหากคาดการณ์แต้มทั้งหมด (38 นัด 38 คะแนน) โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของทีมที่ได้แต้มแตะหลักไมล์ดังกล่าวสามารถอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไปได้

ทว่าหาก ไอ้ปืนใหญ่ พ่ายแพ้ในเกมกับ สิงห์บลู จะทำให้การคาดการณ์คะแนนเฉลี่ยของพวกเขาในซีซันนี้ตกลงไปที่ 35 แต้ม และมีเพียง 48 เปอร์เซ็นต์ของทีมที่ได้แต้มดังกล่าวเท่านั้นที่รอดพ้นต่อการตกชั้น

- เดอะกันเนอร์ส รั้งอันดับครึ่งล่างของตารางคะแนนในช่วง คริสต์มาส เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน โดยซีซันที่แล้วในช่วงเวลานี้ยังกลายเป็นเกมแรกในบ้านของ มิเคล อาร์เตต้า ในฐานะกุนซือ ปืนโต และเป็นการพบกับ เดอะบลูส์ เช่นเดียวกัน ซึ่งฤดูกาลก่อน อาร์เซนอล เจอ เชลซี รัว 2 ประตูในช่วงท้ายเกมบุกมาเอาชนะคาถิ่น 2-1

ทั้งนี้ การพบกันระหว่างทั้ง 2 ทีมในรายการ พรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุดมีสกอร์เกิดขึ้นเสมอในครึ่งแรกหรือครึ่งหลัง

- สิงห์บลู มีโอกาสที่จะทำสถิติเอาชนะ ปืนใหญ่ ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 โดยพวกเขายังมีสถิติขึ้นนำก่อนคู่แข่งในครึ่งแรกของเกมเยือน พรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้ทั้งหมด 12 นัดติดต่อกัน นอกจากนั้น เดอะบลูส์ ยังมีสัดส่วนกดประตูในครึ่งหลังของเกมเยือนสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

- ก่อนหน้าที่ โรมัน อบราโมวิช จะเทคโอเวอร์ สิงโตน้ำเงินคราม ในปี 2003 พวกเขามีสถิติพ่ายแพ้ในเกมเยือนต่อ ปืนโต ที่สัดส่วน 72.73 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามในยุคของ เสี่ยหมี สัดส่วนดังกล่าวลดลงไปเหลือเพียง 35.29 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

- วิลเลียน มีสิทธิ์ที่จะได้ลงสนามดวลกับทีมเก่าโดยเจ้าตัวมีสถิติทำประตูในศึก ลอนดอนดาร์บี้ นัดล่าสุดได้ 2 ประตูแต่ต้นสังกัดตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขณะที่ แทมมี อับราฮัม เพิ่งทำประตูในเกมกับ เวสต์แฮม และยังเป็นคนซัดชัยให้กับพวกเขาในโปรแกรมนี้เมื่อฤดูกาลก่อน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด