แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน: ว่าที่กัปตันคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กองหลังของ ลิเวอร์พูล ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก และกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ แอบบ่นเสียดายเล็กน้อยหลังจบเกมที่ขุนพล ตาร์ตัน เสมอกับ ทีมชาติอังกฤษ ไปด้วยสกอร์ 0-0 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ของศึก ยูโร 2020 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาที่สนาม เวมบลีย์
อย่างไรก็ตามด้วยการมี 1 คะแนนยังสามารถช่วยต่อลมหายใจให้ทีมจากดินแดนแห่งวิสกี้มีสิทธิ์ลุ้นผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการเข้าร่วมการแข่งขันระดับเมเจอร์ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาทำได้ดีที่สุดแค่รอบแรกเท่านั้น
หลังจบเกมหลายคนแสดงความชื่นชม สกอตแลนด์ ที่สู้กับทีมเพื่อนบ้านอย่าง สิงโตคำราม ได้อย่างสูสี และมีจังหวะที่ครองบอลกดดันใส่เจ้าบ้านอยู่หลายนาที รวมทั้งยังมีช็อตหวาดเสียวเกือบได้ประตูอยู่หลายครั้ง
แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนคือ การทำหน้าที่กัปตันทีมอย่างยอดเยี่ยมของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในการลงเล่นเกมระดับเมเจอร์ครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1998 เป็นต้นมา
ภาพที่เราได้เห็นคือ หลังจบเกม ร็อบโบ้ เดินเข้าไปกอด จับมือ และพุดคุยกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น จากนั้นเขาได้นำลูกทีมเดินปรบมือไปรอบ ๆ สนาม เวมบลีย์ เพื่อขอบคุณแฟนบอลที่อุตส่าห์เดินทางมาเชียร์ทีมถึงลอนดอน ก่อนจะไปให้สัมภาษณ์สื่อต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เขาจะสามารถรับหน้าที่นี้กับ ลิเวอร์พูล ได้หรือไม่
ในทีม หงส์แดง นั้น เยอร์เก้น คล็อปป์ จะวางตัวนักเตะที่จะทำหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมเอาไว้ 4 รายคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์ และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ตามหลักการง่าย ๆ คือถ้าใครไม่ได้ลงสนาม คนถัดไปก็เป้นผู้นำทีมแทน
ดังที่เราจะเห็นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของซีซันที่แล้วที่ ไวจ์นัลดุม รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมเนื่องจาก 3 คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถลงสนาม
อย่างไรก็ตามเมื่อกองกลางดัตช์แมนอำลาทีมย้ายไปซบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำให้ตำแหน่งในกลุ่มผู้นำทีว่างลง 1 ที่ ซึ่งตรงนี้อาจเป็นทีของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ก็ได้
ที่ผ่านมาบทบาทของนักเตะระดับซีเนียร์ทั้ง 4 รายในฐานะผู้นำนั้นถือว่ามีความสำคัญมาก และเมื่อตำแหน่งว่างลงจะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องตัดสินใจเลือกใครซักคนเข้ามาแทนที่
เดิมทีหากกลุ่มผู้นำทีมทั้ง 4 รายไม่สามารถลงสนามได้พร้อม ๆ กัน นายใหญ่ชาวเยอรมันจะเลือกนักเตะที่รับใช้ทีมมานานรับหน้าที่ผู้นำทีม แต่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลักการดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงไป ดังที่เราได้เห็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับโอกาสในการเป็นกัปตันทีมในเกมที่ ไวจ์นัลดุม ลงสนามไม่ได้ ซึ่งพวกเขาก็ได้แสดงออกต่อสาธารณอย่างชัดเจนว่าพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มผู้นำทีมในอนาคต
นั่นจึงทำให้การสรรหา “ว่าที่กัปตันคนต่อไป“ เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการที่ เจมส์ มิลเนอร์ กำลังอยู่ในช่วงโรยราและจะหมดสัญญากับทีมในฤดูกาลหน้า รวมทั้งการจากไปของ ไวจ์นัลด ทำให้ปีหน้าทั้ง เทรนท์ และ ซาลาห์ อาจได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และบางทีอาจเป็นโอกาสที่ โรเบิร์ตสัน จะได้ก้าวขึ้นขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เช่นกัน
หากเทียบกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสองราย ร็อบโบ้ ดูจะมีทุกอย่างที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ ลิเวอร์พูล คนต่อไป ทั้งประสบการณ์ในการเป็นกัปตันทีมชาติที่มากกว่า อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่เพื่อนร่วมทีมต่างให้ความชื่นชอบและยอมรับ และในช่วงหลายปีที่ลงสนามให้กับทีมเจ้าตัวแทบจะไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนักเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่เขากำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพการค้าแข้งในวัย 27 ปีอีกด้วย
ดังนั้นแม้จะยังคงมีการถกเถียงกันเรื่องการตามหากองกลางคนใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของ ไวจ์นัลดุม อยู่ก็ตาม แต่สำหรับเรื่องการแทนที่สตาร์ชาวดัตช์ในแง่ของการเป็นผู้นำทีมนั้น เยอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะสิ่งที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แสดงออกกับทีมชาติสกอตแลนด์ในศึก ยูโร ครั้งนี้มันชัดเจนอยู่แล้วว่า
เขาคือกัปตันทีมของ ลิเวอร์พูล คนต่อไปอย่างแน่นอน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด