วิเคราะห์เหตุผลที่ ลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องซื้อซูเปอร์สตาร์ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์- OPINION

Liverpool v Crystal Palace - Premier League
Liverpool v Crystal Palace - Premier League / Pool/Getty Images
facebooktwitterreddit

ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์นี้ถือได้ว่าคึกคักพอตัว เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ พรีเมียร์ลีก สั่นสะเทือนวงการด้วยการดึง เจดอน ซานโช มาร่วมทีมหลังจบศึก ยูโร 2020

มหากาพย์ระหว่างทีม ปีศาจแดง และดาวเตะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังจะถึงตอนจบหลังจากที่สามารถตกลงค่าตัวและเงื่อนไขต่าง ๆ กันได้เป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น ในขณะที่เป้าหมายต่อไปของพวกเขาคือ ราฟาเอล วาราน ปราการหลังจอมคลาสสิคจาก เรอัล มาดริด

ข้ามฟากมายัง “เพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ” อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูกสื่อจับโยงกับ แฮรืรี เคน และ แจ็ค กรีลิช ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับการทุ่มเงินมหาศาลถึง 200 ล้านปอนด์เพื่อคว้า 2 สตาร์ทีมชาติอังกฤษในตลาดซัมเมอร์

แม้จะยังไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรม แต่เชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะเดินหน้าคว้าซูเปอร์สตาร์ชื่อดังเข้ามาสู่ทีมก่อนตลาดปิดอย่างแน่นอน

Ibrahima Konate, Andrej Kramaric
TSG Hoffenheim v RB Leipzig - Bundesliga / Christian Kaspar-Bartke/Getty Images

หันกลับมาดูแชมป์เก่าเมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้วอย่าง ลิเวอร์พูล บ้าง พวกเขาจัดการคว้าตัว อิบราฮิมา โคนาเต้ มาร่วมทีมไปตั้งแต่หลังจบฤดูกาลใหม่ ๆ โดยสามารถปิดดีลได้อย่างรวดเร็ว ไร้กังวล ตามสไตล์ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ และทีมงาน

จากนั้น หงส์แดง ก็มีข่าวตามมาว่าพวกเขาต้องการกองหน้าและกองกลางที่จะมาแทนที่ จีนี ไวจ์นัลดุม รวมกันอย่างน้อยอีก 2 ราย แต่จนแล้วจนรอดทุกอย่างก็ยังคงเงียบเป็นป่าช้า

ความที่ไม่เคลื่อนไหวเช่นนี้ทำเอา เดอะค็อป หลายคนใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เหมือนกันว่า ถ้าเสริมแค่นี้ทีมจะสู้เขาไหวมั้ย ในขณะที่คู่แข่งพากันทุ่มเงินก้อนโตอย่างไม่กลัวเสียดาย

ซึ่งเมื่อดูจากปฏิกิริยาและข่าววงในแล้ว ดูเหมือนว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะพอใจกับทีมที่มีอยู่ในมือ ณ เวลานี้

Virgil van Dijk
Everton v Liverpool - Premier League / Catherine Ivill/Getty Images

ต้องไม่ลืมว่าปัญหาสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วคือ “อาการบาดเจ็บ” ของ 3 เซ็นเตอร์แบ็ค ไล่ไปตั้งแต่ เวอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงธันวาคม

กว่าที่พวกเขาจะกลับมาตั้งหลักโกยแต้มได้เป็นกอบเป็นกำก็ล่วงเข้าสู่ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนที่จะคว้าที่ 3 มาครองได้สำเร็จ

และเมื่อวิเคราะห์ได้เช่นนั้น หลังจบฤดูกาล เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานจึงได้มุ่งมั่นในการตามหาเซ็นเตอร์แบ็คที่ไว้ใจได้มาร่วมทีมโดยทันที ซึ่งในทีแรกหลายคนนึกว่าพวกเขาจะตัดสินใจซื้อขาด โอซาน คาบัค แต่ถ้าใครรู้จักกุนซือชาวเยอรมันดีจะทราบว่าเขาไม่ใช่คนที่เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

ประมาณว่าถ้าอยากได้ใคร เขาก็ต้องการคนนั้น และยืนยันว่าต้องเป็นนักเตะที่เขาต้องการเท่านั้น ดูได้จากการคว้า ฟาน ไดค์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เมื่อ 3 ปีก่อน

Alisson
Burnley v Liverpool - Premier League / Clive Mason/Getty Images

หงส์แดง จึงจัดการกลับไปหาเป้าหมายเดิมอย่าง โคนาเต้ ซึ่งเคยมีข่าวกันตั้งแต่ช่วงปีใหม่ และยอมจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาจำนวน 36 ล้านปอนด์คว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ

ส่วนคนที่ไม่ใช่เป้าหมายก็ปล่อยให้ลือกันต่อไป

นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาระยะยาวของ คล็อปป์ ซึ่งเขามองว่าหากเกิดวิกฤติกองหลังขึ้นอีก อย่างน้อยเขามี โคนาเต้ ไว้ในมือเพื่อรองรับเรื่องพวกนี้

เมื่อปัญหาสำคัญได้ถูกแก้ไขไปแล้ว ที่เหลือคือการกลับมาของนักเตะตัวหลักทั้ง ฟาน ไค์, โกเมซ, มาติป รวมทั้ง จอร์แแดน เฮนเดอร์สัน ที่เจ็บไปช่วงท้ายซีซันก่อนและเพิ่งกลับมาทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษใน ยูโร 2020 

Jordan Henderson
Ukraine v England - UEFA Euro 2020: Quarter-final / Eurasia Sport Images/Getty Images

รวมกับผู้เล่นตัวหลักที่มีอยู่ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงเป็นทีมที่คู่แข่งต้องเกรงใจกันอยู่เหมือนเดิม โดย 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะใช้งานในซีซันหน้าจะออกมามีหน้าตาประมาณนี้

อลิสซอน เบ็คเกอร์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, โคนาเต้, ฟาน ไดค์, เทรนท์ อาร์โนลด์, เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, ติอาโก้, มาเน, ฟีร์มีโน และ ซาลาห์

ยังไม่นับตัวสำรองอย่าง โกเมซ, มาติป, เคอร์ติส โจนส์, อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน หรือ ดิโอโก โชต้า ซึ่งแม้ว่าขุมกำลังเชิงลึกอาจจะยังสู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ แต่กับ 11 ตัวจริง หงส์แดง แทบจะไม่ต้องมีการผ่าตัดทีมอะไรเลยด้วยซ้ำ

คล็อปป์ มั่นใจว่าถ้าลูกทีมของเขากลับมาฟิตกันทุกคนก็ยากที่จะมีใครมาหยุดได้ ซึ่งมันไม่ใช่ความประมาท แต่เป็นความไว้เนื้อเชื่อใจจากการร่วมงานกันมาในระยะ 3-4 ปีหลังมากกว่า และเขาก็เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าการมี 11 ตัวจริงครบสมบูรณ์นั้นช่วยให้เขาประสบความสำเร็จมากขนาดไหน

Harry Kane
Ukraine v England - UEFA Euro 2020: Quarter-final / Eurasia Sport Images/Getty Images

เมื่อหันไปมองคู่แข่งอย่าง ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด การที่พวกเขามีข่าวกับนักเตะซูเปอร์สตาร์ดาวดังค่าตัวแพงนั้น มุมหนึ่งอาจเป็นที่อิจฉาของแฟนบอลหลาย ๆ ทีม แต่อีกมุมก็สะท้อนให้เห็นว่า ทีมเห่านั้นยังไม่ลงตัวเสียทีเดียว ทำให้ต้องทุ่มเงินเพื่อเติมเต็มสิ่งขาดหายไป

ซิตี้ ขาดกองหน้าตัวเป้าหลัง อเกวโร หมดสัญญา ส่วน ยูไนเต็ด ก็ตามหาปีกขวาและเซ็นเตอร์แบ็คเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและทีเด็ดทีขาดในการลุ้นแชมป์ 

ดังนั้นการที่ คล็อปป์ สามารจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็วและการได้นักเตะตัวหลักกลับมาอีกครั้งในช่วงพรีซีซัน จึงทำให้เขาไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าสตาร์ดังเหมือนกับทีมอื่น

เพราะเจ้าตัวเชื่อว่าสิ่งที่มีอยู่ในมือก็เพียงพอกับการกลับมาลุ้นความสำเร็จในซีซันหน้าได้เหมือนกัน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด