ทีมชาติไทย 2 - 0 สิงคโปร์ : สดุดี "ช้างศึก" ทีมเดียวที่ชนะรวดรอบแบ่งกลุ่ม

การแข่งขัน : เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 นัดที่ 4
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 19.30 น. (ตามเวลาไทย)
คู่แข่งขัน : ทีมชาติไทย 2 - 0 สิงคโปร์
สนาม : Singapore National Stadium

ทีมชาติไทย ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปแล้ว ลงเล่นใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม เกมสุดท้าย พบกับเจ้าภาพอย่าง สิงคโปร์ ซึ่งผ่านเข้ารอบแล้วเช่นกัน โดยเจ้าของแชมป์รายการนี้ 5 สมัย คือ 1996, 2000, 2002, 2014, 2016 จัด 11 ผู้เล่นตัวจริง ด้วยระบบ 4-2-3-1 วาง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นผู้รักษาประตู แบ็คซ้ายใช้ สุริยา สิงห์มุ้ย ขวาเป็น ทริสตอง โด

เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ เอเลียส ดอเลาะ ไปคู่กับ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ กองกลางตัวรับใช้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ วาง 3 ประสานเกมรุมี บดินทร์ ผาลา, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ สวมปลอแขนกัปตันทีม โดยมี ศุภชัย ใจเด็ด เป็นหัวหอกตัวเป้า

เปิดฉากครึ่งแรก น.11 ศืวรักษ์ เทศสูงเนิน รับบอลกระฉอก อิคชาน ฟานดี้ กำลังจะเข้าชาร์จ แต่ว่า เอเลียส ดอเลาะ เคลียร์บอลออกหลังไป น.13 ศุภชัย ใจเด็ด อัด อิรฟาน ฟานดี้ โชคดีที่ลุกมาเล่นต่อได้ น.16 บดินทร์ ผาลา จ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้า ฮามี ชยาฮิน กดจากหน้าเขตโทษเต็มข้อ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ทุบบอลทิ้งได้ทัน น.18 ฮามี ชยาฮิน รับใบเหลืองแรกของเกม หลังไปเสียบ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

น.31 บดินทร์ ผาลา ซัดฟรีคิกทางฝั่งขวาด้วยซ้าย ส่งด้วยซ้าย ฮันซัน ซันนี่ ปัดไม่พ้นหน้าปากประตู เอเลียส ดอเลาะ ตามซ้ำส่งบอลเข้าไป ทำให้ ทีมชาติไทย ขึ้นนำ สิงคโปร์ 1-0 น.45+5 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จ่ายบอลให้ ศุภชัย ใจเด็ด กดเน้นๆในเขตโทษส่งบอลเข้าไป เป็นลูกที่สองในรายการนี้ พาทีมชาติไทย หนี 2-0 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลังไทยส่ง ฟิลิป โรลเลอร์, ปกเกล้า อนันต์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงไปแทน สุริยา สิงห์มุ้ย, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ กับ บดินทร์ ผาลา น.61 ฟิลิป โรลเลอร์ ซัดที่เสาแรก แต่โดน ซุลฟามี กองกลาง สุโขทัย เอฟซี ตามมาบล็อกส่งบอลออกหลังไป น.65 "ช้างศึก" ถอด ฐิตพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ ศุภชัย ใจเด็ด แล้วให้ พิชา อุทรา และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ลงไปแทน

น.69 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โดนใบเหลือง หลังจากไปถ่วงเวลาในการเปิดเกม น.73 ศิวรณ์ เตียตระกูล รับใบเหลืองอีกคน หลังไปเสียบ ฟาริส รามลี น.86 ทริสตอง โด ขึ้นเกมทางซ้าย ก่อนปาดไปหน้าประตู อดิศักดิ์ ไกรษร ชาร์จไม่ถึง ก่อนเป็น ฟิลิป โรลเลอร์ ล้มตัวยิง ทว่าไปเข้าข้างตาข่าย

ก่อนจบเกมทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ไป 2-0 เก็บ 12 คแนนเต็ม เป็นทีมเดียวใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ทำได้ กลายเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะเจอกับที่ 2 ของกลุ่ม บี ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้

คะแนนนักเตะ

11 ผู้เล่นตัวจริง : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (7), สุริยา สิงห์มุ้ย (7), ทริสตอง โด (7), เอเลียส ดอเลาะ (9), ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ (8), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (7), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (7), บดินทร์ ผาลา (8), วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (7), ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (7), ศุภชัย ใจเด็ด (8)

ตัวสำรอง : ฟิลิป โรลเลอร์ (7), ปกเกล้า อนันต์ ( 7), อดิศักดิ์ ไกรษร (7), พิชา อุทรา (7), ศิวกรณ์ เตียตระกูล (7)

คีย์แมน - เอเลียส ดอเลาะ

นอกจากการทำ 1 ประตู ให้ทีมชาติไทย ขึ้นนำ 1-0 ก่อนชนะ 2-0 เป็นแชมป์กลุ่ม เอ แล้ว การเล่นเกมรับของปราการหลังจาก การท่าเรือ เอฟซี ยังแสดงให้เห็นถึงความนิ่ง และอ่านเกมได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะจังหวะที่โดนโต้กลับมา แต่เขากลับสกัดบอลอย่างเนียนกริบ แบบไร้ที่ติเลยก็ว่าได้

จริงๆแล้ว เอเลียส ดอเลาะ เป็นกองหลังที่เก่งที่สุดในไทยลีก คนหนึ่ง เพียงแต่พื้นที่ในทีมชาติไทย ลูกครึ่งไทย-สวีเดน คนนี้ กลับยังต้องรอเวลา เพราะมีหลายคนที่โดดเด่น แต่วันนี้เขาทำให้เห็นว่า ความนิ่ง และ เยือกเย็น เมื่อมาจับคู่กับ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย กลายเป็นกำแพงจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่หนาแน่นเสียเหลือเกิน

ประเด็นหลังเกม

ในตอนจัด 11 คนแรก ถือว่าพลิกล็อกครั้งใหญ่ และเป็นเรื่องที่งงงวยกันทั้งประเทศว่า มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ทำอะไรลงไป เพราะเขาเปลี่ยนแบบยกชุด ซึ่งในช่วง 20 นาทีแรก บอลแทบไม่มีทรง แต่หลังจากนั้นคุณภาพยังแวววาวเหมือนชุดแรก เพราะแต่ละรายที่ลงไปนั้น ก็เป็นตัวท็อปของสโมสร ที่ทีมงานสตาฟฟ์เดินทางไปดูฟอร์มถึงขอบสนาม ก่อนที่จะเลือกเข้ามาสู่ทีม

การเล่นของ 16 คนในวันนี้ถือว่าไร้ที่ติจริงๆ อาจจะมีช่วงกดดันตอนโดนขึ้นเกมรุกมาบ้าง แต่โดยรวมแล้วพวกเขากลับทำได้เกินคาด โดยเฉพาะตรงที่ใจสู้และอยากจะสร้างผลงานให้ดี ทำงานอย่างหนัก เล่นตามแท็คติคของโค้ช จนผลงานออกมาได้รับเสียงชื่นชมกันทั้งประเทศ