"ไก่ชน" จิก "กระต่าย" คาบ้าน 3-1 - Match Report
โดย W.PINTHONG
การแข่งขัน : ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 13
วันแข่งขัน : วันพุธที่ 17 พฤษจิกายน 2021
เวลาแข่งขัน : 19.00 น.
คู่แข่งขัน : หนองบัว พิชญ เอฟซี 3-1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
สนาม : พิชญ สเตเดี้ยม
ที่สนามพิชญ สเตเดี้ยม เป็นศึก ไทยลีก 2021-22 เกมตกค้าง ของฤดูกาล ทัพ "เดอะ แรบบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์เก่า บุกเยือน "พญาไก่ชน" หนองบัว พิชญ เอฟซี
เริ่มเกมครึ่งแรก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่สร้างสรรค์เกมรุกได้เหนือกว่าในช่วงต้นเกม และได้ประตูนำที่ต้องการในนาทีที่ 15 เมื่อ สารัช อยู่เย็น หยอดลูกเปิดจากมุมขวาของสนามไปให้ ธีรศิลป์ ที่เสาสอง ทว่า กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ยังปัดลูกโขกของ ธีรศิลป์ ได้เยี่ยม แต่โชคยังเข้าข้างทีมเยือน ส่งบอลไปเข้าทางเท้าซ้ายของ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ซัดให้ เดอะ แรบบิท ขึ้นนำ 0-1
นาทีที่ 32 ฉัตรชัย เจียกกลาง เก็บบอลจังหวะสองจากลูกเตะมุมของ หนองบัว ก่อนจะลองส่องไกลจากบริเวณเกือบครึ่งสนาม แต่ ฉัตรชัย บุตรพรม ยังบินปัดบอลข้ามคานออกไปได้สำเร็จ ก่อนหมดเวลา 45 นาทีแรกเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นำอยู่ด้วยสกอร์ 0-1
ครึ่งหลัง นาทีที่ 48 เลอสันต์ เทียมราช ได้พื้นที่ทางซ้ายของกรอบหกหลา ก่อนจะซัดเน้นตีเสมอ 1-1 ให้ "พญาไก่ชน" และ นาทีที่ 61 หนองบัว แซงนำ 2-1 จากจังหวะเปิดฟรีคิก และเป็น อิรฟาน ฟานดี้ ที่สกัดบอลผิดจังหวะเข้าประตูตัวเอง
นาทีที่ 89 ตัวสำรอง เออร์เนสโต้ ภูมิภา พาบอลไปสุดเส้นหลังและได้ครอสเข้ากลางมาที่เสาแรก แต่ เชาว์วัตน์ ไม่สามารถเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูได้ตามหวัง แต่ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฮมิลตัน ซัวเรซ ฟรีคิกได้ทางกราบขวา และเป็นกองหลังกัปตันทีม แอร์ตัน ทิราบาสซี่ ที่ขึ้นมาโหม่งประตูที่สามนาทีที่ 92 ให้ หนองบัวนำห่าง 3-1 และจบไปด้วยสกอร์นี้
หนองบัว พิชญ เอฟซี : เลอสันต์ เทียมราช, แอร์ตัน ทิราบาสซี่, ปานศิริ สุกุณีย์, อมานี อกีนัลโด้, ณัฐวุฒิ คำรินทร์, กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ (ผู้รักษาประตู), ฉัตรชัย เจียกกลาง, สถาพร แดงสี, แฮมิลตัน ซัวเรซ, เอียน แรมซีย์, จิรพันธ์ ผาสุขขันธ์
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), อิรฟาน ฟานดี้, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (หัวหน้าทีม), อันเดรส ตูเญซ, สุรชาติ สารีพิมพ์ (เรียว มัตสึมูระ 73’), ยอดรัก นาเมืองรักษ์ (เออร์เนสโต้ ภูมิภา 73’), ฉัตรมงคล ทองคีรี (ณัฐพล วรสุทธิ์ 65’), สารัช อยู่เย็น, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, สิโรจน์ ฉัตรทอง (สันติภาพ จันทร์หง่อม 46’) และ ธีรศิลป์ แดงดา